เมนู

6. ปาสาทิกสุตฺตวณฺณนา

นิคณฺฐนาฏปุตฺตกาลงฺกิริยวณฺณนา

[164] เอวํ เม สุตนฺติ ปาสาทิกสุตฺตํฯ ตตฺรายมนุตฺตานปทวณฺณนา – เวธญฺญา นาม สกฺยาติ ธนุมฺหิ กตสิกฺขา เวธญฺญนามกา เอเก สกฺยาฯ เตสํ อมฺพวเน ปาสาเทติ เตสํ อมฺพวเน สิปฺปํ อุคฺคณฺหตฺถาย กโต ทีฆปาสาโท อตฺถิ, ตตฺถ วิหรติฯ อธุนา กาลงฺกโตติ สมฺปติ กาลงฺกโตฯ ทฺเวธิกชาตาติ ทฺเวชฺฌชาตา, ทฺเวภาคา ชาตาฯ ภณฺฑนาทีสุ ภณฺฑนํ ปุพฺพภาคกลโห, ตํ ทณฺฑาทานาทิวเสน ปณฺณตฺติวีติกฺกมวเสน จ วฑฺฒิตํ กลโหฯ ‘‘น ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานาสี’’ติอาทินา นเยน วิรุทฺธวจนํ วิวาโทฯ วิตุทนฺตาติ วิชฺฌนฺตาฯ สหิตํ เมติ มม วจนํ อตฺถสญฺหิตํฯ อธิจิณฺณํ เต วิปราวตฺตนฺติ ยํ ตว อธิจิณฺณํ จิรกาลาเสวนวเสน ปคุณํ, ตํ มม วาทํ อาคมฺม นิวตฺตํฯ อาโรปิโต เต วาโทติ ตุยฺหํ อุปริ มยา โทโส อาโรปิโตฯ จร วาทปฺปโมกฺขายาติ ภตฺตปุฏํ อาทาย ตํ ตํ อุปสงฺกมิตฺวา วาทปฺปโมกฺขตฺถาย อุตฺตริ ปริเยสมาโน วิจรฯ นิพฺเพเฐหิ วาติ อถ วา มยา อาโรปิตโทสโต อตฺตานํ โมเจหิฯ สเจ ปโหสีติ สเจ สกฺโกสิฯ วโธเยวาติ มรณเมวฯ นาฏปุตฺติเยสูติ นาฏปุตฺตสฺส อนฺเตวาสิเกสุฯ นิพฺพินฺนรูปาติ อุกฺกณฺฐิตสภาวา อภิวาทนาทีนิปิ น กโรนฺติฯ วิรตฺตรูปาติ วิคตเปมาฯ ปฏิวานรูปาติ เตสํ สกฺกจฺจกิริยโต นิวตฺตนสภาวาฯ ยถา ตนฺติ ยถา ทุรกฺขาตาทิสภาเว ธมฺมวินเย นิพฺพินฺนวิรตฺตปฺปฏิวานรูเปหิ ภวิตพฺพํ, ตเถว ชาตาติ อตฺโถฯ ทุรกฺขาเตติ ทุกฺกถิเตฯ ทุปฺปเวทิเตติ ทุวิญฺญาปิเตฯ อนุปสมสํวตฺตนิเกติ ราคาทีนํ อุปสมํ กาตุํ อสมตฺเถฯ ภินฺนถูเปติ ภินฺทปฺปติฏฺเฐฯ เอตฺถ หิ นาฏปุตฺโตว เนสํ ปติฏฺฐฏฺเฐน ถูโปฯ โส ปน ภินฺโน มโตฯ เตน วุตฺตํ ‘‘ภินฺนถูเป’’ติฯ อปฺปฏิสรเณติ ตสฺเสว อภาเวน ปฏิสรณวิรหิเตฯ

นนุ จายํ นาฏปุตฺโต นาฬนฺทวาสิโก, โส กสฺมา ปาวายํ กาลงฺกโตติ? โส กิร อุปาลินา คหปตินา ปฏิวิทฺธสจฺเจน ทสหิ คาถาหิ ภาสิเต พุทฺธคุเณ สุตฺวา อุณฺหํ โลหิตํ ฉฑฺเฑสิฯ อถ นํ อผาสุกํ คเหตฺวา ปาวํ อคมํสุฯ โส ตตฺถ กาลมกาสิฯ กาลํ กุรุมาโน จ จินฺเตสิ – ‘‘มม ลทฺธิ อนิยฺยานิกา สารวิรหิตา, มยํ ตาว นฏฺฐา, อวเสสชโนปิ มา อปายปูรโก อโหสิ, สเจ ปนาหํ ‘มม สาสนํ อนิยฺยานิก’นฺติ วกฺขามิ, น สทฺทหิสฺสนฺติ, ยํนูนาหํ ทฺเวปิ ชเน น เอกนีหาเรน อุคฺคณฺหาเปยฺยํ, เต มมจฺจเยน อญฺญมญฺญํ วิวทิสฺสนฺติ, สตฺถา ตํ วิวาทํ ปฏิจฺจ เอกํ ธมฺมกถํ กเถสฺสติ, ตโต เต สาสนสฺส มหนฺตภาวํ ชานิสฺสนฺตี’’ติฯ

อถ นํ เอโก อนฺเตวาสิโก อุปสงฺกมิตฺวา อาห – ‘‘ภนฺเต ตุมฺเห ทุพฺพลา, มยฺหมฺปิ อิมสฺมิํ ธมฺเม สารํ อาจิกฺขถ, อาจริยปฺปมาณ’’นฺติฯ ‘‘อาวุโส, ตฺวํ มมจฺจเยน สสฺสตนฺติ คณฺเหยฺยาสี’’ติฯ อปโรปิ อุปสงฺกมิ, ตํ อุจฺเฉทํ คณฺหาเปสิฯ เอวํ ทฺเวปิ ชเน เอกลทฺธิเก อกตฺวา พหู นานานีหาเรน อุคฺคณฺหาเปตฺวา กาลมกาสิฯ เต ตสฺส สรีรกิจฺจํ กตฺวา สนฺนิปติตฺวา อญฺญมญฺญํ ปุจฺฉิํสุ – ‘‘กสฺสาวุโส, อาจริโย สารํ อาจิกฺขี’’ติ? เอโก อุฏฺฐหิตฺวา มยฺหนฺติ อาหฯ กิํ อาจิกฺขีติ? สสฺสตนฺติฯ อปโร ตํ ปฏิพาหิตฺวา ‘‘มยฺหํ สารํ อาจิกฺขี’’ติ อาหฯ เอวํ สพฺเพ ‘‘มยฺหํ สารํ อาจิกฺขิ, อหํ เชฏฺฐโก’’ติ อญฺญมญฺญํ วิวาทํ วฑฺเฒตฺวา อกฺโกเส เจว ปริภาเส จ หตฺถปาทปฺปหาราทีนิ จ ปวตฺเตตฺวา เอกมคฺเคน ทฺเว อคจฺฉนฺตา นานาทิสาสุ ปกฺกมิํสุฯ

[165] อถ โข จุนฺโท สมณุทฺเทโสติ อยํ เถโร ธมฺมเสนาปติสฺส กนิฏฺฐภาติโกฯ ตํ ภิกฺขู อนุปสมฺปนฺนกาเล ‘‘จุนฺโท สมณุทฺเทโส’’ติ สมุทาจริตฺวา เถรกาเลปิ ตเถว สมุทาจริํสุฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘จุนฺโท สมณุทฺเทโส’’ติฯ

‘‘ปาวายํ วสฺสํวุฏฺโฐ เยน สามคาโม, เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมี’’ติ กสฺมา อุปสงฺกมิ? นาฏปุตฺเต กิร กาลงฺกเต ชมฺพุทีเป มนุสฺสา ตตฺถ ตตฺถ กถํ ปวตฺตยิํสุ ‘‘นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต เอโก สตฺถาติ ปญฺญายิตฺถ, ตสฺส กาลงฺกิริยาย สาวกานํ เอวรูโป วิวาโท ชาโตฯ สมโณ ปน โคตโม ชมฺพุทีเป จนฺโท วิย สูริโย วิย จ ปากโฏ, สาวกาปิสฺส ปากฏาเยวฯ

กีทิโส นุ โข สมเณ โคตเม ปรินิพฺพุเต สาวกานํ วิวาโท ภวิสฺสตี’’ติ ฯ เถโร ตํ กถํ สุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อิมํ กถํ คเหตฺวา ทสพลสฺส อาโรเจสฺสามิ, สตฺถา เอตํ อฏฺฐุปฺปตฺติํ กตฺวา เอกํ เทสนํ กเถสฺสตี’’ติฯ โส นิกฺขมิตฺวา เยน สามคาโม, เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิฯ

สามคาโมติ สามากานํ อุสฺสนฺนตฺตา ตสฺส คามสฺส นามํฯ เยนายสฺมา อานนฺโทติ อุชุเมว ภควโต สนฺติกํ อคนฺตฺวา เยนสฺส อุปชฺฌาโย อายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิฯ

พุทฺธกาเล กิร สาริปุตฺตตฺเถโร จ อานนฺทตฺเถโร จ อญฺญมญฺญํ มมายิํสุฯ สาริปุตฺตตฺเถโร ‘‘มยา กาตพฺพํ สตฺถุ อุปฏฺฐานํ กโรตี’’ติ อานนฺทตฺเถรํ มมายิฯ อานนฺทตฺเถโร ‘‘ภควโต สาวกานํ อคฺโค’’ติ สาริปุตฺตตฺเถรํ มมายิฯ กุลทารเก จ ปพฺพาเชตฺวา สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สนฺติเก อุปชฺฌํ คณฺหาเปสิฯ สาริปุตฺตตฺเถโรปิ ตเถว อกาสิฯ เอวํ เอกเมเกน อตฺตโน ปตฺตจีวรํ ทตฺวา ปพฺพาเชตฺวา อุปชฺฌํ คณฺหาปิตานิ ปญฺจ ปญฺจ ภิกฺขุสตานิ อเหสุํฯ อายสฺมา อานนฺโท ปณีตานิ จีวราทีนิปิ ลภิตฺวา เถรสฺส อทาสิฯ

ธมฺมรตนปูชา

เอโก กิร พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ – ‘‘พุทฺธรตนสฺส จ สงฺฆรตนสฺส จ ปูชา ปญฺญายติ, กถํ นุ โข ธมฺมรตนํ ปูชิตํ โหตี’’ติ? โส ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปุจฺฉิฯ ภควา อาห – ‘‘สเจปิ พฺราหฺมณ ธมฺมรตนํ ปูเชตุกาโม, เอกํ พหุสฺสุตํ ปูเชหี’’ติฯ พหุสฺสุตํ, ภนฺเต, อาจิกฺขถาติฯ ภิกฺขุสงฺฆํ ปุจฺฉาติฯ โส ภิกฺขุสงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘พหุสฺสุตํ, ภนฺเต, อาจิกฺขถา’’ติ อาหฯ อานนฺทตฺเถโร พฺราหฺมณาติฯ พฺราหฺมโณ เถรํ สหสฺสคฺฆนิเกน ติจีวเรน ปูเชสิฯ เถโร ตํ คเหตฺวา ภควโต สนฺติกํ อคมาสิฯ ภควา ‘‘กุโต, อานนฺท, ลทฺธ’’นฺติ อาห? เอเกน, ภนฺเต, พฺราหฺมเณน ทินฺนํ, อิทํ ปนาหํ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ทาตุกาโมติฯ เทหิ, อานนฺทาติฯ จาริกํ ปกฺกนฺโต ภนฺเตติฯ อาคตกาเล เทหีติ, สิกฺขาปทํ ภนฺเต, ปญฺญตฺตนฺติฯ กทา ปน สาริปุตฺโต อาคมิสฺสตีติ? ทสาหมตฺเตน ภนฺเตติฯ ‘‘อนุชานามิ, อานนฺท, ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ นิกฺขิปิตุ’’นฺติ สิกฺขาปทํ ปญฺญาเปสิฯ