เมนู

1. ธนญฺชานีสุตฺตวณฺณนา

[187] พฺราหฺมณสํยุตฺตสฺส ปฐเม ธนญฺชานีติ ธนญฺชานิโคตฺตาฯ อุกฺกฏฺฐโคตฺตา กิเรสาฯ เสสพฺราหฺมณา กิร พฺรหฺมุโน มุขโต ชาตา, ธนญฺชานิโคตฺตา มตฺถกํ ภินฺทิตฺวา นิกฺขนฺตาติ เตสํ ลทฺธิฯ อุทานํ อุทาเนสีติ กสฺมา อุทาเนสิ? โส กิร พฺราหฺมโณ มิจฺฉาทิฏฺฐิโก ‘‘พุทฺโธ ธมฺโม สงฺโฆ’’ติ วุตฺเต กณฺเณ ปิทหติ, ถทฺโธ ขทิรขาณุสทิโสฯ พฺราหฺมณี ปน โสตาปนฺนา อริยสาวิกาฯ พฺราหฺมโณ ทานํ เทนฺโต ปญฺจสตานํ พฺราหฺมณานํ อปฺโปทกํ ปายาสํ เทติ, พฺราหฺมณี พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส นานารสโภชนํฯ พฺราหฺมณสฺส ทานทิวเส พฺราหฺมณี ตสฺส วสวตฺติตาย ปหีนมจฺเฉรตาย จ สหตฺถา ปริวิสติฯ พฺราหฺมณิยา ปน ทานทิวเส พฺราหฺมโณ ปาโตว ฆรา นิกฺขมิตฺวา ปลายติฯ อเถกทิวสํ พฺราหฺมโณ พฺราหฺมณิยา สทฺธิํ อสมฺมนฺเตตฺวา ปญฺจสเต พฺราหฺมเณ นิมนฺเตตฺวา พฺราหฺมณิํ อาห – ‘‘สฺเว โภติ อมฺหากํ ฆเร ปญฺจสตา พฺราหฺมณา ภุญฺชิสฺสนฺตี’’ติฯ มยา กิํ กาตพฺพํ พฺราหฺมณาติ? ตยา อญฺญํ กิญฺจิ กาตพฺพํ นตฺถิ, สพฺพํ ปจนปริเวสนํ อญฺเญ กริสฺสนฺติฯ ยํ ปน ตฺวํ ฐิตาปิ นิสินฺนาปิ ขิปิตฺวาปิ อุกฺกาสิตฺวาปิ ‘‘นโม พุทฺธสฺสา’’ติ ตสฺส มุณฺฑกสฺส สมณกสฺส นมกฺการํ กโรสิ, ตํ สฺเว เอกทิวสมตฺตํ มา อกาสิฯ ตํ หิ สุตฺวา พฺราหฺมณา อนตฺตมนา โหนฺติ, มา มํ พฺราหฺมเณหิ ภินฺทสีติฯ ตฺวํ พฺราหฺมเณหิ วา ภิชฺช เทเวหิ วา, อหํ ปน สตฺถารํ อนุสฺสริตฺวา น สกฺโกมิ อนมสฺสมานา สณฺฐาตุนฺติฯ โภติ กุลสติเก คาเม คามทฺวารมฺปิ ตาว ปิทหิตุํ วายมนฺติ, ตฺวํ ทฺวีหงฺคุเลหิ ปิทหิตพฺพํ มุขํ พฺราหฺมณานํ โภชนกาลมตฺตํ ปิทหิตุํ น สกฺโกสีติฯ

เอวํ ปุนปฺปุนํ กเถตฺวาปิ โส นิวาเรตุํ อสกฺโกนฺโต อุสฺสีสเก ฐปิตํ มณฺฑลคฺคขคฺคํ คเหตฺวา – ‘‘โภติ สเจ สฺเว พฺราหฺมเณสุ นิสินฺเนสุ ตํ มุณฺฑสมณกํ นมสฺสสิ, อิมินา ตํ ขคฺเคน ปาทตลโต ปฏฺฐาย ยาว เกสมตฺถกา กฬีรํ วิย โกฏฺเฏตฺวา ราสิํ กริสฺสามี’’ติ อิมํ คาถํ อภาสิ –

‘‘อิมินา มณฺฑลคฺเคน, ปาทโต ยาว มตฺถกา;

กฬีรมิว เฉชฺชามิ, ยทิ มิจฺฉํ น กาหสิฯ

‘‘สเจ พุทฺโธติ ภณสิ, สเจ ธมฺโมติ ภาสสิ;

สเจ สงฺโฆติ กิตฺเตสิ, ชีวนฺตี เม นิเวสเน’’ติฯ

อริยสาวิกา ปน ปถวี วิย ทุปฺปกมฺปา, สิเนรุ วิย ทุปฺปริวตฺติยาฯ สา เตน นํ เอวมาห –

‘‘สเจ เม องฺคมงฺคานิ, กามํ เฉชฺชสิ พฺราหฺมณ;

เนวาหํ วิรมิสฺสามิ, พุทฺธเสฏฺฐสฺส สาสนาฯ

‘‘นาหํ โอกฺกา วรธรา, สกฺกา โรธยิตุํ ชินา;

ธีตาหํ พุทฺธเสฏฺฐสฺส, ฉินฺท วา มํ วธสฺสุ วา’’ติฯ

เอวํ ธนญฺชานิคชฺชิตํ นาม คชฺชนฺตี ปญฺจ คาถาสตานิ อภาสิฯ พฺราหฺมโณ พฺราหฺมณิํ ปรามสิตุํ วา ปหริตุํ วา อสกฺโกนฺโต ‘‘โภติ ยํ เต รุจฺจติ, ตํ กโรหี’’ติ วตฺวา ขคฺคํ สยเน ขิปิฯ ปุนทิวเส เคหํ หริตุปลิตฺตํ การาเปตฺวา ลาชาปุณฺณฆฏมาลาคนฺธาทีหิ ตตฺถ ตตฺถ อลงฺการาเปตฺวา ปญฺจนฺนํ พฺราหฺมณสตานํ นวสปฺปิสกฺขรมธุยุตฺตํ อปฺโปทกปายาสํ ปฏิยาทาเปตฺวา กาลํ อาโรจาเปสิฯ

พฺราหฺมณีปิ ปาโตว คนฺโธทเกน สยํ นฺหายิตฺวา สหสฺสคฺฆนกํ อหตวตฺถํ นิวาเสตฺวา ปญฺจสตคฺฆนกํ เอกํสํ กตฺวา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา สุวณฺณกฏจฺฉุํ คเหตฺวา ภตฺตคฺเค พฺราหฺมเณ ปริวิสมานา เตหิ สทฺธิํ เอกปนฺติยํ นิสินฺนสฺส ตสฺส พฺราหฺมณสฺส ภตฺตํ อุปสํหรนฺตี ทุนฺนิกฺขิตฺเต ทารุภณฺเฑ ปกฺขลิฯ ปกฺขลนฆฏฺฏนาย ทุกฺขา เวทนา อุปฺปชฺชิฯ ตสฺมิํ สมเย ทสพลํ สริฯ สติสมฺปนฺนตาย ปน ปายาสปาติํ อฉฑฺเฑตฺวา สณิกํ โอตาเรตฺวา ภูมิยํ สณฺฐเปตฺวา ปญฺจนฺนํ พฺราหฺมณสตานํ มชฺเฌ สิรสิ อญฺชลิํ ฐเปตฺวา เยน เวฬุวนํ, เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา อิมํ อุทานํ อุทาเนสิฯ

ตสฺมิญฺจ สมเย เตสุ พฺราหฺมเณสุ เกจิ ภุตฺตา โหนฺติ, เกจิ ภุญฺชมานา, เกจิ หตฺเถ โอตาริตมตฺตา, เกสญฺจิ โภชนํ ปุรโต ฐปิตมตฺตํ โหติฯ เต ตํ สทฺทํ สุตฺวาว สิเนรุมตฺเตน มุคฺคเรน สีเส ปหฏา วิย กณฺเณสุ สูเลน วิทฺธา วิย ทุกฺขโทมนสฺสํ ปฏิสํเวทิยมานา ‘‘อิมินา อญฺญลทฺธิเกน มยํ ฆรํ ปเวสิตา’’ติ กุชฺฌิตฺวา หตฺเถ ปิณฺฑํ ฉฑฺเฑตฺวา มุเขน คหิตํ นิฏฺฐุภิตฺวา ธนุํ ทิสฺวา กากา วิย พฺราหฺมณํ อกฺโกสมานา ทิสาวิทิสา ปกฺกมิํสุฯ พฺราหฺมโณ เอวํ ภิชฺชิตฺวา คจฺฉนฺเต พฺราหฺมเณ ทิสฺวา พฺราหฺมณิํ สีสโต ปฏฺฐาย โอโลเกตฺวา, ‘‘อิทเมว ภยํ สมฺปสฺสมานา มยํ หิยฺโย ปฏฺฐาย โภติํ ยาจนฺตา น ลภิมฺหา’’ติ นานปฺปกาเรหิ พฺราหฺมณิํ อกฺโกสิตฺวา, เอตํ ‘‘เอวเมวํ ปนา’’ติอาทิวจนํ อโวจฯ

อุปสงฺกมีติ ‘‘สมโณ โคตโม คามนิคมรฏฺฐปูชิโต, น สกฺกา คนฺตฺวา ยํ วา ตํ วา วตฺวา สนฺตชฺเชตุํ, เอกเมว นํ ปญฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺโตว ‘‘กิํสุ เฉตฺวา’’ติ คาถํ อภิสงฺขริตฺวา – ‘‘สเจ ‘อสุกสฺส นาม วธํ โรเจมี’ติ วกฺขติ, อถ นํ ‘เย ตุยฺหํ น รุจฺจนฺติ, เต มาเรตุกาโมสิ, โลกวธาย อุปฺปนฺโน, กิํ ตุยฺหํ สมณภาเวนา’ติ? นิคฺคเหสฺสามิฯ สเจ ‘น กสฺสจิ วธํ โรเจมี’ติ วกฺขติ, อถ นํ ‘ตฺวํ ราคาทีนมฺปิ วธํ น อิจฺฉสิฯ กสฺมา สมโณ หุตฺวา อาหิณฺฑสี’ติ? นิคฺคเหสฺสามีฯ อิติ อิมํ อุภโตโกฏิกํ ปญฺหํ สมโณ โคตโม เนว คิลิตุํ น อุคฺคิลิตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา อุปสงฺกมิ สมฺโมทีติ อตฺตโน ปณฺฑิตตาย กุทฺธภาวํ อทสฺเสตฺวา มธุรกถํ กเถนฺโต สมฺโมทิฯ ปญฺโห เทวตาสํยุตฺเต กถิโตฯ เสสมฺปิ เหฏฺฐา วิตฺถาริตเมวาติฯ ปฐมํฯ

2. อกฺโกสสุตฺตวณฺณนา

[188] ทุติเย อกฺโกสกภารทฺวาโชติ ภารทฺวาโชว โส, ปญฺจมตฺเตหิ ปน คาถา สเตหิ ตถาคตํ อกฺโกสนฺโต อาคโตติฯ ‘‘อกฺโกสกภารทฺวาโช’’ติ ตสฺส สงฺคีติกาเรหิ นามํ คหิตํฯ กุปิโต อนตฺตมโนติ ‘‘สมเณน โคตเมน มยฺหํ เชฏฺฐกภาตรํ ปพฺพาเชนฺเตน ชานิ กตา, ปกฺโข ภินฺโน’’ติ โกเธน กุปิโต โทมนสฺเสน จ อนตฺตมโน หุตฺวาติ อตฺโถฯ อกฺโกสตีติ ‘‘โจโรสิ, พาโลสิ, มูฬฺโหสิ, เถโนสิ, โอฏฺโฐสิ, เมณฺโฑสิ, โคโณสิ, คทฺรโภสิ, ติรจฺฉานคโตสิ, เนรยิโกสี’’ติ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสติฯ ปริภาสตีติ ‘‘โหตุ มุณฺฑกสมณก, ‘อทณฺโฑ อห’นฺติ กโรสิ, อิทานิ เต ราชกุลํ คนฺตฺวา ทณฺฑํ อาโรเปสฺสามี’’ติอาทีนิ วทนฺโต ปริภาสติ นามฯ

สมฺภุญฺชตีติ เอกโต ภุญฺชติฯ วีติหรตีติ กตสฺส ปฏิการํ กโรติฯ ภควนฺตํ โข, โคตมนฺติ กสฺมา เอวมาห? ‘‘ตเวเวตํ, พฺราหฺมณ, ตเวเวตํ, พฺราหฺมณา’’ติ กิรสฺส สุตฺวาฯ ‘‘อิสโย นาม กุปิตา สปนํ เทนฺติ กิสวจฺฉาทโย วิยา’’ติ อนุสฺสววเสน ‘‘สปติ มํ มญฺเญ สมโณ โคตโม’’ติ ภยํ อุปฺปชฺชิฯ ตสฺมา เอวมาหฯ

ทนฺตสฺสาติ นิพฺพิเสวนสฺสฯ ตาทิโนติ ตาทิลกฺขณํ ปตฺตสฺสฯ ตสฺเสว เตน ปาปิโยติ ตสฺเสว ปุคฺคลสฺส เตน โกเธน ปาปํ โหติฯ สโต อุปสมฺมตีติ สติยา สมนฺนาคโต หุตฺวา อธิวาเสติฯ อุภินฺนํ ติกิจฺฉนฺตานนฺติ อุภินฺนํ ติกิจฺฉนฺตํฯ อยเมว วา ปาโฐฯ โย ปุคฺคโล สโต อุปสมฺมติ, อุภินฺนมตฺถํ จรติ ติกิจฺฉติ สาเธติ, ตํ ปุคฺคลํ ชนา พาโลติ มญฺญนฺติฯ กีทิสา ชนา? เย ธมฺมสฺส อโกวิทาฯ ธมฺมสฺสาติ ปญฺจกฺขนฺธธมฺมสฺส วา จตุสจฺจธมฺมสฺส วาฯ อโกวิทาติ ตสฺมิํ ธมฺเม อกุสลา อนฺธพาลปุถุชฺชนาฯ ทุติยํฯ