เมนู

8. สุสมฺมุฏฺฐสุตฺตวณฺณนา

[8] อฏฺฐเม สุสมฺมุฏฺฐาติ ปญฺญาย อปฺปฏิวิทฺธภาเวเนว สุนฏฺฐาฯ ยถา หิ ทฺเว เขตฺตานิ กสิตฺวา, เอกํ วปิตฺวา, พหุธญฺญํ อธิคตสฺส อวาปิตเขตฺตโต อลทฺธํ สนฺธาย ‘‘พหุํ เม ธญฺญํ นฏฺฐ’’นฺติ วทนฺโต อลทฺธเมว ‘‘นฏฺฐ’’นฺติ วทติ, เอวมิธาปิ อปฺปฏิวิทิตาว สุสมฺมุฏฺฐา นามฯ อสมฺมุฏฺฐาติ ปญฺญาย ปฏิวิทฺธภาเวเนว อนฏฺฐาฯ เสสํ ปุริมสทิสเมวาติฯ

สุสมฺมุฏฺฐสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

9. มานกามสุตฺตวณฺณนา

[9] นวเม มานกามสฺสาติ มานํ กาเมนฺตสฺส อิจฺฉนฺตสฺสฯ ทโมติ เอวรูปสฺส ปุคฺคลสฺส สมาธิปกฺขิโก ทโม นตฺถีติ วทติฯ ‘‘สจฺเจน ทนฺโต ทมสา อุเปโต, เวทนฺตคู วุสิตพฺรหฺมจริโย’’ติ (สํ. นิ. 1.195) เอตฺถ หิ อินฺทฺริยสํวโร ทโมติ วุตฺโตฯ ‘‘ยทิ สจฺจา ทมา จาคา, ขนฺตฺยา ภิยฺโยธ วิชฺชตี’’ติ (สํ. นิ. 1.246; สุ. นิ. 191) เอตฺถ ปญฺญาฯ ‘‘ทาเนน ทเมน สํยเมน สจฺจวชฺเชน อตฺถิ ปุญฺญํ, อตฺถิ ปุญฺญสฺส อาคโม’’ติ (สํ. นิ. 4.365) เอตฺถ อุโปสถกมฺมํฯ ‘‘สกฺขิสฺสสิ โข ตฺวํ, ปุณฺณ, อิมินา ทมูปสเมน สมนฺนาคโต สุนาปรนฺตสฺมิํ ชนปเท วิหริตุ’’นฺติ (สํ. นิ. 4.88; ม. นิ. 3.396) เอตฺถ อธิวาสนขนฺติฯ อิมสฺมิํ ปน สุตฺเต ทโมติ สมาธิปกฺขิกธมฺมานํ เอตํ นามํฯ เตเนวาห – ‘‘น โมนมตฺถิ อสมาหิตสฺสา’’ติฯ ตตฺถ โมนนฺติ จตุมคฺคญาณํ, ตญฺหิ มุนาตีติ โมนํ, จตุสจฺจธมฺเม ชานาตีติ อตฺโถฯ มจฺจุเธยฺยสฺสาติ เตภูมกวฏฺฏสฺสฯ ตญฺหิ มจฺจุโน ปติฏฺฐานฏฺเฐน มจฺจุเธยฺยนฺติ วุจฺจติฯ ปารนฺติ ตสฺเสว ปารํ นิพฺพานํฯ ตเรยฺยาติ ปฏิวิชฺเฌยฺย ปาปุเณยฺย วาฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – เอโก อรญฺเญ วิหรนฺโต ปมตฺโต ปุคฺคโล มจฺจุเธยฺยสฺส ปารํ น ตเรยฺย น ปฏิวิชฺเฌยฺย น ปาปุเณยฺยาติฯ

มานํ ปหายาติ อรหตฺตมคฺเคน นววิธมานํ ปชหิตฺวาฯ สุสมาหิตตฺโตติ อุปจารปฺปนาสมาธีหิ สุฏฺฐุ สมาหิตตฺโตฯ

สุเจตโสติ ญาณสมฺปยุตฺตตาย สุนฺทรจิตฺโตฯ ญาณวิปฺปยุตฺตจิตฺเตน หิ สุเจตโสติ น วุจฺจติ, ตสฺมา ญาณสมฺปยุตฺเตน สุเจตโส หุตฺวาติ อตฺโถฯ สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโตติ สพฺเพสุ ขนฺธายตนาทีสุ วิปฺปมุตฺโต หุตฺวาฯ ตเรยฺยาติ เอตฺถ เตภูมกวฏฺฏํ สมติกฺกมนฺโต นิพฺพานํ ปฏิวิชฺฌนฺโต ตรตีติ ปฏิเวธตรณํ นาม วุตฺตํฯ อิติ อิมาย คาถาย ติสฺโส สิกฺขา กถิตา โหนฺติฯ กถํ – มาโน นามายํ สีลเภทโน, ตสฺมา ‘‘มานํ ปหายา’’ติ อิมินา อธิสีลสิกฺขา กถิตา โหติฯ ‘‘สุสมาหิตตฺโต’’ติ อิมินา อธิจิตฺตสิกฺขาฯ ‘‘สุเจตโส’’ติ เอตฺถ จิตฺเตน ปญฺญา ทสฺสิตา, ตสฺมา อิมินา อธิปญฺญาสิกฺขา กถิตาฯ อธิสีลญฺจ นาม สีเล สติ โหติ, อธิจิตฺตํ จิตฺเต สติ, อธิปญฺญา ปญฺญาย สติฯ ตสฺมา สีลํ นาม ปญฺจปิ ทสปิ สีลานิ, ปาติโมกฺขสํวโร อธิสีลํ นามาติ เวทิตพฺพํฯ อฏฺฐ สมาปตฺติโย จิตฺตํ, วิปสฺสนาปาทกชฺฌานํ อธิจิตฺตํฯ กมฺมสฺสกตญาณํ ปญฺญา, วิปสฺสนา อธิปญฺญาฯ อนุปฺปนฺเนปิ หิ พุทฺธุปฺปาเท ปวตฺตตีติ ปญฺจสีลํ ทสสีลํ สีลเมว, ปาติโมกฺขสํวรสีลํ พุทฺธุปฺปาเทเยว ปวตฺตตีติ อธิสีลํฯ จิตฺตปญฺญาสุปิ เอเสว นโยฯ อปิจ นิพฺพานํ ปตฺถยนฺเตน สมาทินฺนํ ปญฺจสีลมฺปิ ทสสีลมฺปิ อธิสีลเมวฯ สมาปนฺนา อฏฺฐ สมาปตฺติโยปิ อธิจิตฺตเมวฯ สพฺพมฺปิ วา โลกิยสีลํ สีลเมว, โลกุตฺตรํ อธิสีลํฯ จิตฺตปญฺญาสุปิ เอเสว นโยติฯ อิติ อิมาย คาถาย สโมธาเนตฺวา ติสฺโส สิกฺขา สกลสาสนํ กถิตํ โหตีติฯ

มานกามสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

10. อรญฺญสุตฺตวณฺณนา

[10] ทสเม สนฺตานนฺติ สนฺตกิเลสานํ, ปณฺฑิตานํ วาฯ ‘‘สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺติ (ชา. 2.21.413), ทูเร สนฺโต ปกาสนฺตี’’ติอาทีสุ (ธ. ป. 304) หิ ปณฺฑิตาปิ สนฺโตติ วุตฺตาฯ พฺรหฺมจารินนฺติ เสฏฺฐจารีนํ มคฺคพฺรหฺมจริยวาสํ วสนฺตานํฯ เกน วณฺโณ ปสีทตีติ เกน การเณน ฉวิวณฺโณ ปสีทตีติ ปุจฺฉติฯ กสฺมา ปเนสา เอวํ ปุจฺฉติ? เอสา กิร วนสณฺฑวาสิกา ภุมฺมเทวตา อารญฺญเก ภิกฺขู ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺเต อรญฺญํ ปวิสิตฺวา รตฺติฏฺฐานทิวาฏฺฐาเนสุ มูลกมฺมฏฺฐานํ คเหตฺวา นิสินฺเน ปสฺสติฯ เตสญฺจ เอวํ นิสินฺนานํ พลวจิตฺเตกคฺคตา อุปฺปชฺชติฯ ตโต วิสภาคสนฺตติ วูปสมฺมติ, สภาคสนฺตติ โอกฺกมติ, จิตฺตํ ปสีทติฯ จิตฺเต ปสนฺเน โลหิตํ ปสีทติ, จิตฺตสมุฏฺฐานานิ อุปาทารูปานิ ปริสุทฺธานิ โหนฺติ, วณฺฏา ปมุตฺตตาลผลสฺส วิย มุขสฺส วณฺโณ โหติฯ ตํ ทิสฺวา เทวตา จินฺเตสิ – ‘‘สรีรวณฺโณ นามายํ ปณีตานิ รสสมฺปนฺนานิ โภชนานิ สุขสมฺผสฺสานิ นิวาสนปาปุรณสยนานิ อุตุสุเข เตภูมิกาทิเภเท จ ปาสาเท มาลาคนฺธวิเลปนาทีนิ จ ลภนฺตานํ ปสีทติ, อิเม ปน ภิกฺขู ปิณฺฑาย จริตฺวา มิสฺสกภตฺตํ ภุญฺชนฺติ, วิรฬมญฺจเก วา ผลเก วา สิลาย วา สยนานิ กปฺเปนฺติ, รุกฺขมูลาทีสุ วา อพฺโภกาเส วา วสนฺติ, เกน นุ โข การเณน เอเตสํ วณฺโณ ปสีทตี’’ติฯ ตสฺมา ปุจฺฉิฯ

อถสฺสา ภควา การณํ กเถนฺโต ทุติยํ คาถํ อาหฯ ตตฺถ อตีตนฺติ อตีเต อสุโก นาม ราชา ธมฺมิโก อโหสิ, โส อมฺหากํ ปณีเต ปจฺจเย อทาสิฯ อาจริยุปชฺฌายา ลาภิโน อเหสุํฯ อถ มยํ เอวรูปานิ โภชนานิ ภุญฺชิมฺหา, จีวรานิ ปารุปิมฺหาติ เอวํ เอกจฺเจ ปจฺจยพาหุลฺลิกา วิย อิเม ภิกฺขู อตีตํ นานุโสจนฺติฯ นปฺปชปฺปนฺติ นาคตนฺติ อนาคเต ธมฺมิโก ราชา ภวิสฺสติ, ผีตา ชนปทา ภวิสฺสนฺติ, พหูนิ สปฺปินวนีตาทีนิ อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ, ‘‘ขาทถ ภุญฺชถา’’ติ ตตฺถ ตตฺถ วตฺตาโร ภวิสฺสนฺติ, ตทา มยํ เอวรูปานิ โภชนานิ ภุญฺชิสฺสาม, จีวรานิ ปารุปิสฺสามาติ เอวํ อนาคตํ น ปตฺเถนฺติฯ ปจฺจุปฺปนฺเนนาติ เยน เกนจิ ตงฺขเณ ลทฺเธน ยาเปนฺติฯ เตนาติ เตน ติวิเธนาปิ การเณนฯ

เอวํ วณฺณสมฺปตฺติํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตสฺเสว วณฺณสฺส วินาสํ ทสฺเสนฺโต อนนฺตรํ คาถมาหฯ ตตฺถ อนาคตปฺปชปฺปายาติ อนาคตสฺส ปตฺถนายฯ เอเตนาติ เอเตน การณทฺวเยนฯ นโฬว หริโต ลุโตติ ยถา หริโต นโฬ ลายิตฺวา อุณฺหปาสาเณ ปกฺขิตฺโต สุสฺสติ, เอวํ สุสฺสนฺตีติฯ

อรญฺญสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ นฬวคฺโค ปฐโมฯ

2. นนฺทนวคฺโค