เมนู

2. สพฺพาสวสุตฺตวณฺณนา

[14] เอวํ เม สุตํ…เป.… สาวตฺถิยนฺติ สพฺพาสวสุตฺตํฯ ตตฺรายํ อปุพฺพปทวณฺณนา – สาวตฺถีติ สวตฺถสฺส อิสิโน นิวาสฏฺฐานภูตา นครี, ยถา กากนฺที มากนฺที โกสมฺพีติ เอวํ ตาว อกฺขรจินฺตกาฯ อฏฺฐกถาจริยา ปน ภณนฺติ ‘‘ยํกิญฺจิ มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภคํ สพฺพเมตฺถ อตฺถีติ สาวตฺถีฯ สตฺถสมาโยเค จ กิํ ภณฺฑมตฺถีติ ปุจฺฉิเต สพฺพมตฺถี’’ติ วจนมุปาทาย สาวตฺถีฯ

‘‘สพฺพทา สพฺพูปกรณํ, สาวตฺถิยํ สโมหิตํ;

ตสฺมา สพฺพมุปาทาย, สาวตฺถีติ ปวุจฺจติฯ

โกสลานํ ปุรํ รมฺมํ, ทสฺสเนยฺยํ มโนรมํ;

ทสหิ สทฺเทหิ อวิวิตฺตํ, อนฺนปานสมายุตํฯ

วุทฺธิํ เวปุลฺลตํ ปตฺตํ, อิทฺธํ ผีตํ มโนรมํ;

อฬกมนฺทาว เทวานํ, สาวตฺถิปุรมุตฺตม’’นฺติฯ

ตสฺสํ สาวตฺถิยํฯ เชตวเนติ เอตฺถ อตฺตโน ปจฺจตฺถิกชนํ ชินาตีติ เชโต, รญฺญา วา อตฺตโน ปจฺจตฺถิกชเน ชิเต ชาโตติ เชโต, มงฺคลกมฺยตาย วา ตสฺส เอวํนามเมว กตนฺติ เชโต, เชตสฺส วนํ เชตวนํฯ ตญฺหิ เชเตน ราชกุมาเรน โรปิตํ สํวทฺธิตํ ปริปาลิตํ, โส จ ตสฺส สามี อโหสิฯ ตสฺมา เชตวนนฺติ วุจฺจติ, ตสฺมิํ เชตวเนฯ อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมติ เอตฺถ สุทตฺโต นาม โส คหปติ มาตาปิตูหิ กตนามวเสนฯ สพฺพกามสมิทฺธิตาย ปน วิคตมลมจฺเฉรตาย กรุณาทิคุณสมงฺคิตาย จ นิจฺจกาลํ อนาถานํ ปิณฺฑมทาสิ, เตน อนาถปิณฺฑิโกติ สงฺขํ คโตฯ อารมนฺติ เอตฺถ ปาณิโน วิเสเสน วา ปพฺพชิตาติ อาราโม, ตสฺส ปุปฺผผลาทิโสภาย นาติทูรนจฺจาสนฺนตาทิปญฺจวิธเสนาสนงฺคสมฺปตฺติยา จ ตโต ตโต อาคมฺม รมนฺติ อภิรมนฺติ อนุกฺกณฺฐิตา หุตฺวา นิวสนฺตีติ อตฺโถฯ วุตฺตปฺปการาย วา สมฺปตฺติยา ตตฺถ ตตฺถ คเตปิ อตฺตโน อพฺภนฺตรํเยว อาเนตฺวา รเมตีติ อาราโมฯ

โส หิ อนาถปิณฺฑิเกน คหปตินา เชตสฺส ราชกุมารสฺส หตฺถโต อฏฺฐารสหิ หิรญฺญโกฏีหิ โกฏิสนฺถเรน กีณิตฺวา อฏฺฐารสหิ หิรญฺญโกฏีหิ เสนาสนานิ การาเปตฺวา อฏฺฐารสหิ หิรญฺญโกฏีหิ วิหารมหํ นิฏฺฐาเปตฺวา เอวํ จตุปญฺญาสหิรญฺญโกฏิปริจฺจาเคน พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส นิยฺยาทิโตฯ ตสฺมา ‘‘อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราโม’’ติ วุจฺจติฯ ตสฺมิํ อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม

เอตฺถ จ ‘‘เชตวเน’’ติ วจนํ ปุริมสามิปริกิตฺตนํฯ ‘‘อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม’’ติ ปจฺฉิมสามิปริกิตฺตนํฯ กิเมเตสํ ปริกิตฺตเน ปโยชนนฺติฯ ปุญฺญกามานํ ทิฏฺฐานุคติอาปชฺชนํฯ ตตฺร หิ ทฺวารโกฏฺฐกปาสาทมาปเน ภูมิวิกฺกยลทฺธา อฏฺฐารส หิรญฺญโกฏิโย อเนกโกฏิอคฺฆนกา รุกฺขา จ เชตสฺส ปริจฺจาโค, จตุปญฺญาส โกฏิโย อนาถปิณฺฑิกสฺสฯ อิติ เตสํ ปริกิตฺตเนน เอวํ ปุญฺญกามา ปุญฺญานิ กโรนฺตีติ ทสฺเสนฺโต อายสฺมา อานนฺโท อญฺเญปิ ปุญฺญกาเม เตสํ ทิฏฺฐานุคติอาปชฺชเน นิโยเชติฯ

สพฺพาสวสํวรปริยายํ โว, ภิกฺขเวติ กสฺมา อิทํ สุตฺตมภาสิ? เตสํ ภิกฺขูนํ อุปกฺกิเลสวิโสธนํ อาทิํ กตฺวา อาสวกฺขยาย ปฏิปตฺติทสฺสนตฺถํฯ ตตฺถ สพฺพาสวสํวรปริยายนฺติ สพฺเพสํ อาสวานํ สํวรการณํ สํวรภูตํ การณํ, เยน การเณน เต สํวริตา ปิทหิตา หุตฺวา อนุปฺปาทนิโรธสงฺขาตํ ขยํ คจฺฉนฺติ ปหียนฺติ นปฺปวตฺตนฺติ, ตํ การณนฺติ อตฺโถฯ ตตฺถ อาสวนฺตีติ อาสวา, จกฺขุโตปิ…เป.… มนโตปิ สนฺทนฺติ ปวตฺตนฺตีติ วุตฺตํ โหติฯ ธมฺมโต ยาว โคตฺรภุํ โอกาสโต ยาว ภวคฺคํ สวนฺตีติ วา อาสวา, เอเต ธมฺเม เอตญฺจ โอกาสํ อนฺโต กริตฺวา ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถฯ อนฺโตกรณตฺโถ หิ อยํ อากาโรฯ จิรปาริวาสิยฏฺเฐน มทิราทโย อาสวา, อาสวา วิยาติปิ อาสวาฯ โลกสฺมิญฺหิ จิรปาริวาสิกา มทิราทโย อาสวาติ วุจฺจนฺติฯ ยทิ จ จิรปาริวาสิยฏฺเฐน อาสวา, เอเตเยว ภวิตุมรหนฺติฯ วุตฺตญฺเหตํ ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปญฺญายติ อวิชฺชาย, อิโต ปุพฺเพ อวิชฺชา นาโหสี’’ติอาทิ (อ. นิ. 10.61)ฯ อายตํ วา สํสารทุกฺขํ สวนฺติ ปสวนฺตีติปิ อาสวาฯ ปุริมานิ เจตฺถ นิพฺพจนานิ ยตฺถ กิเลสา อาสวาติ อาคจฺฉนฺติ, ตตฺถ ยุชฺชนฺติ, ปจฺฉิมํ กมฺเมปิฯ น เกวลญฺจ กมฺมกิเลสาเยว อาสวา, อปิจ โข นานปฺปการกา อุปฺปทฺทวาปิฯ สุตฺเตสุ หิ ‘‘นาหํ, จุนฺท, ทิฏฺฐธมฺมิกานํเยว อาสวานํ สํวราย ธมฺมํ เทเสมี’’ติ (ที. นิ. 3.182) เอตฺถ วิวาทมูลภูตา กิเลสา อาสวาติ อาคตาฯ

‘‘เยน เทวูปปตฺยสฺส, คนฺธพฺโพ วา วิหงฺคโม;

ยกฺขตฺตํ เยน คจฺเฉยฺยํ, มนุสฺสตฺตญฺจ อพฺพเช;

เต มยฺหํ อาสวา ขีณา, วิทฺธสฺตา วินฬีกตา’’ติฯ (อ. นิ. 4.36); –

เอตฺถ เตภูมกญฺจ กมฺมํ อวเสสา จ อกุสลา ธมฺมาฯ ‘‘ทิฏฺฐธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตายา’’ติ (ปารา. 39) เอตฺถ ปรูปวาทวิปฺปฏิสารวธพนฺธาทโย เจว อปายทุกฺขภูตา จ นานปฺปการา อุปทฺทวาฯ เต ปเนเต อาสวา ยตฺถ ยถา อาคตา, ตตฺถ ตถา เวทิตพฺพาฯ

เอเต หิ วินเย ตาว ‘‘ทิฏฺฐธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย, สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตายา’’ติ ทฺเวธา อาคตาฯ สฬายตเน ‘‘ตโยเม อาวุโส อาสวา, กามาสโว ภวาสโว อวิชฺชาสโว’’ติ (อ. นิ. 6.63) ติธา อาคตาฯ อญฺเญสุ จ สุตฺตนฺเตสุ อภิธมฺเม จ เตเยว ทิฏฺฐาสเวน สห จตุธา อาคตาฯ นิพฺเพธิกปริยาเย – ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อาสวา นิรยคามินิยา, อตฺถิ อาสวา ติรจฺฉานโยนิคามินิยา, อตฺถิ อาสวา เปตฺติวิสยคามินิยา, อตฺถิ อาสวา มนุสฺสโลกคามินิยา, อตฺถิ อาสวา เทวโลกคามินิยา’’ติ (อ. นิ. 6.63) ปญฺจธา อาคตาฯ ฉกฺกนิปาเต – ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อาสวา สํวรา ปหาตพฺพา’’ติอาทินา นเยน ฉธา อาคตาฯ อิมสฺมิํ ปน สุตฺเต เตเยว ทสฺสนาปหาตพฺเพหิ สทฺธิํ สตฺตธา อาคตาติฯ อยํ ตาว อาสวปเท วจนตฺโถ เจว ปเภโท จฯ

สํวรปเท ปน สํวรยตีติ สํวโร, ปิทหติ นิวาเรติ ปวตฺติตุํ น เทตีติ อตฺโถฯ ตถา หิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทิวา ปฏิสลฺลียนฺเตน ทฺวารํ สํวริตฺวา ปฏิสลฺลียิตุ’’นฺติ (ปารา. 77), ‘‘โสตานํ สํวรํพฺรอูมิ, ปญฺญาเยเต ปิธียเร’’ติ (สุ. นิ. 1041) จ อาทีสุ ปิธานฏฺเฐน สํวรมาหฯ สฺวายํ สํวโร ปญฺจวิโธ โหติ สีลสํวโร สติญาณ ขนฺติ วีริยสํวโรติฯ ตตฺถ ‘‘อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต’’ติ (วิภ. 511) อยํ สีลสํวโรฯ

ปาติโมกฺขสีลญฺหิ เอตฺถ สํวโรติ วุตฺตํฯ ‘‘จกฺขุนฺทฺริเย สํวรมาปชฺชตี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. 1.213) สติสํวโรฯ สติ เหตฺถ สํวโรติ วุตฺตาฯ ‘‘โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ, ปญฺญาเยเต ปิธียเร’’ติ อยํ ญาณสํวโรฯ ญาณญฺเหตฺถ ปิธียเรติ อิมินา ปิธานฏฺเฐน สํวโรติ วุตฺตํฯ ‘‘ขโม โหติ สีตสฺส…เป.…, อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติอาทินา (ม. นิ. 1.24-26) ปน นเยน อิเธว ขนฺติวีริยสํวรา อาคตาฯ เตสญฺจ ‘‘สพฺพาสวสํวรปริยาย’’นฺติ อิมินา อุทฺเทเสน สงฺคหิตตฺตา สํวรภาโว เวทิตพฺโพฯ

อปิจ ปญฺจวิโธปิ อยํ สํวโร อิธ อาคโตเยว, ตตฺถ ขนฺติวีริยสํวรา ตาว วุตฺตาเยวฯ ‘‘โส ตญฺจ อนาสนํ ตญฺจ อโคจร’’นฺติ (ม. นิ. 1.25) อยํ ปเนตฺถ สีลสํวโรฯ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส จกฺขุนฺทฺริยสํวรสํวุโต’’ติ (ม. นิ. 1.22) อยํ สติสํวโรฯ สพฺพตฺถ ปฏิสงฺขา ญาณสํวโรฯ อคฺคหิตคฺคหเณน ปน ทสฺสนํ ปฏิเสวนา ภาวนา จ ญาณสํวโรฯ ปริยายนฺติ เอเตน ธมฺมาติ ปริยาโย, อุปฺปตฺติํ นิโรธํ วา คจฺฉนฺตีติ วุตฺตํ โหติฯ เอตฺตาวตา ‘‘สพฺพาสวสํวรปริยาย’’นฺติ เอตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ วุตฺตํ โหติฯ

[15] อิทานิ ชานโต อหนฺติอาทีสุ ชานโตติ ชานนฺตสฺสฯ ปสฺสโตติ ปสฺสนฺตสฺสฯ ทฺเวปิ ปทานิ เอกตฺถานิ, พฺยญฺชนเมว นานํฯ เอวํ สนฺเตปิ ชานโตติ ญาณลกฺขณํ อุปาทาย ปุคฺคลํ นิทฺทิสติ, ชานนลกฺขณญฺหิ ญาณํฯ ปสฺสโตติ ญาณปฺปภาวํ อุปาทาย, ปสฺสนปฺปภาวญฺหิ ญาณํฯ ญาณสมงฺคี ปุคฺคโล จกฺขุมา วิย จกฺขุนา รูปานิ ญาเณน วิวเฏ ธมฺเม ปสฺสติฯ อปิจ โยนิโสมนสิการํ อุปฺปาเทตุํ ชานโต, อโยนิโสมนสิกาโร ยถา น อุปฺปชฺชติ, เอวํ ปสฺสโตติ อยเมตฺถ สาโรฯ เกจิ ปนาจริยา พหู ปปญฺเจ ภณนฺติ, เต อิมสฺมิํ อตฺเถ น ยุชฺชนฺติฯ

อาสวานํ ขยนฺติ อาสวปฺปหานํ อาสวานํ อจฺจนฺตกฺขยสมุปฺปาทํ ขีณาการํ นตฺถิภาวนฺติ อยเมว หิ อิมสฺมิญฺจ สุตฺเต, ‘‘อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติ’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. 1.438) จ อาสวกฺขยตฺโถฯ อญฺญตฺถ ปน มคฺคผลนิพฺพานานิปิ อาสวกฺขโยติ วุจฺจนฺติฯ ตถา หิ –

‘‘เสขสฺส สิกฺขมานสฺส, อุชุมคฺคานุสาริโน;

ขยสฺมิํ ปฐมํ ญาณํ, ตโต อญฺญา อนนฺตรา’’ติฯ (อิติวุ. 62) –

อาทีสุ มคฺโค อาสวกฺขโยติ วุตฺโต,

‘‘อาสวานํ ขยา สมโณ โหตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. 1.438) ผลํฯ

‘‘ปรวชฺชานุปสฺสิสฺส, นิจฺจํ อุชฺฌานสญฺญิโน;

อาสวา ตสฺส วฑฺฒนฺติ, อารา โส อาสวกฺขยา’’ติฯ (ธ. ป. 253) –

อาทีสุ นิพฺพานํ ‘‘อาสวกฺขโย’’ติ วุตฺตํฯ

โน อชานโต โน อปสฺสโตติ โย ปน น ชานาติ น ปสฺสติ, ตสฺส โน วทามีติ อตฺโถฯ เอเตน เย อชานโต อปสฺสโตปิ สํวราทีหิเยว สุทฺธิํ วทนฺติ, เต ปฏิกฺขิตฺตา โหนฺติฯ ปุริเมน วา ปททฺวเยน อุปาโย วุตฺโต, อิมินา อนุปายปฏิเสโธฯ สงฺเขเปน เจตฺถ ญาณํ อาสวสํวรปริยาโยติ ทสฺสิตํ โหติฯ

อิทานิ ยํ ชานโต อาสวานํ ขโย โหติ, ตํ ทสฺเสตุกาโม กิญฺจ, ภิกฺขเว, ชานโตติ ปุจฺฉํ อารภิ, ตตฺถ ชานนา พหุวิธาฯ ทพฺพชาติโก เอว หิ โกจิ ภิกฺขุ ฉตฺตํ กาตุํ ชานาติ, โกจิ จีวราทีนํ อญฺญตรํ, ตสฺส อีทิสานิ กมฺมานิ วตฺตสีเส ฐตฺวา กโรนฺตสฺส สา ชานนา มคฺคผลานํ ปทฏฺฐานํ น โหตีติ น วตฺตพฺพาฯ โย ปน สาสเน ปพฺพชิตฺวา เวชฺชกมฺมาทีนิ กาตุํ ชานาติ, ตสฺเสวํ ชานโต อาสวา วฑฺฒนฺติเยว, ตสฺมา ยํ ชานโต ปสฺสโต จ อาสวานํ ขโย โหติ, ตเทว ทสฺเสนฺโต อาห โยนิโส จ มนสิการํ อโยนิโส จ มนสิการนฺติฯ

ตตฺถ โยนิโส มนสิกาโร นาม อุปายมนสิกาโร ปถมนสิกาโร, อนิจฺจาทีสุ อนิจฺจนฺติ อาทินา เอว นเยน สจฺจานุโลมิเกน วา จิตฺตสฺส อาวฏฺฏนา อนฺวาวฏฺฏนา อาโภโค สมนฺนาหาโร มนสิกาโร, อยํ วุจฺจติ โยนิโส มนสิกาโรติฯ

อโยนิโส มนสิกาโรติ อนุปายมนสิกาโร อุปฺปถมนสิกาโรฯ อนิจฺเจ นิจฺจนฺติ ทุกฺเข สุขนฺติ อนตฺตนิ อตฺตาติ อสุเภ สุภนฺติ อโยนิโส มนสิกาโร อุปฺปถมนสิกาโรฯ

สจฺจปฺปฏิกุเลน วา จิตฺตสฺส อาวฏฺฏนา อนฺวาวฏฺฏนา อาโภโค สมนฺนาหาโร มนสิกาโร, อยํ วุจฺจติ อโยนิโส มนสิกาโรติฯ เอวํ โยนิโส มนสิการํ อุปฺปาเทตุํ ชานโต, อโยนิโส มนสิกาโร จ ยถา น อุปฺปชฺชติ, เอวํ ปสฺสโต อาสวานํ ขโย โหติฯ

อิทานิ อิมสฺเสวตฺถสฺส ยุตฺติํ ทสฺเสนฺโต อาห อโยนิโส, ภิกฺขเว…เป.… ปหียนฺตีติฯ เตน กิํ วุตฺตํ โหติ, ยสฺมา อโยนิโส มนสิกโรโต อาสวา อุปฺปชฺชนฺติ, โยนิโส มนสิกโรโต ปหียนฺติ, ตสฺมา ชานิตพฺพํ โยนิโส มนสิการํ อุปฺปาเทตุํ ชานโต, อโยนิโส มนสิกาโร จ ยถา น อุปฺปชฺชติ, เอวํ ปสฺสโต อาสวานํ ขโย โหตีติ, อยํ ตาเวตฺถ สงฺเขปวณฺณนาฯ

อยํ ปน วิตฺถาโร – ตตฺถ ‘‘โยนิโส อโยนิโส’’ติ อิเมหิ ตาว ทฺวีหิ ปเทหิ อาพทฺธํ โหติ อุปริ สกลสุตฺตํฯ วฏฺฏวิวฏฺฏวเสน หิ อุปริ สกลสุตฺตํ วุตฺตํฯ อโยนิโส มนสิการมูลกญฺจ วฏฺฏํ, โยนิโส มนสิการมูลกญฺจ วิวฏฺฏํฯ กถํ? อโยนิโส มนสิกาโร หิ วฑฺฒมาโน ทฺเว ธมฺเม ปริปูเรติ อวิชฺชญฺจ ภวตณฺหญฺจฯ อวิชฺชาย จ สติ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา…เป.… ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติฯ ตณฺหาย สติ ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ…เป.… สมุทโย โหตี’’ติฯ เอวํ อยํ อโยนิโส มนสิการพหุโล ปุคฺคโล วาตเวคาภิฆาเตน วิปฺปนฏฺฐนาวา วิย คงฺคาวฏฺเฏ ปติตโคกุลํ วิย จกฺกยนฺเต ยุตฺตพลิพทฺโท วิย จ ปุนปฺปุนํ ภวโยนิคติวิญฺญาณฏฺฐิติสตฺตาวาเสสุ อาวฏฺฏปริวฏฺฏํ กโรติ, เอวํ ตาว อโยนิโส มนสิการมูลกํ วฏฺฏํฯ

โยนิโส มนสิกาโร ปน วฑฺฒมาโน – ‘‘โยนิโส มนสิการสมฺปนฺนสฺเสตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ, อริยํ อฏฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวสฺสติ, อริยํ อฏฺฐงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกริสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. 5.55) วจนโต สมฺมาทิฏฺฐิปมุขํ อฏฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ปริปูเรติฯ ยา จ สมฺมาทิฏฺฐิ, สา วิชฺชาติ ตสฺส วิชฺชุปฺปาทา อวิชฺชานิโรโธ, ‘‘อวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธ…เป.… เอวํ เอตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหตี’’ติ (มหาว. 1) เอวํ โยนิโส มนสิการมูลกํ วิวฏฺฏํ เวทิตพฺพํฯ เอวํ อิเมหิ ทฺวีหิ ปเทหิ อาพทฺธํ โหติ อุปริ สกลสุตฺตํฯ

เอวํ อาพทฺเธ เจตฺถ ยสฺมา ปุพฺเพ อาสวปฺปหานํ ทสฺเสตฺวา ปจฺฉา อุปฺปตฺติ วุจฺจมานา น ยุชฺชติฯ น หิ ปหีนา ปุน อุปฺปชฺชนฺติฯ อุปฺปนฺนานํ ปน ปหานํ ยุชฺชติ, ตสฺมา อุทฺเทสปฏิโลมโตปิ ‘‘อโยนิโส, ภิกฺขเว, มนสิกโรโต’’ติอาทิมาหฯ

ตตฺถ อโยนิโส มนสิกโรโตติ วุตฺตปฺปการํ อโยนิโส มนสิการํ อุปฺปาทยโตฯ อนุปฺปนฺนา เจว อาสวา อุปฺปชฺชนฺตีติ เอตฺถ เย ปุพฺเพ อปฺปฏิลทฺธปุพฺพํ จีวราทิํ วา ปจฺจยํ อุปฏฺฐากสทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกานํ วา อญฺญตรํ มนุญฺญํ วตฺถุํ ปฏิลภิตฺวา, ตํ สุภํ สุขนฺติ อโยนิโส มนสิกโรโต, อญฺญตรญฺญตรํ วา ปน อนนุภูตปุพฺพํ อารมฺมณํ ยถา วา ตถา วา อโยนิโส มนสิกโรโต อาสวา อุปฺปชฺชนฺติ, เต อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺตีติ เวทิตพฺพา, อญฺญถา หิ อนมตคฺเค สํสาเร อนุปฺปนฺนา นาม อาสวา น สนฺติฯ อนุภูตปุพฺเพปิ จ วตฺถุมฺหิ อารมฺมเณ วา ยสฺส ปกติสุทฺธิยา วา อุทฺเทสปริปุจฺฉาปริยตฺตินวกมฺมโยนิโสมนสิการานํ วา อญฺญตรวเสน ปุพฺเพ อนุปฺปชฺชิตฺวา ปจฺฉา ตาทิเสน ปจฺจเยน สหสา อุปฺปชฺชนฺติ, อิเมปิ อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺตีติ เวทิตพฺพาฯ เตสุเยว ปน วตฺถารมฺมเณสุ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชมานา อุปฺปนฺนา ปวฑฺฒนฺตีติ วุจฺจนฺติฯ อิโต อญฺญถา หิ ปฐมุปฺปนฺนานํ วฑฺฒิ นาม นตฺถิฯ

โยนิโส จ โข, ภิกฺขเวติ เอตฺถ ปน ยสฺส ปกติสุทฺธิยา วา เสยฺยถาปิ อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส ภทฺทาย จ กาปิลานิยา, อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีหิ วา การเณหิ อาสวา นุปฺปชฺชนฺติ, โส จ ชานาติ ‘‘น โข เม อาสวา มคฺเคน สมุคฺฆาตํ คตา, หนฺท เนสํ สมุคฺฆาตาย ปฏิปชฺชามี’’ติฯ ตโต มคฺคภาวนาย สพฺเพ สมุคฺฆาเตติฯ ตสฺส เต อาสวา อนุปฺปนฺนา น อุปฺปชฺชนฺตีติ วุจฺจนฺติฯ ยสฺส ปน การกสฺเสว สโต สติสมฺโมเสน สหสา อาสวา อุปฺปชฺชนฺติ, ตโต สํเวคมาปชฺชิตฺวา โยนิโส ปทหนฺโต เต อาสเว สมุจฺฉินฺทติ, ตสฺส อุปฺปนฺนา ปหียนฺตีติ วุจฺจนฺติ มณฺฑลารามวาสีมหาติสฺสภูตตฺเถรสฺส วิยฯ โส กิร ตสฺมิํเยว วิหาเร อุทฺเทสํ คณฺหาติ, อถสฺส คาเม ปิณฺฑาย จรโต วิสภาคารมฺมเณ กิเลโส อุปฺปชฺชิ, โส ตํ วิปสฺสนาย วิกฺขมฺเภตฺวา วิหารํ อคมาสิฯ ตสฺส สุปินนฺเตปิ ตํ อารมฺมณํ น อุปฏฺฐาสิฯ

โส ‘‘อยํ กิเลโส วฑฺฒิตฺวา อปายสํวตฺตนิโก โหตี’’ติ สํเวคํ ชเนตฺวา อาจริยํ อาปุจฺฉิตฺวา วิหารา นิกฺขมฺม มหาสงฺฆรกฺขิตตฺเถรสฺส สนฺติเก ราคปฏิปกฺขํ อสุภกมฺมฏฺฐานํ คเหตฺวา คุมฺพนฺตรํ ปวิสิตฺวา ปํสุกูลจีวรํ สนฺถริตฺวา นิสชฺช อนาคามิมคฺเคน ปญฺจกามคุณิกราคํ ฉินฺทิตฺวา อุฏฺฐาย อาจริยํ วนฺทิตฺวา ปุนทิวเส อุทฺเทสมคฺคํ ปาปุณิฯ เย ปน วตฺตมานุปฺปนฺนา, เตสํ ปฏิปตฺติยา ปหานํ นาม นตฺถิฯ

[16] อิทานิ ‘‘อุปฺปนฺนา จ อาสวา ปหียนฺตี’’ติ อิทเมว ปทํ คเหตฺวา เย เต อาสวา ปหียนฺติ, เตสํ นานปฺปการโต อญฺญมฺปิ ปหานการณํ อาวิกาตุํ เทสนํ วิตฺถาเรนฺโต อตฺถิ, ภิกฺขเว, อาสวา ทสฺสนา ปหาตพฺพาติอาทิมาห ยถา ตํ เทสนาปเภทกุสโล ธมฺมราชาฯ ตตฺถ ทสฺสนา ปหาตพฺพาติ ทสฺสเนน ปหาตพฺพาฯ เอส นโย สพฺพตฺถฯ

ทสฺสนาปหาตพฺพอาสววณฺณนา

[17] อิทานิ ตานิ ปทานิ อนุปุพฺพโต พฺยากาตุกาโม ‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, อาสวา ทสฺสนา ปหาตพฺพา’’ติ ปุจฺฉํ กตฺวา มูลปริยายวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน’’ติ ปุคฺคลาธิฏฺฐานํ เทสนํ อารภิฯ ตตฺถ มนสิกรณีเย ธมฺเม นปฺปชานาตีติ อาวชฺชิตพฺเพ สมนฺนาหริตพฺเพ ธมฺเม น ปชานาติฯ อมนสิกรณีเยติ ตพฺพิปรีเตฯ เอส นโย เสสปเทสุปิฯ ยสฺมา ปน อิเม ธมฺมา มนสิกรณียา, อิเม อมนสิกรณียาติ ธมฺมโต นิยโม นตฺถิ, อาการโต ปน อตฺถิฯ เยนา อากาเรน มนสิกริยมานา อกุสลุปฺปตฺติปทฏฺฐานา โหนฺติ, เตนากาเรน น มนสิกาตพฺพาฯ เยน กุสลุปฺปตฺติปทฏฺฐานา โหนฺติ, เตนากาเรน มนสิกาตพฺพาฯ ตสฺมา ‘‘ย’สฺส, ภิกฺขเว, ธมฺเม มนสิกโรโต อนุปฺปนฺโน วา กามาสโว’’ติอาทิมาหฯ

ตตฺถ ย’สฺสาติ เย อสฺส อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺสฯ มนสิกโรโตติ อาวชฺชยโต สมนฺนาหรนฺตสฺสฯ อนุปฺปนฺโน วา กามาสโวติ เอตฺถ สมุจฺจยตฺโถ วาสทฺโท, น วิกปฺปตฺโถฯ