เมนู

10. สุสิมสุตฺตวณฺณนา

[70] ทสเม ครุกโตติ สพฺเพหิ เทวมนุสฺเสหิ ปาสาณจฺฉตฺตํ วิย จิตฺเตน ครุกโตฯ มานิโตติ มเนน ปิยายิโตฯ ปูชิโตติ จตุปจฺจยปูชาย ปูชิโตฯ อปจิโตติ นีจวุตฺติกรเณน อปจิโตฯ สตฺถารญฺหิ ทิสฺวา มนุสฺสา หตฺถิกฺขนฺธาทีหิ โอตรนฺติ มคฺคํ เทนฺติ, อํสกูฏโต สาฏกํ อปเนนฺติ, อาสนโต วุฏฺฐหนฺติ วนฺทนฺติฯ เอวํ โส เตหิ อปจิโต นาม โหติฯ สุสิโมติ เอวํนามโก เวทงฺเคสุ กุสโล ปณฺฑิตปริพฺพาชโกฯ เอหิ ตฺวนฺติ เตสํ กิร เอตทโหสิ – ‘‘สมโณ โคตโม น ชาติโคตฺตาทีนิ อาคมฺม ลาภคฺคปฺปตฺโต ชาโต, กวิเสฏฺโฐ ปเนส อุตฺตมกวิตาย สาวกานํ คนฺถํ พนฺธิตฺวา เทติ, ตํ เต อุคฺคณฺหิตฺวา อุปฏฺฐากานํ อุปนิสินฺนกถมฺปิ อนุโมทนมฺปิ สรภญฺญมฺปีติ เอวมาทีนิ กเถนฺติ, เต เตสํ ปสนฺนา ลาภํ อุปสํหรนฺติฯ สเจ มยํ ยํ สมโณ โคตโม ชานาติ, ตโต โถกํ ชาเนยฺยาม, อตฺตโน สมยํ ตตฺถ ปกฺขิปิตฺวา มยมฺปิ อุปฏฺฐากานํ กเถยฺยาม, ตโต เอเตหิ ลาภิตรา ภเวยฺยามฯ โก นุ โข สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ขิปฺปเมว อุคฺคณฺหิตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติฯ เต เอวํ จินฺเตตฺวา ‘‘สุสิโม ปฏิพโล’’ติ ทิสฺวา ตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุฯ

เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมีติ กสฺมา อุปสงฺกมิ? เอวํ กิรสฺส อโหสิ, ‘‘กสฺส นุ โข สนฺติกํ คนฺตฺวา อหํ อิมํ ธมฺมํ ขิปฺปํ ลทฺธุํ สกฺขิสฺสามี’’ติ? ตโต จินฺเตสิ – ‘‘สมโณ โคตโม ครุ เตชุสฺสโท นิยมมนุยุตฺโต, น สกฺกา อกาเล อุปสงฺกมิตุํ, อญฺเญปิ พหู ขตฺติยาทโย สมณํ โคตมํ อุปสงฺกมนฺติ, ตสฺมิมฺปิ สมเย น สกฺกา อุปสงฺกมิตุํฯ สาวเกสุปิสฺส สาริปุตฺโต มหาปญฺโญ วิปสฺสนาลกฺขณมฺหิ เอตทคฺเค ฐปิโต, มหาโมคฺคลฺลาโน สมาธิลกฺขณสฺมิํ เอตทคฺเค ฐปิโต, มหากสฺสโป ธุตงฺคธเรสุ อนุรุทฺโธ ทิพฺพจกฺขุเกสุ, ปุณฺโณ มนฺตาณิปุตฺโต ธมฺมกถิเกสุ, อุปาลิตฺเถโร วินยธเรสุ เอตทคฺเค ฐปิโต, อยํ ปน อานนฺโท พหุสฺสุโต ติปิฏกธโร, สตฺถาปิสฺส ตตฺถ ตตฺถ กถิตํ ธมฺมํ อาหริตฺวา กเถติ, ปญฺจสุ ฐาเนสุ เอตทคฺเค ฐปิโต, อฏฺฐนฺนํ วรานํ ลาภี, จตูหิ อจฺฉริยพฺภุตธมฺเมหิ สมนฺนาคโต, ตสฺส สมีปํ คโต ขิปฺปํ ธมฺมํ ลทฺธุํ สกฺขิสฺสามี’’ติฯ ตสฺมา เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิฯ

เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ กสฺมา สยํ อปพฺพาเชตฺวา อุปสงฺกมิ? เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อยํ ติตฺถิยสมเย ปาฏิเยกฺโก ‘อหํ สตฺถา’ติ ปฏิชานนฺโต จรติ, ปพฺพชิตฺวา สาสนสฺส อลาภายปิ ปริสกฺเกยฺยฯ น โข ปนสฺสาหํ อชฺฌาสยํ อาชานามิ, สตฺถา ชานิสฺสตี’’ติฯ ตสฺมา ตํ อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิฯ เตนหานนฺท, สุสิมํ ปพฺพาเชถาติ สตฺถา กิร จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ปริพฺพาชโก ติตฺถิยสมเย ‘อหํ ปาฏิเยกฺโก สตฺถา’ติ ปฏิชานมาโน จรติ, ‘อิธ มคฺคพฺรหฺมจริยํ จริตุํ อิจฺฉามี’ติ กิร วทติฯ กิํ นุ โข มยิ ปสนฺโน, อุทาหุ มยฺหํ สาวเกสุ, อุทาหุ มยฺหํ วา มม สาวกานํ วา ธมฺมกถาย ปสนฺโน’’ติ? อถสฺส เอกฏฺฐาเนปิ ปสาทาภาวํ ญตฺวา, ‘‘อยํ มม สาสเน ธมฺมํ เถเนสฺสามีติ ปพฺพชติฯ อิติสฺส อาคมนํ อปริสุทฺธํ; นิปฺผตฺติ นุ โข กีทิสา’’ติ? โอโลเกนฺโต ‘‘กิญฺจาปิ ‘ธมฺมํ เถเนสฺสามี’ติ ปพฺพชติ, กติปาเหเนว ปน ฆเฏตฺวา อรหตฺตํ คณฺหิสฺสตี’’ติ ญตฺวา ‘‘เตนหานนฺท, สุสิมํ ปพฺพาเชถา’’ติ อาหฯ

อญฺญา พฺยากตา โหตีติ เต กิร ภิกฺขู สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺฐานํ คเหตฺวา เตมาสํ วสฺสํ วสนฺตา ตสฺมิํเยว อนฺโตเตมาเส ฆเฏนฺตา วายมนฺตา อรหตฺตํ ปฏิลภิํสุฯ เต ‘‘ปฏิลทฺธคุณํ สตฺถุ อาโรเจสฺสามา’’ติ ปวาริตปวารณา เสนาสนํ สํสาเมตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ อาคนฺตฺวา อตฺตโน ปฏิลทฺธคุณํ อาโรเจสุํฯ ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํฯ อญฺญาติ อรหตฺตสฺส นามํฯ พฺยากตาติ อาโรจิตาฯ อสฺโสสีติ โส กิร โอหิตโสโต หุตฺวา เตสํ เตสํ ภิกฺขูนํ ฐิตฏฺฐานํ คจฺฉติ ตํ ตํ กถํ สุณิตุกาโมฯ เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมีติ กสฺมา อุปสงฺกมิ? ตํ กิรสฺส ปวตฺติํ สุตฺวา เอตทโหสิ – ‘‘อญฺญา นาม อิมสฺมิํ สาสเน ปรมปฺปมาณํ สารภูตา อาจริยมุฏฺฐิ มญฺเญ ภวิสฺสติ, ปุจฺฉิตฺวา นํ ชานิสฺสามี’’ติฯ ตสฺมา อุปสงฺกมิฯ

อเนกวิหิตนฺติ อเนกวิธํฯ อิทฺธิวิธนฺติ อิทฺธิโกฏฺฐาสํฯ อาวิภาวํ ติโรภาวนฺติ อาวิภาวํ คเหตฺวา ติโรภาวํ, ติโรภาวํ คเหตฺวา อาวิภาวํ กาตุํ สกฺโกถาติ ปุจฺฉติฯ ติโรกุฏฺฏนฺติ ปรกุฏฺฏํฯ

อิตรปททฺวเยปิ เอเสว นโยฯ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชนฺติ อุมฺมุชฺชนญฺจ นิมุชฺชนญฺจฯ ปลฺลงฺเกนาติ ปลฺลงฺกพนฺธเนนฯ กมถาติ นิสีทิตุํ วา คนฺตุํ วา สกฺโกถาติ ปุจฺฉติ? ปกฺขี สกุโณติ ปกฺขยุตฺโต สกุโณฯ อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปน อิมสฺส อิทฺธิวิธสฺส, อิโต ปเรสํ ทิพฺพโสตาทีนญฺจ วณฺณนานโย วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพติฯ

สนฺตา วิโมกฺขาติ องฺคสนฺตตาย เจว อารมฺมณสนฺตตาย จ สนฺตา อารุปฺปวิโมกฺขาฯ กาเยน ผุสิตฺวาติ นามกาเยน ผุสิตฺวา ปฏิลภิตฺวาฯ ปญฺญาวิมุตฺตา โข มยํ, อาวุโสติ, อาวุโส, มยํ นิชฺฌานกา สุกฺขวิปสฺสกา ปญฺญามตฺเตเนว วิมุตฺตาติ ทสฺเสติฯ อาชาเนยฺยาสิ วา ตฺวํ, อาวุโส สุสิม, น วา ตฺวํ อาชาเนยฺยาสีติ กสฺมา เอวมาหํสุ? เอวํ กิร เนสํ อโหสิ – ‘‘มยํ อิมสฺส อชฺฌาสยํ คเหตฺวา กเถตุํ น สกฺขิสฺสาม, ทสพลํ ปน ปุจฺฉิตฺวา นิกฺกงฺโข ภวิสฺสตี’’ติฯ ธมฺมฏฺฐิติญาณนฺติ วิปสฺสนาญาณํ, ตํ ปฐมตรํ อุปฺปชฺชติฯ นิพฺพาเน ญาณนฺติ วิปสฺสนาย จิณฺณนฺเต ปวตฺตมคฺคญาณํ, ตํ ปจฺฉา อุปฺปชฺชติฯ ตสฺมา ภควา เอวมาหฯ

อาชาเนยฺยาสิ วาติอาทิ กสฺมา วุตฺตํ? วินาปิ สมาธิํ เอวํ ญาณุปฺปตฺติทสฺสนตฺถํฯ อิทญฺหิ วุตฺตํ โหติ – สุสิม, มคฺโค วา ผลํ วา น สมาธินิสฺสนฺโท, น สมาธิอานิสํโส, น สมาธิสฺส นิปฺผตฺติ, วิปสฺสนาย ปเนโส นิสฺสนฺโท, วิปสฺสนาย อานิสํโส, วิปสฺสนาย นิปฺผตฺติ, ตสฺมา ชาเนยฺยาสิ วา ตฺวํ, น วา ตฺวํ ชาเนยฺยาสิ, อถ โข ธมฺมฏฺฐิติญาณํ ปุพฺเพ, ปจฺฉา นิพฺพาเน ญาณนฺติฯ

อิทานิสฺส ปฏิเวธภพฺพตํ ญตฺวา เตปริวฏฺฏํ ธมฺมเทสนํ เทเสนฺโต ตํ กิํ มญฺญสิ, สุสิม? รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วาติอาทิมาห? เต ปริวฏฺฏเทสนาวสาเน ปน เถโร อรหตฺตํ ปตฺโตฯ อิทานิสฺส อนุโยคํ อาโรเปนฺโต ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ, สุสิม, ปสฺสสีติอาทิมาหฯ อปิ ปน ตฺวํ, สุสิมาติ อิทํ กสฺมา อารภิ? นิชฺฌานกานํ สุกฺขวิปสฺสกภิกฺขูนํ ปากฏกรณตฺถํฯ อยญฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – น เกวลํ ตฺวเมว นิชฺฌานโก สุกฺขวิปสฺสโก, เอเตปิ ภิกฺขู เอวรูปาเยวาติฯ เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมวาติฯ ทสมํฯ

มหาวคฺโค สตฺตโมฯ

8. สมณพฺราหฺมณวคฺโค