เมนู

3. ปฏิปทาสุตฺตวณฺณนา

[3] ตติเย มิจฺฉาปฏิปทนฺติ อยํ ตาว อนิยฺยานิกปฏิปทาฯ นนุ จ อวิชฺชาปจฺจยา ปุญฺญาภิสงฺขาโรปิ อตฺถิ อาเนญฺชาภิสงฺขาโรปิ, โส กถํ มิจฺฉาปฏิปทา โหตีติฯ วฏฺฏสีสตฺตาฯ ยญฺหิ กิญฺจิ ภวตฺตยสงฺขาตํ วฏฺฏํ ปตฺเถตฺวา ปวตฺติตํ, อนฺตมโส ปญฺจาภิญฺญา อฏฺฐ วา ปน สมาปตฺติโย, สพฺพํ ตํ วฏฺฏปกฺขิยํ วฏฺฏสีสนฺติ วฏฺฏสีสตฺตา มิจฺฉาปฏิปทาว โหติฯ ยํ ปน กิญฺจิ วิวฏฺฏํ นิพฺพานํ ปตฺเถตฺวา ปวตฺติตํ, อนฺตมโส อุฬุงฺกยาคุมตฺตทานมฺปิ ปณฺณมุฏฺฐิทานมตฺตมฺปิ, สพฺพํ ตํ วิวฏฺฏปกฺขิยํ วิวฏฺฏนิสฺสิตํ, วิวฏฺฏปกฺขิกตฺตา สมฺมาปฏิปทาว โหติฯ อปฺปมตฺตกมฺปิ หิ ปณฺณมุฏฺฐิมตฺตทานกุสลํ วา โหตุ มหนฺตํ เวลามทานาทิกุสลํ วา, สเจ วฏฺฏสมฺปตฺติํ ปตฺเถตฺวา วฏฺฏนิสฺสิตวเสน มิจฺฉา ฐปิตํ โหติ, วฏฺฏเมว อาหริตุํ สกฺโกติ, โน วิวฏฺฏํฯ ‘‘อิทํ เม ทานํ อาสวกฺขยาวหํ โหตู’’ติ เอวํ ปน วิวฏฺฏํ ปตฺเถนฺเตน วิวฏฺฏวเสน สมฺมา ฐปิตํ อรหตฺตมฺปิ ปจฺเจกโพธิญาณมฺปิ สพฺพญฺญุตญฺญาณมฺปิ ทาตุํ สกฺโกติเยว, น อรหตฺตํ อปฺปตฺวา ปริโยสานํ คจฺฉติฯ อิติ อนุโลมวเสน มิจฺฉาปฏิปทา, ปฏิโลมวเสน สมฺมาปฏิปทา เทสิตาติ เวทิตพฺพาฯ นนุ เจตฺถ ปฏิปทา ปุจฺฉิตา, นิพฺพานํ ภาชิตํ, นิยฺยาตเนปิ ปฏิปทาว นิยฺยาติตาฯ น จ นิพฺพานสฺส ปฏิปทาติ นามํ, สวิปสฺสนานํ ปน จตุนฺนํ มคฺคานเมตํ นามํ, ตสฺมา ปุจฺฉานิยฺยาตเนหิ ปทภาชนํ น สเมตีติฯ โน น สเมติ, กสฺมา? ผเลน ปฏิปทาย ทสฺสิตตฺตาฯ ผเลน เหตฺถ ปฏิปทา ทสฺสิตาฯ ‘‘อวิชฺชาย ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา สงฺขารนิโรโธ’’ติ เอตํ นิโรธสงฺขาตํ นิพฺพานํ ยสฺสา ปฏิปทาย ผลํ, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมฺมาปฏิปทาติ อยเมตฺถ อตฺโถฯ อิมสฺมิญฺจ อตฺเถ อเสสวิราคนิโรธาติ เอตฺถ วิราโค นิโรธสฺเสว เววจนํ, อเสสวิราคา อเสสนิโรธาติ อยญฺเหตฺถ อธิปฺปาโยฯ เยน วา วิราคสงฺขาเตน มคฺเคน อเสสนิโรโธ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ เอตํ ปทภาชนํ วุตฺตํฯ เอวญฺหิ สติ สานุภาวา ปฏิปทา วิภตฺตา โหติฯ อิติ อิมสฺมิมฺปิ สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏเมว กถิตนฺติฯ ตติยํฯ

4. วิปสฺสีสุตฺตวณฺณนา

[4] จตุตฺเถ วิปสฺสิสฺสาติ ตสฺส กิร โพธิสตฺตสฺส ยถา โลกิยมนุสฺสานํ กิญฺจิเทว ปสฺสนฺตานํ ปริตฺตกมฺมาภินิพฺพตฺตสฺส กมฺมชปสาทสฺส ทุพฺพลตฺตา อกฺขีนิ วิปฺผนฺทนฺติ , น เอวํ วิปฺผนฺทิํสุฯ พลวกมฺมนิพฺพตฺตสฺส ปน กมฺมชปสาทสฺส พลวตฺตา อวิปฺผนฺทนฺเตหิ อนิมิเสหิ เอว อกฺขีหิ ปสฺสิ เสยฺยถาปิ เทวา ตาวติํสาฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘อนิมิสนฺโต กุมาโร เปกฺขตีติ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ‘วิปสฺสี วิปสฺสี’ตฺเวว สมญฺญา อุทปาที’’ติ (ที. นิ. 2.40)ฯ อยญฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – อนฺตรนฺตรา นิมิสชนิตนฺธการวิรเหน วิสุทฺธํ ปสฺสติ, วิวเฏหิ วา อกฺขีหิ ปสฺสตีติ วิปสฺสีฯ เอตฺถ จ กิญฺจาปิ ปจฺฉิมภวิกานํ สพฺพโพธิสตฺตานํ พลวกมฺมนิพฺพตฺตสฺส กมฺมชปสาทสฺส พลวตฺตา อกฺขีนิ น วิปฺผนฺทนฺติ, โส ปน โพธิสตฺโต เอเตเนว นามํ ลภิฯ

อปิจ วิเจยฺย วิเจยฺย ปสฺสตีติ วิปสฺสี, วิจินิตฺวา วิจินิตฺวา ปสฺสตีติ อตฺโถฯ เอกทิวสํ กิร วินิจฺฉยฏฺฐาเน นิสีทิตฺวา อตฺเถ อนุสาสนฺตสฺส รญฺโญ อลงฺกตปฏิยตฺตํ มหาปุริสํ อาหริตฺวา องฺเก ฐปยิํสุฯ ตสฺส ตํ องฺเก กตฺวา ปลาฬยมานสฺเสว อมจฺจา สามิกํ อสฺสามิกํ อกํสุฯ โพธิสตฺโต อนตฺตมนสทฺทํ นิจฺฉาเรสิฯ ราชา ‘‘กิเมตํ อุปธาเรถา’’ติ อาหฯ อุปธารยมานา อญฺญํ อทิสฺวา ‘‘อฏฺฏสฺส ทุพฺพินิจฺฉิตตฺตา เอวํ กตํ ภวิสฺสตี’’ติ ปุน สามิกเมว สามิกํ กตฺวา ‘‘ญตฺวา นุ โข กุมาโร เอวํ กโรตี’’ติ? วีมํสนฺตา ปุน สามิกํ อสฺสามิกมกํสุฯ ปุน โพธิสตฺโต ตเถว สทฺทํ นิจฺฉาเรสิฯ อถ ราชา ‘‘ชานาติ มหาปุริโส’’ติ ตโต ปฏฺฐาย อปฺปมตฺโต อโหสิฯ เตน วุตฺตํ ‘‘วิเจยฺย วิเจยฺย กุมาโร อตฺเถ ปนายติ ญาเยนาติ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ภิยฺโยโสมตฺตาย ‘วิปสฺสี วิปสฺสี’ตฺเวว สมญฺญา อุทปาที’’ติ (ที. นิ. 2.41)ฯ

ภควโตติ ภาคฺยสมฺปนฺนสฺสฯ อรหโตติ ราคาทิอรีนํ หตตฺตา, สํสารจกฺกสฺส วา อรานํ หตตฺตา, ปจฺจยานํ วา อรหตฺตา อรหาติ เอวํ คุณโต อุปฺปนฺนนามเธยฺยสฺสฯ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสาติ สมฺมา นเยน เหตุนา สามํ ปจฺจตฺตปุริสกาเรน จตฺตาริ สจฺจานิ พุทฺธสฺสฯ