เมนู

ทานปริโยสาเน จ ภควนฺตํ สาวตฺถิยํ วสฺสาวาสํ ปฏิชานาเปตฺวา ราชคหสฺส จ สาวตฺถิยา จ อนฺตเร โยชเน โยชเน สตสหสฺสํ ทตฺวา ปญฺจจตฺตาลีส วิหาเร กาเรนฺโต สาวตฺถิํ คนฺตฺวา เชตวนมหาวิหารํ กาเรตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิยฺยาเทสีติฯ อฏฺฐมํฯ

9. ปฐมสุกฺกาสุตฺตวณฺณนา

[243] นวเม รถิกาย รถิกนฺติ เอกํ รถิกํ คเหตฺวา ตโต อปรํ คจฺฉนฺโต รถิกาย รถิกํ อุปสงฺกมนฺโต นาม โหติฯ สิงฺฆาฏเกปิ เอเสว นโยฯ เอตฺถ จ รถิกาติ รจฺฉาฯ สิงฺฆาฏกนฺติ จตุกฺกํฯ กิํ เม กตาติ กิํ อิเม กตา? กิํ กโรนฺตีติ อตฺโถฯ มธุปีตาว เสยเรติ คนฺธมธุปานํ ปีตา วิย สยนฺติฯ คนฺธมธุปานํ ปีโต กิร สีสํ อุกฺขิปิตุํ น สกฺโกติ, อสญฺญี หุตฺวา สยเตวฯ ตสฺมา เอวมาหฯ

ตญฺจ ปน อปฺปฏิวานียนฺติ ตญฺจ ปน ธมฺมํ อปฺปฏิวานียํ เทเสติฯ พาหิรกญฺหิ สุมธุรมฺปิ โภชนํ ปุนปฺปุนํ ภุญฺชนฺตสฺส น รุจฺจติ, ‘‘อปเนถ, กิํ อิมินา’’ติ? ปฏิวาเนตพฺพํ อปเนตพฺพํ โหติ, น เอวมยํ ธมฺโมฯ อิมํ หิ ธมฺมํ ปณฺฑิตา วสฺสสตมฺปิ วสฺสสหสฺสมฺปิ สุณนฺตา ติตฺติํ น คจฺฉนฺติฯ เตนาห ‘‘อปฺปฏิวานีย’’นฺติฯ อเสจนกโมชวนฺติ อนาสิตฺตกํ โอชวนฺตํฯ ยถา หิ พาหิรานิ อสมฺภินฺนปายาสาทีนิปิ สปฺปิมธุสกฺขราหิ อาสิตฺตานิ โยชิตาเนว มธุรานิ โอชวนฺตานิ โหนฺติ, น เอวมยํ ธมฺโมฯ อยํ หิ อตฺตโน ธมฺมตาย มธุโร เจว โอชวา จ, น อญฺเญน อุปสิตฺโตฯ เตนาห ‘‘อเสจนกโมชว’’นฺติฯ ปิวนฺติ มญฺเญ สปฺปญฺญาติ ปณฺฑิตปุริสา ปิวนฺติ วิยฯ วลาหกเมว ปนฺถคูติ วลาหกนฺตรโต นิกฺขนฺตอุทกํ ฆมฺมาภิตตฺตา ปถิกา วิยฯ นวมํฯ

10-11. ทุติยสุกฺกาสุตฺตาทิวณฺณนา

[244] ทสเม ปุญฺญํ วต ปสวิ พหุนฺติ พหุํ วต ปุญฺญํ ปสวตีติฯ ทสมํฯ

[245] เอกาทสมํ อุตฺตานเมวฯ เอกาทสมํฯ

12. อาฬวกสุตฺตวณฺณนา

[246] ทฺวาทสเม อาฬวิยนฺติ อาฬวีติ ตํ รฏฺฐมฺปิ นครมฺปิฯ ตญฺจ ภวนํ นครสฺส อวิทูเร คาวุตมตฺเต ฐิตํฯ ภควา ตตฺถ วิหรนฺโต ตํ นครํ อุปนิสฺสาย อาฬวิยํ วิหรตีติ วุตฺโตฯ อาฬวกสฺส ยกฺขสฺส ภวเนติ เอตฺถ ปน อยมนุปุพฺพิกถา – อาฬวโก กิร ราชา วิวิธนาฏกูปโภคํ ฉฑฺเฑตฺวา โจรปฏิพาหนตฺถํ ปฏิราชนิเสธนตฺถํ พฺยายามกรณตฺถญฺจ สตฺตเม สตฺตเม ทิวเส มิควํ คจฺฉนฺโต เอกทิวสํ พลกาเยน สทฺธิํ กติกํ อกาสิ – ‘‘ยสฺส ปสฺเสน มิโค ปลายติ, ตสฺเสว โส ภาโร’’ติฯ อถ ตสฺเสว ปสฺเสน มิโค ปลายิ, ชวสมฺปนฺโน ราชา ธนุํ คเหตฺวา ปตฺติโกว ติโยชนํ ตํ มิคํ อนุพนฺธิฯ เอณิมิคา จ ติโยชนเวคา เอว โหนฺติฯ อถ ปริกฺขีณชวํ ตํ อุทกํ วิย ปวิสิตฺวา ฐิตํ วธิตฺวา ทฺวิธา เฉตฺวา อนตฺถิโกปิ มํเสน ‘‘นาสกฺขิ มิคํ คเหตุ’’นฺติ อปวาทโมจนตฺถํ กาเชนาทาย อาคจฺฉนฺโต นครสฺสาวิทูเร พหลปตฺตปลาสํ มหานิคฺโรธํ ทิสฺวา ปริสฺสมวิโนทนตฺถํ ตสฺส มูลมุปคโตฯ ตสฺมิญฺจ นิคฺโรเธ อาฬวโก ยกฺโข มหาราชสนฺติกา ภวนํ ลภิตฺวา มชฺฌนฺหิกสมเย ตสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย ผุฏฺโฐกาสํ ปวิฏฺเฐ ปาณิโน ขาทนฺโต ปฏิวสติฯ โส ตํ ทิสฺวา ขาทิตุํ อุปคโตฯ ราชา เตน สทฺธิํ กติกํ อกาสิ – ‘‘มุญฺจ มํ, อหํ เต ทิวเส ทิวเส มนุสฺสญฺจ ถาลิปากญฺจ เปเสสฺสามี’’ติฯ ยกฺโข – ‘‘ตฺวํ ราชูปโภเคน ปมตฺโต น สริสฺสสิ, อหํ ปน ภวนํ อนุปคตญฺจ อนนุญฺญาตญฺจ ขาทิตุํ น ลภามิ, สฺวาหํ ภวนฺตมฺปิ ชีเยยฺย’’นฺติ น มุญฺจิฯ ราชา ‘‘ยํ ทิวสํ น เปเสมิ, ตํ ทิวสํ มํ คเหตฺวา ขาทา’’ติ อตฺตานํ อนุชานิตฺวา เตน มุตฺโต นคราภิมุโข อคมาสิฯ

พลกาโย มคฺเค ขนฺธาวารํ พนฺธิตฺวา ฐิโต ราชานํ ทิสฺวา, ‘‘กิํ, มหาราช, อยสมตฺตภยา เอวํ กิลนฺโตสี’’ติ? วทนฺโต ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปฏิคฺคเหสิฯ ราชา ตํ ปวตฺติํ อนาโรเจตฺวา นครํ คนฺตฺวา กตปาตราโส นครคุตฺติกํ อามนฺเตตฺวา เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ นครคุตฺติโก – ‘‘กิํ, เทว , กาลปริจฺเฉโท กโต’’ติ อาห? น กโต ภเณติฯ ทุฏฺฐุ กตํ, เทว, อมนุสฺสา หิ ปริจฺฉินฺนมตฺตเมว ลภนฺติ, อปริจฺฉินฺเน ปน ชนปทสฺสาพาโธ ภวิสฺสติ, โหตุ เทว, กิญฺจาปิ เอวมกาสิ, อปฺโปสฺสุกฺโก ตฺวํ รชฺชสุขมนุโภหิ, อหเมตฺถ กาตพฺพํ กริสฺสามีติฯ