เมนู

10. เวขนสสุตฺตวณฺณนา

[278] เอวํ เม สุตนฺติ เวขนสสุตฺตํฯ ตตฺถ เวขนโสติ อยํ กิร สกุลุทายิสฺส อาจริโย, โส ‘‘สกุลุทายี ปริพฺพาชโก ปรมวณฺณปญฺเห ปราชิโต’’ติ สุตฺวา ‘‘มยา โส สาธุกํ อุคฺคหาปิโต, เตนาปิ สาธุกํ อุคฺคหิตํ, กถํ นุ โข ปราชิโต, หนฺทาหํ สยํ คนฺตฺวา สมณํ โคตมํ ปรมวณฺณปญฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ชานิสฺสามี’’ติ ราชคหโต ปญฺจจตฺตาลีสโยชนํ สาวตฺถิํ คนฺตฺวา เยน ภควา, เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปน ฐิตโกว ภควโต สนฺติเก อุทานํ อุทาเนสิฯ ตตฺถ ปุริมสทิสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํฯ

[280] ปญฺจ โข อิเมติ กสฺมา อารภิ? อคาริโยปิ เอกจฺโจ กามครุโก กามาธิมุตฺโต โหติ, เอกจฺโจ เนกฺขมฺมครุโก เนกฺขมฺมาธิมุตฺโต โหติฯ ปพฺพชิโตปิ จ เอกจฺโจ กามครุโก กามาธิมุตฺโต โหติ, เอกจฺโจ เนกฺขมฺมครุโก เนกฺขมฺมาธิมุตฺโต โหติฯ อยํ ปน กามครุโก กามาธิมุตฺโต โหติฯ โส อิมาย กถาย กถิยมานาย อตฺตโน กามาธิมุตฺตตฺตํ สลฺลกฺเขสฺสติ, เอวมสฺสายํ เทสนา สปฺปายา ภวิสฺสตีติ อิมํ เทสนํ อารภิฯ กามคฺคสุขนฺติ นิพฺพานํ อธิปฺเปตํฯ

[281] ปาปิโต ภวิสฺสตีติ อชานนภาวํ ปาปิโต ภวิสฺสติฯ นามกํเยว สมฺปชฺชตีติ นิรตฺถกวจนมตฺตเมว สมฺปชฺชติฯ ติฏฺฐตุ ปุพฺพนฺโต ติฏฺฐตุ อปรนฺโตติ ยสฺมา ตุยฺหํ อตีตกถาย อนุจฺฉวิกํ ปุพฺเพนิวาสญาณํ นตฺถิ, อนาคตกถาย อนุจฺฉวิกํ ทิพฺพจกฺขุญาณํ นตฺถิ, ตสฺมา อุภยมฺเปตํ ติฏฺฐตูติ อาหฯ สุตฺตพนฺธเนหีติ สุตฺตมยพนฺธเนหิฯ ตสฺส หิ อารกฺขตฺถาย หตฺถปาเทสุ เจว คีวาย จ สุตฺตกานิ พนฺธนฺติฯ ตานิ สนฺธาเยตํ วุตฺตํฯ มหลฺลกกาเล ปนสฺส ตานิ สยํ วา ปูตีนิ หุตฺวา มุญฺจนฺติ, ฉินฺทิตฺวา วา หรนฺติฯ

เอวเมว โขติ อิมินา อิทํ ทสฺเสติ – ทหรสฺส กุมารสฺส สุตฺตพนฺธนานํ อชานนกาโล วิย อวิชฺชาย ปุริมาย โกฏิยา อชานนํ, น หิ สกฺกา อวิชฺชาย ปุริมโกฏิ ญาตุํ, โมจนกาเล ชานนสทิสํ ปน อรหตฺตมคฺเคน อวิชฺชาพนฺธนสฺส ปโมกฺโข ชาโตติ ชานนํฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติฯ

ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺฐกถาย

เวขนสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

ตติยวคฺควณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

4. ราชวคฺโค

1. ฆฏิการสุตฺตวณฺณนา

[282] เอวํ เม สุตนฺติ ฆฏิการสุตฺตํฯ ตตฺถ สิตํ ปาตฺวากาสีติ มหามคฺเคน คจฺฉนฺโต อญฺญตรํ ภูมิปฺปเทสํ โอโลเกตฺวา – ‘‘อตฺถิ นุ โข มยา จริยํ จรมาเนน อิมสฺมิํ ฐาเน นิวุตฺถปุพฺพ’’นฺติ อาวชฺชนฺโต อทฺทส – ‘‘กสฺสปพุทฺธกาเล อิมสฺมิํ ฐาเน เวคฬิงฺคํ นาม คามนิคโม อโหสิ, อหํ ตทา โชติปาโล นาม มาณโว อโหสิํ, มยฺหํ สหาโย ฆฏิกาโร นาม กุมฺภกาโร อโหสิ, เตน สทฺธิํ มยา อิธ เอกํ สุการณํ กตํ, ตํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อปากฏํ ปฏิจฺฉนฺนํ, หนฺท นํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปากฏํ กโรมี’’ติ มคฺคา โอกฺกมฺม อญฺญตรสฺมิํ ปเทเส ฐิตโกว สิตปาตุกมฺมมกาสิ, อคฺคคฺคทนฺเต ทสฺเสตฺวา มนฺทหสิตํ หสิฯ ยถา หิ โลกิยมนุสฺสา อุรํ ปหรนฺตา – ‘‘กุหํ กุห’’นฺติ หสนฺติ, น เอวํ พุทฺธา, พุทฺธานํ ปน หสิตํ หฏฺฐปหฏฺฐาการมตฺตเมว โหติฯ

หสิตญฺจ นาเมตํ เตรสหิ โสมนสฺสสหคตจิตฺเตหิ โหติฯ ตตฺถ โลกิยมหาชโน อกุสลโต จตูหิ, กามาวจรกุสลโต จตูหีติ อฏฺฐหิ จิตฺเตหิ หสติ, เสกฺขา อกุสลโต ทิฏฺฐิสมฺปยุตฺตานิ ทฺเว อปเนตฺวา ฉหิ จิตฺเตหิ หสนฺติ, ขีณาสวา จตูหิ สเหตุกกิริยจิตฺเตหิ เอเกน อเหตุกกิริยจิตฺเตนาติ ปญฺจหิ จิตฺเตหิ หสนฺติฯ เตสุปิ พลวารมฺมเณ อาปาถคเต ทฺวีหิ ญาณสมฺปยุตฺตจิตฺเตหิ หสนฺติ, ทุพฺพลารมฺมเณ ทุเหตุกจิตฺตทฺวเยน จ อเหตุกจิตฺเตน จาติ ตีหิ จิตฺเตหิ หสนฺติฯ อิมสฺมิํ ปน ฐาเน กิริยาเหตุกมโนวิญฺญาณธาตุโสมนสฺสสหคตจิตฺตํ ภควโต หฏฺฐปหฏฺฐาการมตฺตํ หสิตํ อุปฺปาเทสิฯ

ตํ ปเนตํ หสิตํ เอวํ อปฺปมตฺตกมฺปิ เถรสฺส ปากฏํ อโหสิฯ