เมนู

2. อฏฺฐกนาครสุตฺตวณฺณนา

[17] เอวํ เม สุตนฺติ อฏฺฐกนาครสุตฺตํฯ ตตฺถ เพลุวคามเกติ เวสาลิยา ทกฺขิณปสฺเส อวิทูเร เพลุวคามโก นาม อตฺถิ, ตํ โคจรคามํ กตฺวาติ อตฺโถฯ ทสโมติ โส หิ ชาติโคตฺตวเสน เจว สารปฺปตฺตกุลคณนาย จ ทสเม ฐาเน คณียติ, เตนสฺส ทสโมตฺเวว นามํ ชาตํฯ อฏฺฐกนาคโรติ อฏฺฐกนครวาสีฯ กุกฺกุฏาราโมติ กุกฺกุฏเสฏฺฐินา การิโต อาราโมฯ

[18] เตน ภควตา…เป.… อกฺขาโตติ เอตฺถ อยํ สงฺเขปตฺโถ, โย โส ภควา สมติํส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพกิเลเส ภญฺชิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธิํ อภิสมฺพุทฺโธ, เตน ภควตา, เตสํ เตสํ สตฺตานํ อาสยานุสยํ ชานตา, หตฺถตเล ฐปิตอามลกํ วิย สพฺพํ เญยฺยธมฺมํ ปสฺสตาฯ อปิจ ปุพฺเพนิวาสาทีหิ ชานตา, ทิพฺเพน จกฺขุนา ปสฺสตา, ตีหิ วิชฺชาหิ ฉหิ วา ปน อภิญฺญาหิ ชานตา, สพฺพตฺถ อปฺปฏิหเตน สมนฺตจกฺขุนา ปสฺสตา, สพฺพธมฺมชานนสมตฺถาย ปญฺญาย ชานตา, สพฺพสตฺตานํ จกฺขุวิสยาตีตานิ ติโรกุฏฺฏาทิคตานิปิ รูปานิ อติวิสุทฺเธน มํสจกฺขุนา ปสฺสตา, อตฺตหิตสาธิกาย สมาธิปทฏฺฐานาย ปฏิเวธปญฺญาย ชานตา, ปรหิตสาธิกาย กรุณาปทฏฺฐานาย เทสนาปญฺญาย ปสฺสตา, อรีนํ หตตฺตา ปจฺจยาทีนญฺจ อรหตฺตา อรหตา, สมฺมา สามญฺจ สจฺจานํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺเธนฯ อนฺตรายิกธมฺเม วา ชานตา, นิยฺยานิกธมฺเม ปสฺสตา, กิเลสารีนํ หตตฺตา อรหตา, สามํ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺเธนาติ เอวํ จตุเวสารชฺชวเสน จตูหิ การเณหิ โถมิเตนฯ อตฺถิ นุ โข เอโก ธมฺโม อกฺขาโตติฯ

[19] อภิสงฺขตนฺติ กตํ อุปฺปาทิตํฯ อภิสญฺเจตยิตนฺติ เจตยิตํ ปกปฺปิตํฯ โส ตตฺถ ฐิโตติ โส ตสฺมิํ สมถวิปสฺสนาธมฺเม ฐิโตฯ ธมฺมราเคน ธมฺมนนฺทิยาติ ปททฺวเยหิ สมถวิปสฺสนาสุ ฉนฺทราโค วุตฺโตฯ สมถวิปสฺสนาสุ หิ สพฺเพน สพฺพํ ฉนฺทราคํ ปริยาทิยิตุํ สกฺโกนฺโต อรหา โหติ, อสกฺโกนฺโต อนาคามี โหติฯ โส สมถวิปสฺสนาสุ ฉนฺทราคสฺส อปฺปหีนตฺตา จตุตฺถชฺฌานเจตนาย สุทฺธาวาเส นิพฺพตฺตติ, อยํ อาจริยานํ สมานกถาฯ

วิตณฺฑวาที ปนาห ‘‘เตเนว ธมฺมราเคนาติ วจนโต อกุสเลน สุทฺธาวาเส นิพฺพตฺตตี’’ติ โส ‘‘สุตฺตํ อาหรา’’ติ วตฺตพฺโพ, อทฺธา อญฺญํ อปสฺสนฺโต อิทเมว อาหริสฺสติ, ตโต วตฺตพฺโพ ‘‘กิํ ปนิทํ สุตฺตํ เนยฺยตฺถํ นีตตฺถ’’นฺติ, อทฺธา นีตตฺถนฺติ วกฺขติฯ

ตโต วตฺตพฺโพ – เอวํ สนฺเต อนาคามิผลตฺถิเกน สมถวิปสฺสนาสุ ฉนฺทราโค กตฺตพฺโพ ภวิสฺสติ, ฉนฺทราเค อุปฺปาทิเต อนาคามิผลํ ปฏิวิทฺธํ ภวิสฺสติ ‘‘มา สุตฺตํ เม ลทฺธ’’นฺติ ยํ วา ตํ วา ทีเปหิฯ ปญฺหํ กเถนฺเตน หิ อาจริยสฺส สนฺติเก อุคฺคเหตฺวา อตฺถรสํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา กเถตุํ วฏฺฏติ, อกุสเลน หิ สคฺเค, กุสเลน วา อปาเย ปฏิสนฺธิ นาม นตฺถิฯ วุตฺตญฺเหตํ ภควตา –

‘‘น, ภิกฺขเว, โลภเชน กมฺเมน โทสเชน กมฺเมน โมหเชน กมฺเมน เทวา ปญฺญายนฺติ, มนุสฺสา ปญฺญายนฺติ, ยา วา ปนญฺญาปิ กาจิ สุคติโย, อถ โข, ภิกฺขเว, โลภเชน กมฺเมน โทสเชน กมฺเมน โมหเชน กมฺเมน นิรโย ปญฺญายติ, ติรจฺฉานโยนิ ปญฺญายติ, เปตฺติวิสโย ปญฺญายติ, ยา วา ปนญฺญาปิ กาจิ ทุคฺคติโย’’ติ –

เอวํ ปญฺญาเปตพฺโพฯ สเจ สญฺชานาติ สญฺชานาตุ, โน เจ สญฺชานาติ, ‘‘คจฺฉ ปาโตว วิหารํ ปวิสิตฺวา ยาคุํ ปิวาหี’’ติ อุยฺโยเชตพฺโพฯ

ยถา จ ปน อิมสฺมิํ สุตฺเต, เอวํ มหามาลุกฺโยวาเทปิ มหาสติปฏฺฐาเนปิ กายคตาสติสุตฺเตปิ สมถวิปสฺสนา กถิตาฯ ตตฺถ อิมสฺมิํ สุตฺเต สมถวเสน คจฺฉโตปิ วิปสฺสนาวเสน คจฺฉโตปิ สมถธุรเมว ธุรํ, มหามาลุกฺโยวาเท วิปสฺสนาว ธุรํ, มหาสติปฏฺฐานํ ปน วิปสฺสนุตฺตรํ นาม กถิตํ, กายคตาสติสุตฺตํ สมถุตฺตรนฺติฯ

อยํ โข คหปติ…เป.… เอกธมฺโม อกฺขาโตติ เอกธมฺมํ ปุจฺฉิเตน อยมฺปิ เอกธมฺโมติ เอวํ ปุจฺฉาวเสน กถิตตฺตา เอกาทสปิ ธมฺมา เอกธมฺโม นาม ชาโตฯ มหาสกุลุทายิสุตฺตสฺมิญฺหิ เอกูนวีสติ ปพฺพานิ ปฏิปทาวเสน เอกธมฺโม นาม ชาตานิ, อิธ เอกาทสปุจฺฉาวเสน เอกธมฺโมติ อาคตานิฯ อมตุปฺปตฺติยตฺเถน วา สพฺพานิปิ เอกธมฺโมติ วตฺตุํ วฏฺฏติฯ

[21] นิธิมุขํ คเวสนฺโตติ นิธิํ ปริเยสนฺโตฯ สกิเทวาติ เอกปโยเคนฯ กถํ ปน เอกปโยเคเนว เอกาทสนฺนํ นิธีนํ อธิคโม โหตีติฯ อิเธกจฺโจ อรญฺเญ นิธิํ คเวสมาโน จรติ, ตเมนํ อญฺญตโร อตฺถจรโก ทิสฺวา ‘‘กิํ โภ จรสี’’ติ ปุจฺฉติฯ

โส ‘‘ชีวิตวุตฺติํ ปริเยสามี’’ติ อาหฯ อิตโร ‘‘เตน หิ สมฺม อาคจฺฉ, เอตํ ปาสาณํ ปวตฺเตหี’’ติ อาหฯ โส ตํ ปวตฺเตตฺวา อุปรูปริ ฐปิตา วา กุจฺฉิยา กุจฺฉิํ อาหจฺจ ฐิตา วา เอกาทส กุมฺภิโย ปสฺเสยฺย, เอวํ เอกปโยเคน เอกาทสนฺนํ นิธีนํ อธิคโม โหติฯ

อาจริยธนํ ปริเยสิสฺสนฺตีติ อญฺญติตฺถิยา หิ ยสฺส สนฺติเก สิปฺปํ อุคฺคณฺหนฺติ, ตสฺส สิปฺปุคฺคหณโต ปุเร วา ปจฺฉา วา อนฺตรนฺตเร วา เคหโต นีหริตฺวา ธนํ เทนฺติฯ เยสํ เคเห นตฺถิ, เต ญาติสภาคโต ปริเยสนฺติ, ตถา อลภมานา ภิกฺขมฺปิ จริตฺวา เทนฺติเยวฯ ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํฯ

กิมงฺคํ ปนาหนฺติ พาหิรกา ตาว อนิยฺยานิเกปิ สาสเน สิปฺปมตฺตทายกสฺส ธนํ ปริเยสนฺติ; อหํ ปน เอวํวิเธ นิยฺยานิกสาสเน เอกาทสวิธํ อมตุปฺปตฺติปฏิปทํ เทเสนฺตสฺส อาจริยสฺส ปูชํ กิํ น กริสฺสามิ, กริสฺสามิเยวาติ วทติฯ ปจฺเจกทุสฺสยุเคน อจฺฉาเทสีติ เอกเมกสฺส ภิกฺขุโน เอเกกํ ทุสฺสยุคมทาสีติ อตฺโถฯ สมุทาจารวจนํ ปเนตฺถ เอวรูปํ โหติ, ตสฺมา อจฺฉาเทสีติ วุตฺตํฯ ปญฺจสตวิหารนฺติ ปญฺจสตคฺฆนิกํ ปณฺณสาลํ กาเรสีติ อตฺโถฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติฯ

ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺฐกถาย

อฏฺฐกนาครสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

3. เสขสุตฺตวณฺณนา

[22] เอวํ เม สุตนฺติ เสขสุตฺตํฯ ตตฺถ นวํ สนฺถาคารนฺติ อธุนา การิตํ สนฺถาคารํ, เอกา มหาสาลาติ อตฺโถฯ อุยฺโยคกาลาทีสุ หิ ราชาโน ตตฺถ ฐตฺวา ‘‘เอตฺตกา ปุรโต คจฺฉนฺตุ, เอตฺตกา ปจฺฉา, เอตฺตกา อุโภหิ ปสฺเสหิ, เอตฺตกา หตฺถีสุ อภิรุหนฺตุ, เอตฺตกา อสฺเสสุ, เอตฺตกา รเถสุ ติฏฺฐนฺตู’’ติ เอวํ สนฺถํ กโรนฺติ, มริยาทํ พนฺธนฺติ, ตสฺมา ตํ ฐานํ สนฺถาคารนฺติ วุจฺจติฯ อุยฺโยคฏฺฐานโต จ อาคนฺตฺวา ยาว เคเหสุ อลฺลโคมยปริภณฺฑาทีนิ กโรนฺติ, ตาว ทฺเว ตีณิ ทิวสานิ เต ราชาโน ตตฺถ สนฺถมฺภนฺตีติปิ สนฺถาคารํฯ เตสํ ราชูนํ สห อตฺถานุสาสนํ อคารนฺติปิ สนฺถาคารํ คณราชาโน หิ เต , ตสฺมา อุปฺปนฺนกิจฺจํ เอกสฺส วเสน น ฉิชฺชติ, สพฺเพสํ ฉนฺโท ลทฺธุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา สพฺเพ ตตฺถ สนฺนิปติตฺวา อนุสาสนฺติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘สห อตฺถานุสาสนํ อคารนฺติปิ สนฺถาคาร’’นฺติฯ ยสฺมา ปเนเต ตตฺถ สนฺนิปติตฺวา ‘‘อิมสฺมิํ กาเล กสิตุํ วฏฺฏติ, อิมสฺมิํ กาเล วปิตุ’’นฺติ เอวมาทินา นเยน ฆราวาสกิจฺจานิ สมฺมนฺตยนฺติ, ตสฺมา ฉิทฺทาวฉิทฺทํ ฆราวาสํ ตตฺถ สนฺถรนฺตีติปิ สนฺถาคารํฯ อจิรการิตํ โหตีติ กฏฺฐกมฺม-สิลากมฺม-จิตฺตกมฺมาทิวเสน สุสชฺชิตํ เทววิมานํ วิย อธุนา นิฏฺฐาปิตํฯ สมเณน วาติ เอตฺถ ยสฺมา ฆรวตฺถุปริคฺคหกาเลเยว เทวตา อตฺตโน วสนฏฺฐานํ คณฺหนฺติ, ตสฺมา ‘‘เทเวน วา’’ติ อวตฺวา ‘‘สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เกนจิ วา มนุสฺสภูเตนา’’ติ วุตฺตํฯ

เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสูติ สนฺถาคารํ นิฏฺฐิตนฺติ สุตฺวา ‘‘คจฺฉาม, นํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ คนฺตฺวา ทฺวารโกฏฺฐกโต ปฏฺฐาย สพฺพํ โอโลเกตฺวา ‘‘อิทํ สนฺถาคารํ เทววิมานสทิสํ อติวิย มโนรมํ สสฺสิริกํ เกน ปฐมํ ปริภุตฺตํ อมฺหากํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย อสฺสา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘อมฺหากํ ญาติเสฏฺฐสฺส ปฐมํ ทิยฺยมาเนปิ สตฺถุโนว อนุจฺฉวิกํ, ทกฺขิเณยฺยวเสน ทิยฺยมาเนปิ สตฺถุโนว อนุจฺฉวิกํ, ตสฺมา ปฐมํ สตฺถารํ ปริภุญฺชาเปสฺสาม, ภิกฺขุสงฺฆสฺส อาคมนํ กริสฺสาม, ภิกฺขุสงฺเฆ อาคเต เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ อาคตเมว ภวิสฺสติ, สตฺถารํ ติยามรตฺติํ อมฺหากํ ธมฺมกถํ กถาเปสฺสาม, อิติ ตีหิ รตเนหิ ปริภุตฺตํ มยํ ปจฺฉา ปริภุญฺชิสฺสาม , เอวํ โน ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย ภวิสฺสตี’’ติ สนฺนิฏฺฐานํ กตฺวา อุปสงฺกมิํสุฯ

เยน สนฺถาคารํ เตนุปสงฺกมิํสูติ ตํ ทิวสํ กิร สนฺถาคารํ กิญฺจาปิ ราชกุลานํ ทสฺสนตฺถาย เทววิมานํ วิย สุสชฺชิตํ โหติ สุปฏิชคฺคิตํ, พุทฺธารหํ ปน กตฺวา อปฺปญฺญตฺตํฯ พุทฺธา หิ นาม อรญฺญชฺฌาสยา อรญฺญารามา อนฺโตคาเม วเสยฺยุํ วา โน วา, ตสฺมา ภควโต มนํ ชานิตฺวาว ปญฺญาเปสฺสามาติ จินฺเตตฺวา เต ภควนฺตํ อุปสงฺกมิํสุฯ อิทานิ ปน มนํ ลภิตฺวา ปญฺญาเปตุกามา เยน สนฺถาคารํ เตนุปสงฺกมิํสุฯ

สพฺพสนฺถริํ สนฺถาคารํ สนฺถริตฺวาติ ยถา สพฺพเมว สนฺถตํ โหติ, เอวํ ตํ สนฺถราเปตฺวาฯ