เมนู

สกมฺมุนา หญฺญตีติ อตฺตนา กตกมฺมวเสน ‘‘กสาหิปิ ตาเลตี’’ติอาทีหิ กมฺมการณาหิ หญฺญติฯ เปจฺจ ปรมฺหิ โลเกติ อิโต คนฺตฺวา ปรมฺหิ อปายโลเกฯ

วิรูปรูเปนาติ วิวิธรูเปน, นานาสภาเวนาติ อตฺโถฯ กามคุเณสูติ ทิฏฺฐธมฺมิกสมฺปรายิเกสุ สพฺพกามคุเณสุ อาทีนวํ ทิสฺวาฯ ทหราติ อนฺตมโส กลลมตฺตภาวํ อุปาทาย ตรุณาฯ วุฑฺฒาติ วสฺสสตาติกฺกนฺตาฯ อปณฺณกํ สามญฺญเมว เสยฺโยติ อวิรุทฺธํ อทฺวชฺฌคามิํ เอกนฺตนิยฺยานิกํ สามญฺญเมว ‘‘เสยฺโย, อุตฺตริตรญฺจ ปณีตตรญฺจา’’ติ อุปธาเรตฺวา ปพฺพชิโตสฺมิ มหาราชาติฯ ตสฺมา ยํ ตฺวํ วทสิ – ‘‘กิํ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา’’ติ, อิทํ ทิสฺวา จ สุตฺวา จ ปพฺพชิโตสฺมีติ มํ ธาเรหีติ เทสนํ นิฏฺฐาเปสีติฯ

ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺฐกถาย

รฏฺฐปาลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

3. มฆเทวสุตฺตวณฺณนา

[308] เอวํ เม สุตนฺติ มฆเทวสุตฺตํฯ ตตฺถ มฆเทวอมฺพวเนติ ปุพฺเพ มฆเทโว นาม ราชา ตํ อมฺพวนํ โรเปสิฯ เตสุ รุกฺเขสุ ปลุชฺชมาเนสุ อปรภาเค อญฺเญปิ ราชาโน โรเปสุํเยวฯ ตํ ปน ปฐมโวหารวเสน มฆเทวมฺพวนนฺเตว สงฺขํ คตํฯ สิตํ ปาตฺวากาสีติ สายนฺหสมเย วิหารจาริกํ จรมาโน รมณียํ ภูมิภาคํ ทิสฺวา – ‘‘วสิตปุพฺพํ นุ โข เม อิมสฺมิํ โอกาเส’’ติ อาวชฺชนฺโต – ‘‘ปุพฺเพ อหํ มฆเทโว นาม ราชา หุตฺวา อิมํ อมฺพวนํ โรเปสิํ, เอตฺเถว ปพฺพชิตฺวา จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติํฯ ตํ โข ปเนตํ การณํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อปากฏํ, ปากฏํ กริสฺสามี’’ติ อคฺคคฺคทนฺเต ทสฺเสนฺโต สิตํ ปาตุ อกาสิฯ

ธมฺโม อสฺส อตฺถีติ ธมฺมิโกฯ ธมฺเมน ราชา ชาโตติ ธมฺมราชาฯ ธมฺเม ฐิโตติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺเม ฐิโตฯ

ธมฺมํ จรตีติ สมํ จรติ ฯ ตตฺร พฺราหฺมณคหปติเกสูติ โยปิ โส ปุพฺพราชูหิ พฺราหฺมณานํ ทินฺนปริหาโร, ตํ อหาเปตฺวา ปกตินิยาเมเนว อทาสิ, ตถา คหปติกานํฯ ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํฯ ปกฺขสฺสาติ อิมินา ปาฏิหาริกปกฺโขปิ สงฺคหิโตฯ อฏฺฐมีอุโปสถสฺส หิ ปจฺจุคฺคมนานุคฺคมนวเสน สตฺตมิยญฺจ นวมิยญฺจ, จาตุทฺทสปนฺนรสานํ ปจฺจุคฺคมนานุคฺคมนวเสน เตรสิยญฺจ ปาฏิปเท จาติ อิเม ทิวสา ปาฏิหาริกปกฺขาติ เวทิตพฺพาฯ เตสุปิ อุโปสถํ อุปวสิฯ

[309] เทวทูตาติ เทโวติ มจฺจุ, ตสฺส ทูตาติ เทวทูตาฯ สิรสฺมิญฺหิ ปลิเตสุ ปาตุภูเตสุ มจฺจุราชสฺส สนฺติเก ฐิโต วิย โหติ, ตสฺมา ปลิตานิ มจฺจุเทวสฺส ทูตาติ วุจฺจนฺติฯ เทวา วิย ทูตาติปิ เทวทูตาฯ ยถา หิ อลงฺกตปฏิยตฺตาย เทวตาย อากาเส ฐตฺวา ‘‘อสุกทิวเส มริสฺสตี’’ติ วุตฺเต ตํ ตเถว โหติ, เอวํ สิรสฺมิํ ปลิเตสุ ปาตุภูเตสุ เทวตาพฺยากรณสทิสเมว โหติฯ ตสฺมา ปลิตานิ เทวสทิสา ทูตาติ วุจฺจนฺติฯ วิสุทฺธิเทวานํ ทูตาติปิ เทวทูตาฯ สพฺพโพธิสตฺตา หิ ชิณฺณพฺยาธิตมตปพฺพชิเต ทิสฺวาว สํเวคมาปชฺชิตฺวา นิกฺขมฺม ปพฺพชนฺติฯ ยถาห –

‘‘ชิณฺณญฺจ ทิสฺวา ทุขิตญฺจ พฺยาธิตํ,

มตญฺจ ทิสฺวา คตมายุสงฺขยํ;

กาสายวตฺถํ ปพฺพชิตญฺจ ทิสฺวา,

ตสฺมา อหํ ปพฺพชิโตมฺหิ ราชา’’ติฯ

อิมินา ปริยาเยน ปลิตานิ วิสุทฺธิเทวานํ ทูตตฺตา เทวทูตาติ วุจฺจนฺติฯ

กปฺปกสฺส คามวรํ ทตฺวาติ สตสหสฺสุฏฺฐานกํ เชฏฺฐกคามํ ทตฺวาฯ กสฺมา อทาสิ? สํวิคฺคมานสตฺตาฯ ตสฺส หิ อญฺชลิสฺมิํ ฐปิตานิ ปลิตานิ ทิสฺวาว สํเวโค อุปฺปชฺชติฯ อญฺญานิ จตุราสีติวสฺสสหสฺสานิ อายุ อตฺถิ, เอวํ สนฺเตปิ มจฺจุราชสฺส สนฺติเก ฐิตํ วิย อตฺตานํ มญฺญมาโน สํวิคฺโค ปพฺพชฺชํ โรเจติฯ เตน วุตฺตํ –

‘‘สิเร ทิสฺวาน ปลิตํ, มฆเทโว ทิสมฺปติ;

สํเวคํ อลภี ธีโร, ปพฺพชฺชํ สมโรจยี’’ติฯ

อปรมฺปิ วุตฺตํ –

‘‘อุตฺตมงฺครุหา มยฺหํ, อิเม ชาตา วโยหรา;

ปาตุภูตา เทวทูตา, ปพฺพชฺชาสมโย มมา’’ติฯ

ปุริสยุเคติ วํสสมฺภเว ปุริเสฯ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวาติ ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชนฺตาปิ หิ ปฐมํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา ปพฺพชนฺติ, ตโต ปฏฺฐาย วฑฺฒิเต เกเส พนฺธิตฺวา ชฏากลาปธรา หุตฺวา วิจรนฺติฯ โพธิสตฺโตปิ ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิฯ ปพฺพชิโต ปน อเนสนํ อนนุยุญฺชิตฺวา ราชเคหโต อาหฏภิกฺขาย ยาเปนฺโต พฺรหฺมวิหารํ ภาเวสิฯ ตสฺมา โส เมตฺตาสหคเตนาติอาทิ วุตฺตํฯ

กุมารกีฬิตํ กีฬีติ องฺเกน องฺกํ ปริหริยมาโน กีฬิฯ มาลากลาปํ วิย หิ นํ อุกฺขิปิตฺวาว วิจริํสุฯ รญฺโญ มฆเทวสฺส ปุตฺโต…เป.… ปพฺพชีติ อิมสฺส ปพฺพชิตทิวเส ปญฺจ มงฺคลานิ อเหสุํฯ มฆเทวรญฺโญ มตกภตฺตํ, ตสฺส รญฺโญ ปพฺพชิตมงฺคลํ, ตสฺส ปุตฺตสฺส ฉตฺตุสฺสาปนมงฺคลํ, ตสฺส ปุตฺตสฺส อุปรชฺชมงฺคลํ, ตสฺส ปุตฺตสฺส นามกรณมงฺคลนฺติ เอกสฺมิํเยว สมเย ปญฺจ มงฺคลานิ อเหสุํ, สกลชมฺพุทีปตเล อุนฺนงฺคลมโหสิฯ

[311] ปุตฺตปปุตฺตกาติ ปุตฺตา จ ปุตฺตปุตฺตา จาติ เอวํ ปวตฺตา ตสฺส ปรมฺปราฯ ปจฺฉิมโก อโหสีติ ปพฺพชฺชาปจฺฉิมโก อโหสิฯ โพธิสตฺโต กิร พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺโต – ‘‘ปวตฺตติ นุ โข ตํ มยา มนุสฺสโลเก นิหตํ กลฺยาณวตฺต’’นฺติ อาวชฺชนฺโต อทฺทส – ‘‘เอตฺตกํ อทฺธานํ ปวตฺตติ, อิทานิ น ปวตฺติสฺสตี’’ติฯ น โข ปนาหํ มยฺหํ ปเวณิยา อุจฺฉิชฺชิตุํ ทสฺสามีติ อตฺตโน วํเส ชาตรญฺโญเยว อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิสฺมิํ ปฏิสนฺธิํ คเหตฺวา อตฺตโน วํสสฺส เนมิํ ฆเฏนฺโต วิย นิพฺพตฺโต, เตเนวสฺส นิมีติ นามํ อโหสิฯ

อิติ โส ปพฺพชิตราชูนํ สพฺพปจฺฉิมโก หุตฺวา ปพฺพชิโตติ ปพฺพชฺชาปจฺฉิมโก อโหสิฯ คุเณหิ ปน อติเรกตโรฯ ตสฺส หิ สพฺพราชูหิ อติเรกตรา ทฺเว คุณา อเหสุํ ฯ จตูสุ ทฺวาเรสุ สตสหสฺสํ สตสหสฺสํ วิสฺสชฺเชตฺวา เทวสิกํ ทานํ อทาสิ, อนุโปสถิกสฺส จ ทสฺสนํ นิวาเรสิฯ อนุโปสถิเกสุ หิ ราชานํ ปสฺสิสฺสามาติ คเตสุ โทวาริโก ปุจฺฉติ ‘‘ตุมฺเห อุโปสถิกา โน วา’’ติฯ เย อนุโปสถิกา โหนฺติ, เต นิวาเรติ ‘‘อนุโปสถิกานํ ราชา ทสฺสนํ น เทตี’’ติฯ ‘‘มยํ ชนปทวาสิโน กาเล โภชนํ กุหิํ ลภิสฺสามา’’ติปิ ตตฺถ วจโนกาโส นตฺถิฯ จตูสุ หิ ทฺวาเรสุ ราชงฺคเณ จ อเนกานิ ภตฺตจาฏิสหสฺสานิ ปฏิยตฺตาเนว โหนฺติฯ ตสฺมา มหาชโน อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺฐาเน มสฺสุํ กาเรตฺวา นฺหายิตฺวา วตฺถานิ ปริวตฺเตตฺวา ยถารุจิตํ โภชนํ ภุญฺชิตฺวา อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺฐาย รญฺโญ เคหทฺวารํ คจฺฉติฯ โทวาริเกน ‘‘อุโปสถิกา ตุมฺเห’’ติ ปุจฺฉิตปุจฺฉิตา ‘‘อาม อามา’’ติ วทนฺติฯ เตน หิ อาคจฺฉถาติ ปเวเสตฺวา รญฺโญ ทสฺเสติฯ อิติ อิเมหิ ทฺวีหิ คุเณหิ อติเรกตโร อโหสิฯ

[312] เทวานํ ตาวติํสานนฺติ ตาวติํสภวเน นิพฺพตฺตเทวานํฯ เต กิร เทวา วิเทหรฏฺเฐ มิถิลนครวาสิโน รญฺโญ โอวาเท ฐตฺวา ปญฺจ สีลานิ รกฺขิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กตฺวา ตตฺถ นิพฺพตฺตา รญฺโญ คุณกถํ กเถนฺติฯ เต สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เทวานํ ตาวติํสาน’’นฺติฯ

นิสินฺโน โหตีติ ปาสาทวรสฺส อุปริคโต ทานญฺจ สีลญฺจ อุปปริกฺขมาโน นิสินฺโน โหติฯ เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘ทานํ นุ โข มหนฺตํ อุทาหุ สีลํ, ยทิ ทานํ มหนฺตํ, อชฺโฌตฺถริตฺวา ทานเมว ทสฺสามิฯ อถ สีลํ, สีลเมว ปูริสฺสามี’’ติฯ ตสฺส ‘‘อิทํ มหนฺตํ อิทํ มหนฺต’’นฺติ นิจฺฉิตุํ อสกฺโกนฺตสฺเสว สกฺโก คนฺตฺวา ปุรโต ปาตุรโหสิฯ เตน วุตฺตํ อถ โข, อานนฺท,…เป.… สมฺมุเข ปาตุรโหสีติฯ เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘รญฺโญ กงฺขา อุปฺปนฺนา, ตสฺส กงฺขจฺเฉทนตฺถํ ปญฺหญฺจ กเถสฺสามิ, อิธาคมนตฺถาย ปฏิญฺญญฺจ คณฺหิสฺสามี’’ติ ฯ ตสฺมา คนฺตฺวา สมฺมุเข ปาตุรโหสิฯ ราชา อทิฏฺฐปุพฺพํ รูปํ ทิสฺวา ภีโต อโหสิ โลมหฏฺฐชาโตฯ อถ นํ สกฺโก – ‘‘มา ภายิ, มหาราช, วิสฺสตฺโถ ปญฺหํ ปุจฺฉ, กงฺขํ เต ปฏิวิโนเทสฺสามี’’ติ อาหฯ

ราชา

‘‘ปุจฺฉามิ ตํ มหาราช, สพฺพภูตานมิสฺสร;

ทานํ วา พฺรหฺมจริยํ วา, กตมํ สุ มหปฺผล’’นฺติฯ –

ปญฺหํ ปุจฺฉิฯ สกฺโก – ‘‘ทานํ นาม กิํ, สีลเมว คุณวิสิฏฺฐตาย มหนฺตํฯ อหญฺหิ ปุพฺเพ, มหาราช, ทสวสฺสสหสฺสานิ ทสนฺนํ ชฏิลสหสฺสานํ ทานํ ทตฺวา เปตฺติวิสยโต น มุตฺโต, สีลวนฺตา ปน มยฺหํ ทานํ ภุญฺชิตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตา’’ติ วตฺวา อิมา คาถา อโวจ –

‘‘หีเนน พฺรหฺมจริเยน, ขตฺติเย อุปปชฺชติ;

มชฺฌิเมน จ เทวตฺตํ, อุตฺตเมน วิสุชฺฌติฯ

น เหเต สุลภา กายา, ยาจโยเคน เกนจิ;

เย กาเย อุปปชฺชนฺติ, อนาคารา ตปสฺสิโน’’ติฯ (ชา. 2.22.429-430);

เอวํ รญฺโญ กงฺขํ วิโนเทตฺวา เทวโลกคมนาย ปฏิญฺญาคหณตฺถํ ลาภา เต มหาราชาติอาทิมาหฯ ตตฺถ อวิกมฺปมาโนติ อภายมาโนฯ อธิวาเสสีติ อหํ มหาชนํ กุสลํ สมาทเปมิ, ปุญฺญวนฺตานํ ปน วสนฏฺฐานํ ทิสฺวา อาคเตน มนุสฺสปเถ สุขํ กเถตุํ โหตีติ อธิวาเสสิฯ

[313] เอวํ ภทฺทนฺตวาติ เอวํ โหตุ ภทฺทกํ ตว วจนนฺติ วตฺวาฯ โยเชตฺวาติ เอกสฺมิํเยว ยุเค สหสฺสอสฺสาชานีเย โยเชตฺวาฯ เตสํ ปน ปาฏิเยกฺกํ โยชนกิจฺจํ นตฺถิ, มนํ อาคมฺม ยุตฺตาเยว โหนฺติฯ โส ปน ทิพฺพรโถ ทิยฑฺฒโยชนสติโก โหติ, นทฺธิโต ปฏฺฐาย รถสีสํ ปญฺญาสโยชนานิ, อกฺขพนฺโธ ปณฺณาสโยชนานิ, อกฺขพนฺธโต ปฏฺฐาย ปจฺฉาภาโค ปณฺณาสโยชนานิ, สพฺโพ สตฺตวณฺณรตนมโยฯ เทวโลโก นาม อุทฺธํ, มนุสฺสโลโก อโธ, ตสฺมา เหฏฺฐามุขํ รถํ เปเสสีติ น สลฺลกฺเขตพฺพํฯ ยถา ปน ปกติมคฺคํ เปเสติ, เอวเมว มนุสฺสานํ สายมาสภตฺเต นิฏฺฐิเต จนฺเทน สทฺธิํ ยุคนทฺธํ กตฺวา เปเสสิ, ยมกจนฺทา อุฏฺฐิตา วิย อเหสุํฯ มหาชโน ทิสฺวา ‘‘ยมกจนฺทา อุคฺคตา’’ติ อาหฯ อาคจฺฉนฺเต อาคจฺฉนฺเต น ยมกจนฺทา, เอกํ วิมานํ, น วิมานํ, เอโก รโถติฯ

รโถปิ อาคจฺฉนฺโต อาคจฺฉนฺโต ปกติรถปฺปมาโณว, อสฺสาปิ ปกติอสฺสปฺปมาณาว อเหสุํฯ เอวํ รถํ อาหริตฺวา รญฺโญ ปาสาทํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ปาจีนสีหปญฺชรฏฺฐาเน รถํ นิวตฺเตตฺวา อาคตมคฺคาภิมุขํ กตฺวา สีหปญฺชเร ฐตฺวาว อาโรหนสชฺชํ ฐเปสิฯ

อภิรุห มหาราชาติ ราชา – ‘‘ทิพฺพยานํ เม ลทฺธ’’นฺติ น ตาวเทว อภิรุหิ, นาครานํ ปน โอวาทํ อทาสิ ‘‘ปสฺสถ ตาตา, ยํ เม สกฺเกน เทวรญฺญา ทิพฺพรโถ เปสิโต, โส จ โข น ชาติโคตฺตํ วา กุลปฺปเทสํ วา ปฏิจฺจ เปสิโต, มยฺหํ ปน สีลาจารคุเณ ปสีทิตฺวา เปสิโตฯ สเจ ตุมฺเหปิ สีลํ รกฺขิสฺสถ, ตุมฺหากมฺปิ เปเสสฺสติ, เอวํ รกฺขิตุํ ยุตฺตํ นาเมตํ สีลํฯ นาหํ เทวโลกํ คนฺตฺวา จิรายิสฺสามิ, อปฺปมตฺตา โหถา’’ติ มหาชนํ โอวทิตฺวา ปญฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺฐาเปตฺวา รถํ อภิรุหิฯ ตโต มาตลิ สงฺคาหโก ‘‘อหมฺปิ มหาราชสฺส มมานุจฺฉวิกํ กริสฺสามี’’ติ อากาสมฺหิ ทฺเว มคฺเค ทสฺเสตฺวา อปิจ มหาราชาติอาทิมาหฯ

ตตฺถ กตเมนาติ, มหาราช, อิเมสุ มคฺเคสุ เอโก นิรยํ คจฺฉติ, เอโก เทวโลกํ, เตสุ ตํ กตเมน เนมิฯ เยนาติ เยน มคฺเคน คนฺตฺวา ยตฺถ ปาปกมฺมนฺตา ปาปกานํ กมฺมานํ วิปากํ ปฏิสํเวทิยนฺติ, ตํ ฐานํ สกฺกา โหติ ปสฺสิตุนฺติ อตฺโถฯ ทุติยปเทปิ เอเสว นโยฯ ชาตเกปิ –

‘‘เกน ตํ เนมิ มคฺเคน, ราชเสฏฺฐ ทิสมฺปติ;

เยน วา ปาปกมฺมนฺตา, ปุญฺญกมฺมา จ เย นรา’’ติฯ (ชา. 2.22.450) –

คาถาย อยเมวตฺโถฯ เตเนวาห –

‘‘นิรเย ตาว ปสฺสามิ, อาวาเส ปาปกมฺมินํ;

ฐานานิ ลุทฺทกมฺมานํ, ทุสฺสีลานญฺจ ยา คตี’’ติฯ (ชา. 2.22.451);

อุภเยเนว มํ มาตลิ เนหีติ มาตลิ ทฺวีหิ มคฺเคหิ มํ เนหิ, อหํ นิรยํ ปสฺสิตุกาโม เทวโลกมฺปีติฯ ปฐมํ กตเมน เนมีติฯ ปฐมํ นิรยมคฺเคน เนหีติฯ ตโต มาตลิ อตฺตโน อานุภาเวน ราชานํ ปญฺจทส มหานิรเย ทสฺเสสิฯ วิตฺถารกถา ปเนตฺถ –

‘‘ทสฺเสสิ มาตลิ รญฺโญ, ทุคฺคํ เวตรณิํ นทิํ;

กุถิตํ ขารสํยุตฺตํ, ตตฺตํ อคฺคิสิขูปม’’นฺติฯ (ชา. 2.22.452) –

ชาตเก วุตฺตนเยน เวทิตพฺพาฯ นิรยํ ทสฺเสตฺวา รถํ นิวตฺเตตฺวา เทวโลกาภิมุขํ คนฺตฺวา พีรณีเทวธีตาย โสณทินฺนเทวปุตฺตสฺส คณเทวปุตฺตานญฺจ วิมานานิ ทสฺเสนฺโต เทวโลกํ เนสิฯ ตตฺราปิ วิตฺถารกถา –

‘‘ยทิ เต สุตา พีรณี ชีวโลเก,

อามายทาสี อหุ พฺราหฺมณสฺส;

สา ปตฺตกาเล อติถิํ วิทิตฺวา,

มาตาว ปุตฺตํ สกิมาภินนฺที;

สํยมา สํวิภาคา จ,

สา วิมานสฺมิ โมทตี’’ติฯ (ชา. 2.22.507) –

ชาตเก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพาฯ

เอวํ คจฺฉโต ปน ตสฺส รถเนมิ วฏฺฏิยา จิตฺตกูฏทฺวารโกฏฺฐกสฺส อุมฺมาเร ปหตมตฺเตว เทวนคเร โกลาหลํ อโหสิฯ สกฺกํ เทวราชานํ เอกกํเยว โอหาย เทวสงฺโฆ มหาสตฺตํ ปจฺจุคฺคมนมกาสิ, ตํ เทวตานํ อาทรํ ทิสฺวา สกฺโก จิตฺตํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต – ‘‘อภิรม, มหาราช, เทเวสุ เทวานุภาเวนา’’ติ อาหฯ เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อยํ ราชา อชฺช อาคนฺตฺวา เอกทิวเสเนว เทวคณํ อตฺตโน อภิมุขมกาสิฯ สเจ เอกํ ทฺเว ทิวเส วสิสฺสติ, น มํ เทวา โอโลเกสฺสนฺตี’’ติฯ โส อุสูยมาโน, ‘‘มหาราช, ตุยฺหํ อิมสฺมิํ เทวโลเก วสิตุํ ปุญฺญํ นตฺถิ, อญฺเญสํ ปุญฺเญน วสาหี’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน เอวมาหฯ โพธิสตฺโต – ‘‘นาสกฺขิ ชรสกฺโก มนํ สนฺธาเรตุํ, ปรํ นิสฺสาย ลทฺธํ โข ปน ยาจิตฺวา ลทฺธภณฺฑกํ วิย โหตี’’ติ ปฏิกฺขิปนฺโต อลํ มาริสาติอาทิมาหฯ ชาตเกปิ วุตฺตํ –

‘‘ยถา ยาจิตกํ ยานํ, ยถา ยาจิตกํ ธนํ;

เอวํสมฺปทเมเว ตํ, ยํ ปรโต ทานปจฺจยา;

น จาหเมตมิจฺฉามิ, ยํ ปรโต ทานปจฺจยา’’ติฯ (ชา. 2.22.585-586) –

สพฺพํ วตฺตพฺพํฯ โพธิสตฺโต ปน มนุสฺสตฺตภาเวน กติวาเร เทวโลกํ คโตติฯ จตฺตาโร – มนฺธาตุราชกาเล สาธินราชกาเล คุตฺติลวีณาวาทกกาเล นิมิมหาราชกาเลติฯ โส มนฺธาตุกาเล เทวโลเก อสงฺเขฺยยฺยํ กาลํ วสิ, ตสฺมิญฺหิ วสมาเนเยว ฉตฺติํส สกฺกา จวิํสุฯ สาธินราชกาเล สตฺตาหํ วสิ, มนุสฺสคณนาย สตฺต วสฺสสตานิ โหนฺติฯ คุตฺติลวีณาวาทกกาเล จ นิมิราชกาเล จ มุหุตฺตมตฺตํ วสิ, มนุสฺสคณนาย สตฺต ทิวสานิ โหนฺติฯ

[314] ตตฺเถว มิถิลํ ปฏิเนสีติ ปฏิเนตฺวา ปกติสิริคพฺเภเยว ปติฏฺฐาเปสิฯ

[315] กฬารชนโกติ ตสฺส นามํฯ กฬารทนฺตตาย ปน กฬารชนโกติ วุตฺโตฯ น โส อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชีติ เอตฺตกมตฺตเมว น อกาสิ, เสสํ สพฺพํ ปากติกเมว อโหสิฯ

[316] สมุจฺเฉโท โหตีติ เอตฺถ กลฺยาณวตฺตํ โก สมุจฺฉินฺทติ, เกน สมุจฺฉินฺนํ, โก ปวตฺเตติ, เกน ปวตฺติตํ นาม โหตีติ อยํ วิภาโค เวทิตพฺโพฯ ตตฺถ สีลวา ภิกฺขุ ‘‘น สกฺกา มยา อรหตฺตํ ลทฺธุ’’นฺติ วีริยํ อกโรนฺโต สมุจฺฉินฺทติฯ ทุสฺสีเลน สมุจฺฉินฺนํ นาม โหติฯ สตฺต เสขา ปวตฺเตนฺติฯ ขีณาสเวน ปวตฺติตํ นาม โหติฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติฯ

ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺฐกถาย

มฆเทวสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

4. มธุรสุตฺตวณฺณนา

[317] เอวํ เม สุตนฺติ มธุรสุตฺตํฯ ตตฺถ มหากจฺจาโนติ คิหิกาเล อุชฺเชนิกรญฺโญ ปุโรหิตปุตฺโต อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก สุวณฺณวณฺโณ จฯ มธุรายนฺติ เอวํนามเก นคเรฯ คุนฺทาวเนติ กณฺหกคุนฺทาวเน อวนฺติปุตฺโตติ อวนฺติรฏฺเฐ รญฺโญ ธีตาย ปุตฺโตฯ วุทฺโธ เจว อรหา จาติ ทหรํ อรหนฺตมฺปิ น ตถา สมฺภาเวนฺติ ยถา มหลฺลกํ, เถโร ปน วุทฺโธ เจว อโหสิ อรหา จฯ พฺราหฺมณา, โภ กจฺจานาติ โส กิร ราชา พฺราหฺมณลทฺธิโก, ตสฺมา เอวมาหฯ พฺราหฺมโณว เสฏฺโฐ วณฺโณติอาทีสุ ชาติโคตฺตาทีนํ ปญฺญาปนฏฺฐาเน พฺราหฺมณาว เสฏฺฐาติ ทสฺเสติฯ หีโน อญฺโญ วณฺโณติ อิตเร ตโย วณฺณา หีนา ลามกาติ วทติฯ สุกฺโกติ ปณฺฑโรฯ กณฺโหติ กาฬโกฯ สุชฺฌนฺตีติ ชาติโคตฺตาทิปญฺญาปนฏฺฐาเนสุ สุชฺฌนฺติฯ พฺรหฺมุโน ปุตฺตาติ มหาพฺรหฺมุโน ปุตฺตาฯ โอรสา มุขโต ชาตาติ อุเร วสิตฺวา มุขโต นิกฺขนฺตา, อุเร กตฺวา สํวทฺธิตาติ วา โอรสาฯ พฺรหฺมชาติ พฺรหฺมโต นิพฺพตฺตาฯ พฺรหฺมนิมฺมิตาติ พฺรหฺมุนา นิมฺมิตาฯ พฺรหฺมทายาทาติ พฺรหฺมุโน ทายาทาฯ โฆโสเยว โข เอโสติ โวหารมตฺตเมเวตํฯ

[318] อิชฺเฌยฺยาติ สมิชฺเฌยฺย, ยตฺตกานิ ธนาทีนิ ปตฺเถยฺย, ตตฺตเกหิสฺส มโนรโถ ปูเรยฺยาติ อตฺโถฯ ขตฺติโยปิสฺสาสฺสาติ ขตฺติโยปิ อสฺส อิสฺสริยสมฺปตฺตสฺส ปุพฺพุฏฺฐายี อสฺสฯ เนสํ เอตฺถ กิญฺจีติ น เอเตสํ เอตฺถ กิญฺจิฯ

[322] อาสเนน วา นิมนฺเตยฺยามาติ นิสินฺนาสนํ ปปฺโผเฏตฺวา อิธ นิสีทาติ วเทยฺยามฯ อภินิมนฺเตยฺยามปิ นนฺติ อภิหริตฺวา ตํ นิมนฺเตยฺยามฯ ตตฺถ ทุวิโธ อภิหาโร วาจาย เจว กาเยน จฯ ‘‘ตุมฺหากํ อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ มมํ จีวราทีหิ วเทยฺยาถ เยนตฺโถ’’ติ วทนฺโต หิ วาจาย อภิหริตฺวา นิมนฺเตติ นามฯ จีวราทิเวกลฺลํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘อิทํ คณฺหถา’’ติ ตานิ เทนฺโต ปน กาเยน อภิหริตฺวา นิมนฺเตติ นามฯ ตทุภยมฺปิ สนฺธาย ‘‘อภินิมนฺเตยฺยามปิ น’’นฺติ อาหฯ รกฺขาวรณคุตฺตินฺติ รกฺขาสงฺขาตญฺเจว อาวรณสงฺขาตญฺจ คุตฺติํฯ ยา ปเนสา อาวุธหตฺเถ ปุริเส ฐเปนฺเตน รกฺขา, สา ธมฺมิกา นาม สํวิหิตา น โหติฯ ยถา ปน อเวลาย กฏฺฐหาริกาปณฺณหาริกาทโย วิหารํ น ปวิสนฺติ, มิคลุทฺทกาทโย วิหารสีมาย มิเค วา มจฺเฉ วา น คณฺหนฺติ, เอวํ สํวิทหนฺเตน ธมฺมิกา นาม สํวิหิตา โหติฯ ตํ สนฺธายาห ‘‘ธมฺมิก’’นฺติฯ