เมนู

ตตฺถ ธมฺมานุสาริโน สทฺธานุสาริโนติ อิเม ทฺเว โสตาปตฺติมคฺคฏฺฐา โหนฺติฯ ยถาห – ‘‘กตโม จ ปุคฺคโล ธมฺมานุสารี? ยสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนสฺส ปญฺญินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, ปญฺญาวาหิํ ปญฺญาปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวติฯ อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ธมฺมานุสารีฯ โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน ปุคฺคโล ธมฺมานุสารี, ผเล ฐิโต ทิฏฺฐิปฺปตฺโตฯ กตโม จ ปุคฺคโล สทฺธานุสารี? ยสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนสฺส สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, สทฺธาวาหิํ สทฺธาปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวติฯ อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สทฺธานุสารีฯ โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน ปุคฺคโล สทฺธานุสารี, ผเล ฐิโต สทฺธาวิมุตฺโต’’ติ (ปุ. ป. 30)ฯ เยสํ มยิ สทฺธามตฺตํ เปมมตฺตนฺติ อิมินา เยสํ อญฺโญ อริยธมฺโม นตฺถิ, ตถาคเต ปน สทฺธามตฺตํ เปมมตฺตเมว โหติฯ เต วิปสฺสกปุคฺคลา อธิปฺเปตาฯ วิปสฺสกภิกฺขูนญฺหิ เอวํ วิปสฺสนํ ปฏฺฐเปตฺวา นิสินฺนานํ ทสพเล เอกา สทฺธา เอกํ เปมํ อุปฺปชฺชติฯ ตาย สทฺธาย เตน เปเมน หตฺเถ คเหตฺวา สคฺเค ฐปิตา วิย โหนฺติ, นิยตคติกา กิร เอเตฯ โปราณกตฺเถรา ปน เอวรูปํ ภิกฺขุํ จูฬโสตาปนฺโนติ วทนฺติฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติฯ

ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺฐกถาย

อลคทฺทูปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

3. วมฺมิกสุตฺตวณฺณนา

[249] เอวํ เม สุตนฺติ วมฺมิกสุตฺตํฯ ตตฺถ อายสฺมาติ ปิยวจนเมตํฯ กุมารกสฺสโปติ ตสฺส นามํฯ กุมารกาเล ปพฺพชิตตฺตา ปน ภควตา, ‘‘กสฺสปํ ปกฺโกสถ, อิทํ ผลํ วา ขาทนียํ วา กสฺสปสฺส เทถา’’ติ วุตฺเต, กตรสฺส กสฺสปสฺสาติ กุมารกสฺสปสฺสาติ เอวํ คหิตนามตฺตา ตโต ปฏฺฐาย วุฑฺฒกาเลปิ ‘‘กุมารกสฺสโป’’ ตฺเวว วุจฺจติฯ อปิจ รญฺญา โปสาวนิกปุตฺตตฺตาปิ ตํ ‘‘กุมารกสฺสโป’’ติ สญฺชานิํสุฯ อยํ ปนสฺส ปุพฺพโยคโต ปฏฺฐาย อาวิภาวกถา –

เถโร กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล เสฏฺฐิปุตฺโต อโหสิฯ อเถกทิวสํ ภควนฺตํ จิตฺรกถิํ เอกํ อตฺตโน สาวกํ ฐานนฺตเร ฐเปนฺตํ ทิสฺวา ภควโต สตฺตาหํ ทานํ ทตฺวา, ‘‘อหมฺปิ ภควา อนาคเต เอกสฺส พุทฺธสฺส อยํ เถโร วิย จิตฺรกถี สาวโก ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ กตฺวา ปุญฺญานิ กโรนฺโต กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน ปพฺพชิตฺวา วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขิฯ

ตทา กิร ปรินิพฺพุตสฺส ภควโต สาสเน โอสกฺกนฺเต ปญฺจ ภิกฺขู นิสฺเสณิํ พนฺธิตฺวา ปพฺพตํ อภิรุยฺห สมณธมฺมํ อกํสุฯ สงฺฆตฺเถโร ตติยทิวเส อรหตฺตํ ปตฺโตฯ อนุเถโร จตุตฺถทิวเส อนาคามี อโหสิฯ อิตเร ตโย วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺโกนฺตา เทวโลเก นิพฺพตฺติํสุฯ เตสํ เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ สมฺปตฺติํ อนุโภนฺตานํ เอโก ตกฺกสิลายํ ราชกุเล นิพฺพตฺติตฺวา ปุกฺกุสาติ นาม ราชา หุตฺวา ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิตฺวา ราชคหํ คจฺฉนฺโต กุมฺภการสาลายํ ภควโต ธมฺมเทสนํ สุตฺวา อนาคามิผลํ ปตฺโตฯ เอโก เอกสฺมิํ สมุทฺทปฏฺฏเน กุลฆเร นิพฺพตฺติตฺวา นาวํ อารุยฺห ภินฺนนาโว ทารุจีรานิ นิวาเสตฺวา ลาภสมฺปตฺติํ ปตฺโต, ‘‘อหํ อรหา’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา, ‘‘น ตฺวํ อรหา, คจฺฉ สตฺถารํ ปญฺหํ ปุจฺฉา’’ติ อตฺถกามาย เทวตาย โจทิโต ตถา กตฺวา อรหตฺตผลํ ปตฺโตฯ

เอโก ราชคเห เอกิสฺสา กุลทาริกาย กุจฺฉิมฺหิ อุปฺปนฺโนฯ สา จ ปฐมํ มาตาปิตโร ยาจิตฺวา ปพฺพชฺชํ อลภมานา กุลฆรํ คตา คพฺภสณฺฐิตมฺปิ อชานนฺตี สามิกํ อาราเธตฺวา เตน อนุญฺญาตา ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตาฯ ตสฺสา คพฺภินินิมิตฺตํ ทิสฺวา ภิกฺขุนิโย เทวทตฺตํ ปุจฺฉิํสุ, โส ‘‘อสฺสมณี’’ติ อาหฯ ทสพลํ ปุจฺฉิํสุ, สตฺถา อุปาลิตฺเถรํ ปฏิจฺฉาเปสิฯ เถโร สาวตฺถินครวาสีนิ กุลานิ วิสาขญฺจ อุปาสิกํ ปกฺโกสาเปตฺวา โสเธนฺโต, – ‘‘ปุเร ลทฺโธ คพฺโภ, ปพฺพชฺชา อโรคา’’ติ อาหฯ สตฺถา ‘‘สุวินิจฺฉิตํ อธิกรณ’’นฺติ เถรสฺส สาธุการํ อทาสิฯ สา ภิกฺขุนี สุวณฺณพิมฺพสทิสํ ปุตฺตํ วิชายิ, ตํ คเหตฺวา ราชา ปเสนทิ โกสโล โปสาเปสิฯ

‘‘กสฺสโป’’ติ จสฺส นามํ กตฺวา อปรภาเค อลงฺกริตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ เนตฺวา ปพฺพาเชสิฯ อิติ รญฺโญ โปสาวนิกปุตฺตตฺตาปิ ตํ ‘‘กุมารกสฺสโป’’ติ สญฺชานิํสูติฯ

อนฺธวเนติ เอวํนามเก วเนฯ ตํ กิร วนํ ทฺวินฺนํ พุทฺธานํ กาเล อวิชหิตนามํ อนฺธวนํตฺเวว ปญฺญายติฯ ตตฺรายํ ปญฺญตฺติวิภาวนา – อปฺปายุกพุทฺธานญฺหิ สรีรธาตุ น เอกคฺฆนา โหติฯ อธิฏฺฐานานุภาเวน วิปฺปกิริยติฯ เตเนว อมฺหากมฺปิ ภควา, – ‘‘อหํ น จิรฏฺฐิติโก, อปฺปเกหิ สตฺเตหิ อหํ ทิฏฺโฐ, เยหิ น ทิฏฺโฐ, เตว พหุตรา, เต เม ธาตุโย อาทาย ตตฺถ ตตฺถ ปูเชนฺตา สคฺคปรายณา ภวิสฺสนฺตี’’ติ ปรินิพฺพานกาเล, ‘‘อตฺตโน สรีรํ วิปฺปกิริยตู’’ติ อธิฏฺฐาสิฯ ทีฆายุกพุทฺธานํ ปน สุวณฺณกฺขนฺโธ วิย เอกคฺฆนํ ธาตุสรีรํ ติฏฺฐติฯ

กสฺสปสฺสาปิ ภควโต ตเถว อฏฺฐาสิฯ ตโต มหาชนา สนฺนิปติตฺวา, ‘‘ธาตุโย เอกคฺฆนา น สกฺกา วิโยเชตุํ, กิํ กริสฺสามา’’ติ สมฺมนฺตยิตฺวา เอกคฺฆนเมว เจติยํ กริสฺสาม, กิตฺตกํ ปน โหตุ ตนฺติ อาหํสุฯ เอเก สตฺตโยชนิยนฺติ อาหํสุฯ เอตํ อติมหนฺตํ, อนาคเต ชคฺคิตุํ น สกฺกา, ฉโยชนํ โหตุ, ปญฺจโยชนํ… จตุโยชนํ… ติโยชนํ… ทฺวิโยชนํ… เอกโยชนํ โหตูติ สนฺนิฏฺฐานํ กตฺวา อิฏฺฐกา กีทิสา โหนฺตูติ พาหิรนฺเต อิฏฺฐกา รตฺตสุวณฺณมยา เอกคฺฆนา สตสหสฺสคฺฆนิกา โหนฺตุ, อพฺภนฺตริมนฺเต ปญฺญาสสหสฺสคฺฆนิกาฯ หริตาลมโนสิลาหิ มตฺติกากิจฺจํ กยิรตุ, เตเลน อุทกกิจฺจนฺติ นิฏฺฐํ คนฺตฺวา จตฺตาริ มุขานิ จตุธา วิภชิํสุฯ ราชา เอกํ มุขํ คณฺหิ, ราชปุตฺโต ปถวินฺทรกุมาโร เอกํ, อมจฺจานํ เชฏฺฐโก หุตฺวา เสนาปติ เอกํ, ชนปทานํ เชฏฺฐโก หุตฺวา เสฏฺฐิ เอกํฯ

ตตฺถ ธนสมฺปนฺนตาย ราชาปิ สุวณฺณํ นีหราเปตฺวา อตฺตนา คหิตมุเข กมฺมํ อารภิ, อุปราชาปิ, เสนาปติปิฯ เสฏฺฐินา คหิตมุเข ปน กมฺมํ โอลียติฯ

ตโต ยโสรโต นาม เอโก อุปาสโก เตปิฏโก ภาณโก อนาคามี อริยสาวโก, โส กมฺมํ โอลียตีติ ญตฺวา ปญฺจ สกฏสตานิ โยชาเปตฺวา ชนปทํ คนฺตฺวา ‘‘กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺโธ วีสติวสฺสสหสฺสานิ ฐตฺวา ปรินิพฺพุโตฯ ตสฺส โยชนิกํ รตนเจติยํ กยิรติ, โย ยํ ทาตุํ อุสฺสหติ สุวณฺณํ วา หิรญฺญํ วา สตฺตรตนํ วา หริตาลํ วา มโนสิลํ วา, โส ตํ เทตู’’ติ สมาทเปสิฯ มนุสฺสา อตฺตโน อตฺตโน ถาเมน หิรญฺญสุวณฺณาทีนิ อทํสุฯ อสกฺโกนฺตา เตลตณฺฑุลาทีนิ เทนฺติเยวฯ อุปาสโก เตลตณฺฑุลาทีนิ กมฺมการานํ ภตฺตเวตนตฺถํ ปหิณาติ, อวเสเสหิ สุวณฺณํ เจตาเปตฺวา ปหิณาติ, เอวํ สกลชมฺพุทีปํ อจริฯ

เจติเย กมฺมํ นิฏฺฐิตนฺติ เจติยฏฺฐานโต ปณฺณํ ปหิณิํสุ – ‘‘นิฏฺฐิตํ กมฺมํ อาจริโย อาคนฺตฺวา เจติยํ วนฺทตู’’ติฯ โสปิ ปณฺณํ ปหิณิ – ‘‘มยา สกลชมฺพุทีโป สมาทปิโต, ยํ อตฺถิ, ตํ คเหตฺวา กมฺมํ นิฏฺฐาเปนฺตู’’ติฯ ทฺเวปิ ปณฺณานิ อนฺตรามคฺเค สมาคมิํสุฯ อาจริยสฺส ปณฺณโต ปน เจติยฏฺฐานโต ปณฺณํ ปฐมตรํ อาจริยสฺส หตฺถํ อคมาสิฯ โส ปณฺณํ วาเจตฺวา เจติยํ วนฺทิสฺสามีติ เอกโกว นิกฺขมิฯ อนฺตรามคฺเค อฏวิยํ ปญฺจ โจรสตานิ อุฏฺฐหิํสุฯ ตตฺเรกจฺเจ ตํ ทิสฺวา อิมินา สกลชมฺพุทีปโต หิรญฺญสุวณฺณํ สมฺปิณฺฑิตํ, นิธิกุมฺภี โน ปวฏฺฏมานา อาคตาติ อวเสสานํ อาโรเจตฺวา ตํ อคฺคเหสุํฯ กสฺมา ตาตา, มํ คณฺหถาติ? ตยา สกลชมฺพุทีปโต สพฺพํ หิรญฺญสุวณฺณํ สมฺปิณฺฑิตํ, อมฺหากมฺปิ โถกํ โถกํ เทหีติฯ กิํ ตุมฺเห น ชานาถ, กสฺสโป ภควา ปรินิพฺพุโต, ตสฺส โยชนิกํ รตนเจติยํ กยิรติ, ตทตฺถาย มยา สมาทปิตํ, โน อตฺตโน อตฺถายฯ ตํ ตํ ลทฺธลทฺธฏฺฐานโต ตตฺเถว เปสิตํ, มยฺหํ ปน นิวตฺถสาฏกมตฺตํ ฐเปตฺวา อญฺญํ วิตฺตํ กากณิกมฺปิ นตฺถีติฯ

เอเก, ‘‘เอวเมตํ วิสฺสเชถ อาจริย’’นฺติ อาหํสุฯ เอเก, ‘‘อยํ ราชปูชิโต อมจฺจปูชิโต , อมฺเหสุ กญฺจิเทว นครวีถิยํ ทิสฺวา ราชราชมหามตฺตาทีนํ อาโรเจตฺวา อนยวฺยสนํ ปาปุณาเปยฺยา’’ติ อาหํสุฯ อุปาสโก, ‘‘ตาตา, นาหํ เอวํ กริสฺสามี’’ติ อาหฯ ตญฺจ โข เตสุ การุญฺเญน, น อตฺตโน ชีวิตนิกนฺติยาฯ อถ เตสุ คเหตพฺโพ วิสฺสชฺเชตพฺโพติ วิวทนฺเตสุ คเหตพฺโพติ ลทฺธิกา เอว พหุตรา หุตฺวา ชีวิตา โวโรปยิํสุฯ

เตสํ พลวคุเณ อริยสาวเก อปราเธน นิพฺพุตทีปสิขา วิย อกฺขีนิ อนฺตรธายิํสุฯ เต, ‘‘กหํ โภ จกฺขุ, กหํ โภ จกฺขู’’ติ วิปฺปลปนฺตา เอกจฺเจ ญาตเกหิ เคหํ นีตาฯ เอกจฺเจ โนญาตกา อนาถาติ ตตฺเถว อฏวิยํ รุกฺขมูเล ปณฺณสาลายํ วสิํสุฯ อฏวิํ อาคตมนุสฺสา การุญฺเญน เตสํ ตณฺฑุลํ วา ปุฏภตฺตํ วา ปริพฺพยํ วา เทนฺติฯ ทารุปณฺณาทีนํ อตฺถาย คนฺตฺวา อาคตา มนุสฺสา กุหิํ คตตฺถาติ วุตฺเต อนฺธวนํ คตมฺหาติ วทนฺติฯ เอวํ ทฺวินฺนมฺปิ พุทฺธานํ กาเล ตํ วนํ อนฺธวนํตฺเวว ปญฺญายติฯ กสฺสปพุทฺธกาเล ปเนตํ ฉฑฺฑิตชนปเท อฏวิ อโหสิฯ อมฺหากํ ภควโต กาเล สาวตฺถิยา อวิทูเร เชตวนสฺส ปิฏฺฐิภาเค ปวิเวกกามานํ กุลปุตฺตานํ วสนฏฺฐานํ ปธานฆรํ อโหสิ, ตตฺถ อายสฺมา กุมารกสฺสโป เตน สมเยน เสขปฏิปทํ ปูรยมาโน วิหรติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘อนฺธวเน วิหรตี’’ติฯ

อญฺญตรา เทวตาติ นามโคตฺตวเสน อปากฏา เอกา เทวตาติ อตฺโถฯ ‘‘อภิชานาติ โน, ภนฺเต, ภควา อหุญาตญฺญตรสฺส มเหสกฺขสฺส สํขิตฺเตน ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺติํ ภาสิตา’’ติ (ม. นิ. 1.365) เอตฺถ ปน อภิญฺญาโต สกฺโกปิ เทวราชา อญฺญตโรติ วุตฺโตฯ เทวตาติ จ อิทํ เทวานมฺปิ เทวธีตานมฺปิ สาธารณวจนํฯ อิมสฺมิํ ปนตฺเถ เทโว อธิปฺเปโตฯ อภิกฺกนฺตาย รตฺติยาติ เอตฺถ อภิกฺกนฺตสทฺโท ขยสุนฺทราภิรูปอพฺภนุโมทนาทีสุ ทิสฺสติฯ ตตฺถ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ, นิกฺขนฺโต ปฐโม ยาโม, จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ, อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ เอวมาทีสุ (อ. นิ. 8.20) ขเย ทิสฺสติฯ ‘‘อยํ อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ (อ. นิ. 4.100) เอวมาทีสุ สุนฺทเรฯ

‘‘โก เม วนฺทติ ปาทานิ, อิทฺธิยา ยสสา ชลํ;

อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, สพฺพา โอภาสยํ ทิสา’’ติฯ (วิ. ว. 857) –

เอวมาทีสุ อภิรูเปฯ ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตมา’’ติ เอวมาทีสุ (ปารา. 15) อพฺภนุโมทเนฯ อิธ ปน ขเยฯ เตน อภิกฺกนฺตาย รตฺติยาติ ปริกฺขีณาย รตฺติยาติ วุตฺตํ โหติฯ

ตตฺถายํ เทวปุตฺโต มชฺฌิมยามสมนนฺตเร อาคโตติ เวทิตพฺโพฯ อภิกฺกนฺตวณฺณาติ อิธ อภิกฺกนฺตสทฺโท อภิรูเปฯ วณฺณสทฺโท ปน ฉวิ-ถุติ-กุลวคฺคการณ-สณฺฐานปมาณรูปายตนาทีสุ ทิสฺสติฯ ตตฺถ, ‘‘สุวณฺณวณฺโณสิ ภควา’’ติ เอวมาทีสุ ฉวิยาฯ ‘‘กทา สญฺญูฬฺหา ปน เต คหปติ สมณสฺส โคตมสฺส วณฺณา’’ติ (ม. นิ. 2.77) เอวมาทีสุ ถุติยํฯ ‘‘จตฺตาโรเม, โภ โคตม, วณฺณา’’ติ เอวมาทีสุ (ที. นิ. 3.115) กุลวคฺเคฯ ‘‘อถ เกน นุ วณฺเณน, คนฺธเถโนติ วุจฺจตี’’ติ เอวมาทีสุ (สํ. นิ. 1.234) การเณฯ ‘‘มหนฺตํ หตฺถิราชวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา’’ติ เอวมาทีสุ (สํ. นิ. 1.138) สณฺฐาเนฯ ‘‘ตโย ปตฺตสฺส วณฺณา’’ติ เอวมาทีสุ (ปารา. 602) ปมาเณฯ ‘‘วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชา’’ติ เอวมาทีสุ รูปายตเนฯ โส อิธ ฉวิยํ ทฏฺฐพฺโพฯ เตน อภิกฺกนฺตวณฺณาติ อภิรูปฉวิอิฏฺฐวณฺณา, มนาปวณฺณาติ วุตฺตํ โหติฯ เทวตา หิ มนุสฺสโลกํ อาคจฺฉมานา ปกติวณฺณํ ปกติอิทฺธิํ ปชหิตฺวา โอฬาริกํ อตฺตภาวํ กตฺวา อติเรกวณฺณํ อติเรกอิทฺธิํ มาเปตฺวา นฏสมชฺชาทีนิ คจฺฉนฺตา มนุสฺสา วิย อภิสงฺขเตน กาเยน อาคจฺฉนฺติฯ อยมฺปิ เทวปุตฺโต ตเถว อาคโตฯ เตน วุตฺตํ ‘‘อภิกฺกนฺตวณฺณา’’ติฯ

เกวลกปฺปนฺติ เอตฺถ เกวลสทฺโท อนวเสส-เยภูยฺย-อพฺยามิสฺสานติเรกทฬฺหตฺถ-วิสํโยคาทิอเนกตฺโถฯ ตถา หิสฺส, ‘‘เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริย’’นฺติ (ปารา. 1) เอวมาทีสุ อนวเสสตฺตมตฺโถฯ ‘‘เกวลกปฺปา จ องฺคมคธา ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ อาทาย อุปสงฺกมิสฺสนฺตี’’ติ เอวมาทีสุ เยภุยฺยตาฯ ‘‘เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี’’ติ (วิภ. 225) เอวมาทีสุ อพฺยามิสฺสตาฯ ‘‘เกวลํ สทฺธามตฺตกํ นูน อยมายสฺมา’’ติ (มหาว. 244) เอวมาทีสุ อนติเรกตาฯ ‘‘อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส พาหิโย นาม สทฺธิวิหาริโก เกวลกปฺปํ สงฺฆเภทาย ฐิโต’’ติ (อ. นิ. 4.243) เอวมาทีสุ ทฬฺหตฺถตา ฯ ‘‘เกวลี วุสิตวา อุตฺตมปุริโสติ วุจฺจตี’’ติ (สํ. นิ. 3.57) เอวมาทีสุ วิสํโยโคฯ อิธ ปนสฺส อนวเสสตฺตมตฺโถติ อธิปฺเปโตฯ

กปฺปสทฺโท ปนายํ อภิสทฺทหน-โวหาร-กาล-ปญฺญตฺติ- เฉทน-วิกปฺป-เลส-สมนฺตภาวาทิ-อเนกตฺโถฯ

ตถา หิสฺส, ‘‘โอกปฺปนิยเมตํ โภโต โคตมสฺส, ยถา ตํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติ (ม. นิ. 1.387) เอวมาทีสุ อภิสทฺทหนมตฺโถฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ สมณกปฺเปหิ ผลํ ปริภุญฺชิตุ’’นฺติ (จูฬว. 250) เอวมาทีสุ โวหาโรฯ ‘‘เยน สุทํ นิจฺจกปฺปํ วิหรามี’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. 1.387) กาโลฯ ‘‘อิจฺจายสฺมา กปฺโป’’ติ (สํ. นิ. 3.124) เอวมาทีสุ ปญฺญตฺติฯ ‘‘อลงฺกตา กปฺปิตเกสมสฺสู’’ติ (สํ. นิ. 4.365) เอวมาทีสุ เฉทนํฯ ‘‘กปฺปติ ทฺวงฺคุลกปฺโป’’ติ (จูฬว. 446) เอวมาทีสุ วิกปฺโปฯ ‘‘อตฺถิ กปฺโป นิปชฺชิตุ’’นฺติ (อ. นิ. 8.80) เอวมาทีสุ เลโสฯ ‘‘เกวลกปฺปํ เวฬุวนํ โอภาเสตฺวา’’ติ (สํ. นิ. 1.94) เอวมาทีสุ สมนฺตภาโวฯ อิธ ปนสฺส สมนฺตภาโว อตฺโถ อธิปฺเปโตฯ ตสฺมา เกวลกปฺปํ อนฺธวนนฺติ เอตฺถ อนวเสสํ สมนฺตโต อนฺธวนนฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺฐพฺโพฯ

โอภาเสตฺวาติ วตฺถาลงฺการสรีรสมุฏฺฐิตาย อาภาย ผริตฺวา, จนฺทิมา วิย จ สูริโย วิย จ เอโกภาสํ เอกปชฺโชตํ กริตฺวาติ อตฺโถฯ เอกมนฺตํ อฏฺฐาสีติ เอกสฺมิํ อนฺเต, เอกสฺมิํ โอกาเส อฏฺฐาสิฯ เอตทโวจาติ เอตํ ‘‘ภิกฺขุ ภิกฺขู’’ติอาทิวจนมโวจฯ กสฺมา ปนายํ อวนฺทิตฺวา สมณโวหาเรเนว กเถตีติ? สมณสญฺญาสมุทาจาเรเนวฯ เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อยํ อนฺตรา กามาวจเร วสิฯ อหํ ปน อสฺมิ ตโต กาลโต ปฏฺฐาย พฺรหฺมจารี’’ติ สมณสญฺญาวสฺส สมุทาจรติ, ตสฺมา อวนฺทิตฺวา สมณโวหาเรเนว กเถติฯ ปุพฺพสหาโย กิเรโส เทวปุตฺโต เถรสฺสฯ กุโต ปฏฺฐายาติ? กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาลโต ปฏฺฐายฯ โย หิ ปุพฺพโยเค อาคเตสุ ปญฺจสุ สหาเยสุ อนุเถโร จตุตฺถทิวเส อนาคามี อโหสีติ วุตฺโต, อยํ โสฯ ตทา กิร เตสุ สงฺฆตฺเถรสฺส อรหตฺเตเนว สทฺธิํ อภิญฺญา อาคมิํสุฯ โส, ‘‘มยฺหํ กิจฺจํ มตฺถกํ ปตฺต’’นฺติ เวหาสํ อุปฺปติตฺวา อโนตตฺตทเห มุขํ โธวิตฺวา อุตฺตรกุรุโต ปิณฺฑปาตํ อาทาย อาคนฺตฺวา, ‘‘อิมํ, อาวุโส, ปิณฺฑปาตํ ภุญฺชิตฺวา อปฺปมตฺตา สมณธมฺมํ กโรถา’’ติ อาหฯ อิตเร อาหํสุ – ‘‘น, อาวุโส, อมฺหากํ เอวํ กติกา อตฺถิ – ‘โย ปฐมํ วิเสสํ นิพฺพตฺเตตฺวา ปิณฺฑปาตํ อาหรติ, เตนาภตํ ภุญฺชิตฺวา เสเสหิ สมณธมฺโม กาตพฺโพ’ติฯ

ตุมฺเห อตฺตโน อุปนิสฺสเยน กิจฺจํ มตฺถกํ ปาปยิตฺถฯ มยมฺปิ สเจ โน อุปนิสฺสโย ภวิสฺสติ, กิจฺจํ มตฺถกํ ปาเปสฺสามฯ ปปญฺโจ เอส อมฺหากํ, คจฺฉถ ตุมฺเห’’ติฯ โส ยถาผาสุกํ คนฺตฺวา อายุปริโยสาเน ปรินิพฺพายิฯ

ปุนทิวเส อนุเถโร อนาคามิผลํ สจฺฉกาสิ, ตสฺส อภิญฺญาโย อาคมิํสุฯ โสปิ ตเถว ปิณฺฑปาตํ อาหริตฺวา เตหิ ปฏิกฺขิตฺโต ยถาผาสุกํ คนฺตฺวา อายุปริโยสาเน สุทฺธาวาเส นิพฺพตฺติฯ โส สุทฺธาวาเส ฐตฺวา เต สหาเย โอโลเกนฺโต, เอโก ตทาว ปรินิพฺพุโต, เอโก อธุนา ภควโต สนฺติเก อริยภูมิํ ปตฺโต, เอโก ลาภสกฺการํ นิสฺสาย, ‘‘อหํ อรหา’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา สุปฺปารกปฏฺฏเน วสตีติ ทิสฺวา ตํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘น ตฺวํ อรหา, น อรหตฺตมคฺคํ ปฏิปนฺโน, คจฺฉ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุณาหี’’ติ อุยฺโยเชสิฯ โสปิ อนฺตรฆเร ภควนฺตํ โอวาทํ ยาจิตฺวา, ‘‘ตสฺมา ติห เต พาหิย เอวํ สิกฺขิตพฺพํ ทิฏฺเฐ ทิฏฺฐมตฺตํ โหตู’’ติ (อุทา. 10) ภควตา สํขิตฺเตน โอวทิโต อริยภูมิํ สมฺปาปุณิฯ

ตโต อญฺโญ เอโก อตฺถิ, โส กุหินฺติ โอโลเกนฺโต อนฺธวเน เสกฺขปฏิปทํ ปูรยมาโน วิหรตีติ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘สหายกสฺส สนฺติเก คมิสฺสามีติ, คจฺฉนฺเตน ปน ตุจฺฉหตฺเถน อคนฺตฺวา กิญฺจิ ปณฺณาการํ คเหตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ, สหาโย โข ปน เม นิรามิโส ปพฺพตมตฺถเก วสนฺโต มยา อากาเส ฐตฺวา ทินฺนํ ปิณฺฑปาตมฺปิ อปริภุญฺชิตฺวา สมณธมฺมํ อกาสิ, อิทานิ อามิสปณฺณาการํ กิํ คณฺหิสฺสติ? ธมฺมปณฺณาการํ คเหตฺวา คมิสฺสามี’’ติ พฺรหฺมโลเก ฐิโตว รตนาวฬิํ คนฺเถนฺโต วิย ปนฺนรส ปญฺเห วิภชิตฺวา ตํ ธมฺมปณฺณาการํ อาทาย อาคนฺตฺวา สหายสฺส อวิทูเร ฐตฺวา อตฺตโน สมณสญฺญาสมุทาจารวเสน ตํ อนภิวาเทตฺวาว, ‘‘ภิกฺขุ ภิกฺขู’’ติ อาลปิตฺวา อยํ วมฺมิโกติอาทิมาหฯ ตตฺถ ตุริตาลปนวเสน ภิกฺขุ ภิกฺขูติ อาเมฑิตํ เวทิตพฺพํฯ

ยถา วา เอกเนว ติลเกน นลาฏํ น โสภติ, ตํ ปริวาเรตฺวา อญฺเญสุปิ ทินฺเนสุ ผุลฺลิตมณฺฑิตํ วิย โสภติ, เอวํ เอเกเนว ปเทน วจนํ น โสภติ , ปริวาริกปเทน สทฺธิํ ผุลฺลิตมณฺฑิตํ วิย โสภตีติ ตํ ปริวาริกปทวเสน วจนํ ผุลฺลิตมณฺฑิตํ วิย กโรนฺโตปิ เอวมาหฯ

อยํ วมฺมิโกติ ปุรโต ฐิโต วมฺมิโก นาม นตฺถิ, เทสนาวเสน ปน ปุรโต ฐิตํ ทสฺเสนฺโต วิย อยนฺติ อาหฯ ลงฺคินฺติ สตฺถํ อาทาย ขณนฺโต ปลิฆํ อทฺทสฯ อุกฺขิป ลงฺคิํ อภิกฺขณ สุเมธาติ ตาต, ปณฺฑิต, ลงฺคี นาม รตฺติํ ธูมายติ ทิวา ปชฺชลติฯ อุกฺขิเปต ปรํ ปรโต ขณาติฯ เอวํ สพฺพปเทสุ อตฺโถ ทฏฺฐพฺโพฯ อุทฺธุมายิกนฺติ มณฺฑูกํฯ จงฺกวารนฺติ ขารปริสฺสาวนํฯ กุมฺมนฺติ กจฺฉปํฯ อสิสูนนฺติ มํสจฺเฉทกํ อสิญฺเจว อธิกุฏฺฏนญฺจฯ มํสเปสินฺติ นิสทโปตปฺปมาณํ อลฺลมํสปิณฺฑํฯ นาคนฺติ สุมนปุปฺผกลาปสทิสํ มหาผณํ ติวิธโสวตฺถิกปริกฺขิตฺตํ อหินาคํ อทฺทสฯ มา นาคํ ฆฏฺเฏสีติ ทณฺฑกโกฏิยา วา วลฺลิโกฏิยา วา ปํสุจุณฺณํ วา ปน ขิปมาโน มา นาคํ ฆฏฺฏยิฯ นโม กโรหิ นาคสฺสาติ อุปริวาตโต อปคมฺม สุทฺธวตฺถํ นิวาเสตฺวา นาคสฺส นมกฺการํ กโรหิฯ นาเคน อธิสยิตํ ธนํ นาม ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา ขาทโต น ขียติ, นาโค เต อธิสยิตํ ธนํ ทสฺสติ, ตสฺมา นโม กโรหิ นาคสฺสาติฯ อิโต วา ปน สุตฺวาติ ยถา ทุกฺขกฺขนฺเธ อิโตติ สาสเน นิสฺสกํ, น ตถา อิธฯ อิธ ปน เทวปุตฺเต นิสฺสกฺกํ, ตสฺมา อิโต วา ปนาติ มม วา ปน สนฺติกา สุตฺวาติ อยเมตฺถ อตฺโถฯ

[251] จาตุมฺมหาภูติกสฺสาติ จตุมหาภูตมยสฺสฯ กายสฺเสตํ อธิวจนนฺติ สรีรสฺส นามํฯ ยเถว หิ พาหิรโก วมฺมิโก, วมตีติ วนฺตโกติ วนฺตุสฺสโยติ วนฺตสิเนหสมฺพนฺโธติ จตูหิ การเณหิ วมฺมิโกติ วุจฺจติฯ โส หิ อหิมงฺคุสอุนฺทูรฆรโคฬิกาทโย นานปฺปกาเร ปาณเก วมตีติ วมฺมิโกฯ อุปจิกาหิ วนฺตโกติ วมฺมิโกฯ อุปจิกาหิ วมิตฺวา มุขตุณฺฑเกน อุกฺขิตฺตปํสุจุณฺเณน กฏิปฺปมาเณนปิ โปริสปฺปมาเณนปิ อุสฺสิโตติ วมฺมิโกฯ อุปจิกาหิ วนฺตเขฬสิเนเหน อาพทฺธตาย สตฺตสตฺตาหํ เทเว วสฺสนฺเตปิ น วิปฺปกิริยติ, นิทาเฆปิ ตโต ปํสุมุฏฺฐิํ คเหตฺวา ตสฺมิํ มุฏฺฐินา ปีฬิยมาเน สิเนโห นิกฺขมติ, เอวํ วนฺตสิเนเหน สมฺพทฺโธติ วมฺมิโกฯ

เอวมยํ กาโยปิ, ‘‘อกฺขิมฺหา อกฺขิคูถโก’’ติอาทินา นเยน นานปฺปการกํ อสุจิกลิมลํ วมตีติ วมฺมิโกฯ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธขีณาสวา อิมสฺมิํ อตฺตภาเว นิกนฺติปริยาทาเนน อตฺตภาวํ ฉฑฺเฑตฺวา คตาติ อริเยหิ วนฺตโกติปิ วมฺมิโกฯ เยหิ จายํ ตีหิ อฏฺฐิสเตหิ อุสฺสิโต นฺหารุสมฺพทฺโธ มํสาวเลปโน อลฺลจมฺมปริโยนทฺโธ ฉวิรญฺชิโต สตฺเต วญฺเจติ, ตํ สพฺพํ อริเยหิ วนฺตเมวาติ วนฺตุสฺสโยติปิ วมฺมิโกฯ ‘‘ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ, จิตฺตมสฺส วิธาวตี’’ติ (สํ. นิ. 1.55) เอวํ ตณฺหาย ชนิตตฺตา อริเยหิ วนฺเตเนว ตณฺหาสิเนเหน สมฺพทฺโธ อยนฺติ วนฺตสิเนเหน สมฺพทฺโธติปิ วมฺมิโกฯ ยถา จ วมฺมิกสฺส อนฺโต นานปฺปการา ปาณกา ตตฺเถว ชายนฺติ, อุจฺจารปสฺสาวํ กโรนฺติ, คิลานา สยนฺติ, มตา ปตนฺติฯ อิติ โส เตสํ สูติฆรํ วจฺจกุฏิ คิลานสาลา สุสานญฺจ โหติฯ เอวํ ขตฺติยมหาสาลาทีนมฺปิ กาโย อยํ โคปิตรกฺขิโต มณฺฑิตปฺปสาธิโต มหานุภาวานํ กาโยติ อจินฺเตตฺวา ฉวินิสฺสิตา ปาณา จมฺมนิสฺสิตา ปาณา มํสนิสฺสิตา ปาณา นฺหารุนิสฺสิตา ปาณา อฏฺฐินิสฺสิตา ปาณา อฏฺฐิมิญฺชนิสฺสิตา ปาณาติ เอวํ กุลคณนาย อสีติมตฺตานิ กิมิกุลสหสฺสานิ อนฺโตกายสฺมิํเยว ชายนฺติ, อุจฺจารปสฺสาวํ กโรนฺติ, เคลญฺเญน อาตุริตานิ สยนฺติ, มตานิ ปตนฺติ, อิติ อยมฺปิ เตสํ ปาณานํ สูติฆรํ วจฺจกุฏิ คิลานสาลา สุสานญฺจ โหตีติ ‘‘วมฺมิโก’’ ตฺเวว สงฺขํ คโตฯ เตนาห ภควา – ‘‘วมฺมิโกติ โข, ภิกฺขุ, อิมสฺส จาตุมหาภูติกสฺส กายสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติฯ

มาตาเปตฺติกสมฺภวสฺสาติ มาติโต จ ปิติโต จ นิพฺพตฺเตน มาตาเปตฺติเกน สุกฺกโสณิเตน สมฺภูตสฺสฯ โอทนกุมฺมาสูปจยสฺสาติ โอทเนน เจว กุมฺมาเสน จ อุปจิตสฺส วฑฺฒิตสฺสฯ อนิจฺจุจฺฉาทนปริมทฺทนเภทนวิทฺธํสนธมฺมสฺสาติ เอตฺถ อยํ กาโย หุตฺวา อภาวฏฺเฐน อนิจฺจธมฺโมฯ ทุคฺคนฺธวิฆาตตฺถาย ตนุวิเลปเนน อุจฺฉาทนธมฺโมฯ องฺคปจฺจงฺคาพาธวิโนทนตฺถาย ขุทฺทกสมฺพาหเนน ปริมทฺทนธมฺโมฯ ทหรกาเล วา อูรูสุ สยาเปตฺวา คพฺภวาเสน ทุสฺสณฺฐิตานํ เตสํ เตสํ องฺคานํ สณฺฐานสมฺปาทนตฺถํ อญฺฉนปีฬนาทิวเสน ปริมทฺทนธมฺโมฯ เอวํ ปริหรโตปิ จ เภทนวิทฺธํสนธมฺโม ภิชฺชติ เจว วิกิรติ จ, เอวํ สภาโวติ อตฺโถฯ

ตตฺถ มาตาเปตฺติกสมฺภวโอทนกุมฺมาสูปจยอุจฺฉาทนปริมทฺทนปเทหิ สมุทโย กถิโต, อนิจฺจเภทวิทฺธํสนปเทหิ อตฺถงฺคโมฯ เอวํ สตฺตหิปิ ปเทหิ จาตุมหาภูติกสฺส กายสฺส อุจฺจาวจภาโว วฑฺฒิปริหานิ สมุทยตฺถงฺคโม กถิโตติ เวทิตพฺโพฯ

ทิวา กมฺมนฺเตติ ทิวา กตฺตพฺพกมฺมนฺเตฯ ธูมายนาติ เอตฺถ อยํ ธูมสทฺโท โกเธ ตณฺหาย วิตกฺเก ปญฺจสุ กามคุเณสุ ธมฺมเทสนาย ปกติธูเมติ อิเมสุ อตฺเถสุ วตฺตติฯ ‘‘โกโธ ธูโม ภสฺมนิโมสวชฺช’’นฺติ (สํ. นิ. 1.165) เอตฺถ หิ โกเธ วตฺตติฯ ‘‘อิจฺฉาธูมายิตา สตฺตา’’ติ เอตฺถ ตณฺหายฯ ‘‘เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ภควโต อวิทูเร ธูมายนฺโต นิสินฺโน โหตี’’ติ เอตฺถ วิตกฺเกฯ

‘‘ปงฺโก จ กามา ปลิโป จ กามา,

ภยญฺจ เมตํ ติมูลํ ปวุตฺตํ;

รโช จ ธูโม จ มยา ปกาสิตา;

หิตฺวา ตุวํ ปพฺพช พฺรหฺมทตฺตา’’ติฯ (ชา. 1.6.14) –

เอตฺถ ปญฺจกามคุเณสุฯ ‘‘ธูมํ กตฺตา โหตี’’ติ (ม. นิ. 1.349) เอตฺถ ธมฺมเทสนายฯ ‘‘ธโช รถสฺส ปญฺญาณํ, ธูโม ปญฺญาณมคฺคิโน’’ติ (สํ. นิ. 1.72) เอตฺถ ปกติธูเมฯ อิธ ปนายํ วิตกฺเก อธิปฺเปโตฯ เตนาห ‘‘อยํ รตฺติํ ธูมายนา’’ติฯ

ตถาคตสฺเสตํ อธิวจนนฺติ ตถาคโต หิ สตฺตนฺนํ ธมฺมานํ พาหิตตฺตา พฺราหฺมโณ นามฯ ยถาห – ‘‘สตฺตนฺนํ โข, ภิกฺขุ, ธมฺมานํ พาหิตตฺตา พฺราหฺมโณฯ กตเมสํ สตฺตนฺนํ? ราโค พาหิโต โหติ, โทโส… โมโห… มาโน… สกฺกายทิฏฺฐิ… วิจิกิจฺฉา… สีลพฺพตปรามาโส พาหิโต โหติฯ อิเมสํ ภิกฺขุ สตฺตนฺนํ ธมฺมานํ พาหิตตฺตา พฺราหฺมโณ’’ติ (จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส 28)ฯ สุเมโธติ สุนฺทรปญฺโญฯ เสกฺขสฺสาติ เอตฺถ สิกฺขตีติ เสกฺโขฯ ยถาห – ‘‘สิกฺขตีติ โข, ภิกฺขุ, ตสฺมา เสกฺโขติ วุจฺจติฯ กิญฺจ สิกฺขติ? อธิสีลมฺปิ สิกฺขติ, อธิจิตฺตมฺปิ สิกฺขติ, อธิปญฺญมฺปิ สิกฺขตี’’ติ (อ. นิ. 3.86)ฯ

ปญฺญาย อธิวจนนฺติ โลกิยโลกุตฺตราย ปญฺญาย เอตํ อธิวจนํ, น อาวุธสตฺถสฺสฯ วีริยารมฺภสฺสาติ กายิกเจตสิกวีริยสฺสฯ ตํ ปญฺญาคติกเมว โหติฯ โลกิยาย ปญฺญาย โลกิยํ, โลกุตฺตราย ปญฺญาย โลกุตฺตรํฯ เอตฺถ ปนายํ อตฺถทีปนา –

เอโก กิร ชานปโท พฺราหฺมโณ ปาโตว มาณวเกหิ สทฺธิํ คามโต นิกฺขมฺม ทิวสํ อรญฺเญ มนฺเต วาเจตฺวา สายํ คามํ อาคจฺฉติฯ อนฺตรามคฺเค จ เอโก วมฺมิโก อตฺถิฯ โส รตฺติํ ธูมายติ, ทิวา ปชฺชลติฯ พฺราหฺมโณ อนฺเตวาสิํ สุเมธํ มาณวํ อาห – ‘‘ตาต, อยํ วมฺมิโก รตฺติํ ธูมายติ, ทิวา ปชฺชลติ, วิการมสฺส ปสฺสิสฺสาม, ภินฺทิตฺวา นํ จตฺตาโร โกฏฺฐาเส กตฺวา ขิปาหี’’ติฯ โส สาธูติ กุทาลํ คเหตฺวา สเมหิ ปาเทหิ ปถวิยํ ปติฏฺฐาย ตถา อกาสิฯ ตตฺร อาจริยพฺราหฺมโณ วิย ภควาฯ สุเมธมาณวโก วิย เสกฺโข ภิกฺขุฯ วมฺมิโก วิย กาโยฯ ‘‘ตาต, อยํ วมฺมิโก รตฺติํ ธูมายติ, ทิวา ปชฺชลติ, วิการมสฺส ปสฺสิสฺสาม, ภินฺทิตฺวา นํ จตฺตาโร โกฏฺฐาเส กตฺวา ขิปาหี’’ติ พฺราหฺมเณน วุตฺตกาโล วิย, ‘‘ภิกฺขุ จาตุมหาภูติกํ กายํ จตฺตาโร โกฏฺฐาเส กตฺวา ปริคฺคณฺหาหี’’ติ ภควตา วุตฺตกาโลฯ ตสฺส สาธูติ กุทาลํ คเหตฺวา ตถากรณํ วิย เสกฺขสฺส ภิกฺขุโน, ‘‘โย วีสติยา โกฏฺฐาเสสุ ถทฺธภาโว, อยํ ปถวีธาตุฯ โย ทฺวาทสสุ โกฏฺฐาเสสุ อาพนฺธนภาโว, อยํ อาโปธาตุฯ โย จตูสุ โกฏฺฐาเสสุ ปริปาจนภาโว, อยํ เตโชธาตุฯ โย ฉสุ โกฏฺฐาเสสุ วิตฺถมฺภนภาโว, อยํ วาโยธาตู’’ติ เอวํ จตุธาตุววตฺถานวเสน กายปริคฺคโห เวทิตพฺโพฯ

ลงฺคีติ โข, ภิกฺขูติ กสฺมา ภควา อวิชฺชํ ลงฺคีติ กตฺวา ทสฺเสสีติ? ยถา หิ นครสฺส ทฺวารํ ปิธาย ปลิเฆ โยชิเต มหาชนสฺส คมนํ ปจฺฉิชฺชติ, เย นครสฺส อนฺโต, เต อนฺโตเยว โหนฺติฯ เย พหิ, เต พหิเยวฯ เอวเมว ยสฺส ญาณมุเข อวิชฺชาลงฺคี ปตติ, ตสฺส นิพฺพานสมฺปาปกํ ญาณคมนํ ปจฺฉิชฺชติ, ตสฺมา อวิชฺชํ ลงฺคีติ กตฺวา ทสฺเสสิฯ ปชห อวิชฺชนฺติ เอตฺถ กมฺมฏฺฐานอุคฺคหปริปุจฺฉาวเสน อวิชฺชาปหานํ กถิตํฯ

อุทฺธุมายิกาติ โข, ภิกฺขูติ เอตฺถ อุทฺธุมายิกมณฺฑูโก นาม โน มหนฺโต, นขปิฏฺฐิปฺปมาโณ โหติ, ปุราณปณฺณนฺตเร วา คจฺฉนฺตเร วา วลฺลิอนฺตเร วา วสติฯ โส ทณฺฑโกฏิยา วา วลฺลิโกฏิยา วา ปํสุจุณฺณเกน วา ฆฏฺฏิโต อายมิตฺวา มหนฺโต ปริมณฺฑโล เพลุวปกฺกปฺปมาโณ หุตฺวา จตฺตาโร ปาเท อากาสคเต กตฺวา ปจฺฉินฺนคมโน หุตฺวา อมิตฺตวสํ ยาติ, กากกุลลาทิภตฺตเมว โหติฯ เอวเมว อยํ โกโธ ปฐมํ อุปฺปชฺชนฺโต จิตฺตาวิลมตฺตโกว โหติฯ ตสฺมิํ ขเณ อนิคฺคหิโต วฑฺฒิตฺวา มุขวิกุลนํ ปาเปติฯ ตทา อนิคฺคหิโต หนุสญฺโจปนํ ปาเปติฯ ตทา อนิคฺคหิโต ผรุสวาจานิจฺฉารณํ ปาเปติฯ ตทา อนิคฺคหิโต ทิสาวิโลกนํ ปาเปติฯ ตทา อนิคฺคหิโต อากฑฺฒนปริกฑฺฒนํ ปาเปติฯ ตทา อนิคฺคหิโต ปาณินา เลฑฺฑุทณฺฑสตฺถปรามสนํ ปาเปติฯ ตทา อนิคฺคหิโต ทณฺฑสตฺถาภินิปาตํ ปาเปติ ฯ ตทา อนิคฺคหิโต ปรฆาตนมฺปิ อตฺตฆาตนมฺปิ ปาเปติฯ วุตฺตมฺปิ เหตํ – ‘‘ยโต อยํ โกโธ ปรํ ฆาเตตฺวา อตฺตานํ ฆาเตติ, เอตฺตาวตายํ โกโธ ปรมุสฺสทคโต โหติ ปรมเวปุลฺลปฺปตฺโต’’ติฯ ตตฺถ ยถา อุทฺธุมายิกาย จตูสุ ปาเทสุ อากาสคเตสุ คมนํ ปจฺฉิชฺชติ, อุทฺธุมายิกา อมิตฺตวสํ คนฺตฺวา กากาทิภตฺตํ โหติ, เอวเมว โกธสมงฺคีปุคฺคโล กมฺมฏฺฐานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ, อมิตฺตวสํ ยาติ, สพฺเพสํ มารานํ ยถากามกรณีโย โหติฯ เตนาห ภควา – ‘‘อุทฺธุมายิกาติ โข, ภิกฺขุ, โกธูปายาสสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติฯ ตตฺถ พลวปฺปตฺโต โกโธว โกธูปายาโสฯ ปชห โกธูปายาสนฺติ เอตฺถ ปฏิสงฺขานปฺปหานํ กถิตํฯ

ทฺวิธาปโถติ เอตฺถ, ยถา ปุริโส สธโน สโภโค กนฺตารทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน ทฺเวธาปถํ ปตฺวา, ‘‘อิมินา นุ โข คนฺตพฺพํ, อิมินา คนฺตพฺพ’’นฺติ นิจฺเฉตุํ อสกฺโกนฺโต ตตฺเถว ติฏฺฐติ, อถ นํ โจรา อุฏฺฐหิตฺวา อนยพฺยสนํ ปาเปนฺติ, เอวเมว โข มูลกมฺมฏฺฐานํ คเหตฺวา นิสินฺโน ภิกฺขุ พุทฺธาทีสุ กงฺขาย อุปฺปนฺนาย กมฺมฏฺฐานํ วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ, อถ นํ กิเลสมาราทโย สพฺเพ มารา อนยพฺยสนํ ปาเปนฺติ, อิติ วิจิกิจฺฉา ทฺเวธาปถสมา โหติฯ

เตนาห ภควา – ‘‘ทฺวิธาปโถติ โข, ภิกฺขุ, วิจิกิจฺฉาเยตํ อธิวจน’’นฺติฯ ปชห วิจิกิจฺฉนฺติ เอตฺถ กมฺมฏฺฐานอุคฺคหปริปุจฺฉาวเสน วิจิกิจฺฉาปหานํ กถิตํฯ

จงฺควารนฺติ เอตฺถ, ยถา รชเกหิ ขารปริสฺสาวนมฺหิ อุทเก ปกฺขิตฺเต เอโก อุทกฆโฏ ทฺเวปิ ทสปิ วีสติปิ ฆฏสตมฺปิ ปคฺฆรติเยว, ปสฏมตฺตมฺปิ อุทกํ น ติฏฺฐติ, เอวเมว นีวรณสมงฺคิโน ปุคฺคลสฺส อพฺภนฺตเร กุสลธมฺโม น ติฏฺฐติฯ เตนาห ภควา – ‘‘จงฺควารนฺติ โข, ภิกฺขุ, ปญฺจนฺเนตํ นีวรณานํ อธิวจน’’นฺติฯ ปชห ปญฺจนีวรเณติ เอตฺถ วิกฺขมฺภนตทงฺควเสน นีวรณปฺปหานํ กถิตํฯ

กุมฺโมติ เอตฺถ, ยถา กจฺฉปสฺส จตฺตาโร ปาทา สีสนฺติ ปญฺเจว องฺคานิ โหนฺติ, เอวเมว สพฺเพปิ สงฺขตา ธมฺมา คยฺหมานา ปญฺเจว ขนฺธา ภวนฺติฯ เตนาห ภควา – ‘‘กุมฺโมติ โข, ภิกฺขุ, ปญฺจนฺเนตํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อธิวจน’’นฺติฯ ปชห ปญฺจุปาทานกฺขนฺเธติ เอตฺถ ปญฺจสุ ขนฺเธสุ ฉนฺทราคปฺปหานํ กถิตํฯ

อสิสูนาติ เอตฺถ, ยถา สูนาย อุปริ มํสํ ฐเปตฺวา อสินา โกฏฺเฏนฺติ, เอวมิเม สตฺตา วตฺถุกามตฺถาย กิเลสกาเมหิ ฆาตยมานา วตฺถุกามานํ อุปริ กตฺวา กิเลสกาเมหิ กนฺติตา โกฏฺฏิตา จ โหนฺติฯ เตนาห ภควา – ‘‘อสิสูนาติ โข, ภิกฺขุ, ปญฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจน’’นฺติฯ ปชห ปญฺจ กามคุเณติ เอตฺถ ปญฺจสุ กามคุเณสุ ฉนฺทราคปฺปหานํ กถิตํฯ

มํสเปสีติ โข, ภิกฺขูติ เอตฺถ อยํ มํสเปสิ นาม พหุชนปตฺถิตา ขตฺติยาทโย มนุสฺสาปิ นํ ปตฺเถนฺติ กากาทโย ติรจฺฉานาปิฯ อิเม หิ สตฺตา อวิชฺชาย สมฺมตฺตา นนฺทิราคํ อุปคมฺม วฏฺฏํ วฑฺเฒนฺติฯ ยถา วา มํสเปสิ ฐปิตฐปิตฏฺฐาเน ลคฺคติ, เอวมิเม สตฺตา นนฺทิราคพทฺธา วฏฺเฏ ลคฺคนฺติ, ทุกฺขํ ปตฺวาปิ น อุกฺกณฺฐนฺติ , อิติ นนฺทิราโค มํสเปสิสทิโส โหติฯ เตนาห ภควา – ‘‘มํสเปสีติ โข, ภิกฺขุ, นนฺทิราคสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติฯ ปชห นนฺทีราคนฺติ เอตฺถ จตุตฺถมคฺเคน นนฺทีราคปฺปหานํ กถิตํฯ

นาโคติ โข, ภิกฺขุ, ขีณาสวสฺเสตํ ภิกฺขุโน อธิวจนนฺติ เอตฺถ เยนตฺเถน ขีณาสโว นาโคติ วุจฺจติ, โส อนงฺคณสุตฺเต (ม. นิ. อฏฺฐ. 1.63) ปกาสิโต เอวฯ

นโม กโรหิ นาคสฺสาติ ขีณาสวสฺส พุทฺธนาคสฺส, ‘‘พุทฺโธ โส ภควา โพธาย ธมฺมํ เทเสติ, ทนฺโต โส ภควา ทมถาย ธมฺมํ เทเสติ, สนฺโต โส ภควา สมถาย ธมฺมํ เทเสติ, ติณฺโณ โส ภควา ตรณาย ธมฺมํ เทเสติ, ปรินิพฺพุโต โส ภควา ปรินิพฺพานาย ธมฺมํ เทเสตี’’ติ (ม. นิ. 1.361) เอวํ นมกฺการํ กโรหีติ อยเมตฺถ อตฺโถฯ อิติ อิทํ สุตฺตํ เถรสฺส กมฺมฏฺฐานํ อโหสิฯ เถโรปิ อิทเมว สุตฺตํ กมฺมฏฺฐานํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโตฯ อยเมตสฺส อตฺโถติ อยํ เอตสฺส ปญฺหสฺส อตฺโถฯ อิติ ภควา รตนราสิมฺหิ มณิกูฏํ คณฺหนฺโต วิย ยถานุสนฺธินาว เทสนํ นิฏฺฐเปสีติฯ

ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺฐกถาย

วมฺมิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

4. รถวินีตสุตฺตวณฺณนา

[252] เอวํ เม สุตนฺติ รถวินีตสุตฺตํฯ ตตฺถ ราชคเหติ เอวํนามเก นคเร, ตญฺหิ มนฺธาตุมหาโควินฺทาทีหิ ปริคฺคหิตตฺตา ราชคหนฺติ วุจฺจติฯ อญฺเญเปตฺถ ปกาเร วณฺณยนฺติฯ กิํ เตหิ? นามเมตํ ตสฺส นครสฺสฯ ตํ ปเนตํ พุทฺธกาเล จ จกฺกวตฺติกาเล จ นครํ โหติ, เสสกาเล สุญฺญํ โหติ ยกฺขปริคฺคหิตํ, เตสํ วสนฺตวนํ หุตฺวา ติฏฺฐติฯ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปติ เวฬุวนนฺติ ตสฺส อุยฺยานสฺส นามํ, ตํ กิร เวฬูหิ ปริกฺขิตฺตํ อโหสิ อฏฺฐารสหตฺเถน จ ปากาเรน, โคปุรฏฺฏาลกยุตฺตํ นีโลภาสํ มโนรมํ, เตน เวฬุวนนฺติ วุจฺจติฯ กลนฺทกานญฺเจตฺถ นิวาปํ อทํสุ, เตน กลนฺทกนิวาโปติ วุจฺจติฯ

ปุพฺเพ กิร อญฺญตโร ราชา ตตฺถ อุยฺยานกีฬนตฺถํ อาคโต สุรามเทน มตฺโต ทิวาเสยฺยํ อุปคโต สุปิฯ ปริชโนปิสฺส, ‘‘สุตฺโต ราชา’’ติ ปุปฺผผลาทีหิ ปโลภิยมาโน อิโต จิโต จ ปกฺกามิ, อถ สุราคนฺเธน อญฺญตรสฺมา สุสิรรุกฺขา กณฺหสปฺโป นิกฺขมิตฺวา รญฺญาภิมุโข อาคจฺฉติฯ ตํ ทิสฺวา รุกฺขเทวตา, ‘‘รญฺโญ ชีวิตํ ทมฺมี’’ติ กาฬกเวเสน อาคนฺตฺวา กณฺณมูเล สทฺทมกาสิฯ