เมนู

จาริกาอนุชานนวณฺณนา

[85] ปริวิตกฺโก อุทปาทีติ กทา อุทปาทิ? สมฺโพธิโต สตฺต สํวจฺฉรานิ สตฺต มาเส สตฺต ทิวเส อติกฺกมิตฺวา อุทปาทิฯ ภควา กิร ปิตุสงฺคหํ กโรนฺโต วิหาสิฯ ราชาปิ จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ เชฏฺฐปุตฺโต นิกฺขมิตฺวา พุทฺโธ ชาโต, ทุติยปุตฺโต เม นิกฺขมิตฺวา อคฺคสาวโก ชาโต, ปุโรหิตปุตฺโต ทุติยอคฺคสาวโก, อิเม จ อวเสสา ภิกฺขู คิหิกาเลปิ มยฺหํ ปุตฺตเมว ปริวาเรตฺวา วิจริํสุฯ อิเม สพฺเพ อิทานิปิ มยฺหํเยว ภาโร, อหเมว จ เน จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺฐหิสฺสามิ, อญฺเญสํ โอกาสํ น ทสฺสามี’’ติ วิหารทฺวารโกฏฺฐกโต ปฏฺฐาย ยาว ราชเคหทฺวารา อุภยโต ขทิรปาการํ การาเปตฺวา กิลญฺเชหิ ฉาทาเปตฺวา วตฺเถหิ ปฏิจฺฉาทาเปตฺวา อุปริ จ ฉาทาเปตฺวา สุวณฺณตารกวิจิตฺตํ สโมลมฺพิตตาลกฺขนฺธมตฺตํ วิวิธปุปฺผทามวิตานํ การาเปตฺวา เหฏฺฐา ภูมิยํ จิตฺตตฺถรเณหิ สนฺถราเปตฺวา อนฺโต อุโภสุ ปสฺเสสุ มาลาวจฺฉเก ปุณฺณฆเฏ, สกลมคฺควาสตฺถาย จ คนฺธนฺตเร ปุปฺผานิ ปุปฺผนฺตเร คนฺเธ จ ฐปาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิฯ

ภควา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อนฺโตสาณิยาว ราชเคหํคนฺตฺวา ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา วิหารํ ปจฺจาคจฺฉติฯ อญฺโญ โกจิ ทฏฺฐุมฺปิ น ลภติ, กุโต ปน ภิกฺขํ วา ทาตุํ, ปูชํ วา กาตุํ, ธมฺมํ วา โสตุํฯ นาครา จินฺเตสุํ – ‘‘อชฺช สตฺถุ โลเก อุปฺปนฺนสฺส สตฺตมาสาธิกานิ สตฺตสํวจฺฉรานิ, มยญฺจ ทฏฺฐุมฺปิ น ลภาม, ปเคว ภิกฺขํ วา ทาตุํ, ปูชํ วา กาตุํ, ธมฺมํ วา โสตุํฯ ราชา – ‘มยฺหเมว พุทฺโธ, มยฺหเมว ธมฺโม, มยฺหเมว สงฺโฆ’ติ มมายิตฺวา สยเมว อุปฏฺฐหิฯ สตฺถา จ อุปฺปชฺชมาโน สเทวกสฺส โลกสฺส อตฺถาย หิตาย อุปฺปนฺโนฯ น หิ รญฺโญเยว นิรโย อุณฺโห อสฺส, อญฺเญสํ นีลุปฺปลวนสทิโสฯ ตสฺมา ราชานํ วทามฯ สเจ โน สตฺถารํ เทติ, อิจฺเจตํ กุสลํฯ โน เจ เทติ, รญฺญา สทฺธิํ ยุชฺฌิตฺวาปิ สงฺฆํ คเหตฺวา ทานาทีนิ ปุญฺญานิ กโรมฯ น สกฺกา โข ปน สุทฺธนาคเรเหว เอวํ กาตุํ, เอกํ เชฏฺฐปุริสมฺปิ คณฺหามา’’ติฯ

เต เสนาปติํ อุปสงฺกมิตฺวา ตสฺเสตมตฺถํ อาโรเจตฺวา – ‘‘สามิ, กิํ อมฺหากํ ปกฺโข โหสิ, อุทาหุ รญฺโญ’’ติ อาหํสุฯ โส – ‘‘อหํ ตุมฺหากํ ปกฺโข โหมิ, อปิ จ โข ปน ปฐมทิวโส มยฺหํ ทาตพฺโพ’’ติฯ เต สมฺปฏิจฺฉิํสุฯ โส ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา – ‘‘นาครา, เทว, ตุมฺหากํ กุปิตา’’ติ อาหฯ กิมตฺถํ ตาตาติ? สตฺถารํ กิร ตุมฺเหเยว อุปฏฺฐหถ, อมฺเห น ลภามาติฯ สเจ อิทานิปิ ลภนฺติ, น กุปฺปนฺติ, อลภนฺตา ตุมฺเหหิ สทฺธิํ ยุชฺฌิตุกามา เทวาติฯ ยุชฺฌามิ, ตาต, นาหํ ภิกฺขุสงฺฆํ เทมีติฯ

เทว ตุมฺหากํ ทาสา ตุมฺเหหิ สทฺธิํ ยุชฺฌามาติ วทนฺติ, ตุมฺเห กํ คณฺหิตฺวา ยุชฺฌิสฺสถาติ? นนุ ตฺวํ เสนาปตีติ? นาคเรหิ วินา น สมตฺโถ อหํ เทวาติฯ ตโต ราชา – ‘‘พลวนฺโต นาครา, เสนาปติปิ เตสญฺเญว ปกฺโข’’ติ ญตฺวา ‘‘อญฺญานิปิ สตฺตมาสาธิกานิ สตฺตสํวจฺฉรานิ มยฺหํ ภิกฺขุสงฺฆํ ททนฺตู’’ติ อาหฯ นาครา น สมฺปฏิจฺฉิํสุฯ ราชา – ‘‘ฉ วสฺสานิ, ปญฺจ, จตฺตาริ, ตีณิ, ทฺเว, เอกวสฺส’’นฺติ หาเปสิฯ เอวํ หาเปนฺเตปิ น สมฺปฏิจฺฉิํสุฯ อญฺเญ สตฺต ทิวเส ยาจิฯ นาครา – ‘‘อติกกฺขฬํ ทานิ รญฺญา สทฺธิํ กาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ อนุชานิํสุฯ

ราชา สตฺตมาสาธิกานํ สตฺตนฺนํ สํวจฺฉรานํ สชฺชิตํ ทานมุขํ สตฺตนฺนเมว ทิวสานํ วิสฺสชฺเชตฺวา ฉ ทิวเส เกสญฺจิ อปสฺสนฺตานํเยว ทานํ ทตฺวา สตฺตเม ทิวเส นาคเร ปกฺโกสาเปตฺวา – ‘‘สกฺขิสฺสถ, ตาต, เอวรูปํ ทานํ ทาตุ’’นฺติ อาหฯ เตปิ – ‘‘นนุ อมฺเหเยว นิสฺสาย ตํ เทวสฺส อุปฺปนฺน’’นฺติ วตฺวา – ‘‘สกฺขิสฺสามา’’ติ อาหํสุฯ ราชา ปิฏฺฐิหตฺเถน อสฺสูนิ ปุญฺฉมาโน ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา – ‘‘ภนฺเต, อหํ อฏฺฐสฏฺฐิภิกฺขุสตสหสฺสํ อญฺญสฺส วารํ อกตฺวา ยาวชีวํ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺฐหิสฺสามีติ จินฺเตสิํฯ นาครา น ทานิ เม อนุญฺญาตา, นาครา หิ ‘มยํ ทานํ ทาตุํ น ลภามา’ติ กุปฺปนฺติฯ ภควา สฺเว ปฏฺฐาย เตสํ อนุคฺคหํ กโรถา’’ติ อาหฯ

อถ ทุติยทิวเส เสนาปติ มหาทานํ สชฺเชตฺวา – ‘‘อชฺช ยถา อญฺโญ โกจิ เอกภิกฺขมฺปิ น เทติ, เอวํ รกฺขถา’’ติ สมนฺตา ปุริเส ฐเปสิฯ ตํ ทิวสํ เสฏฺฐิภริยา โรทมานา ธีตรํ อาห – ‘‘สเจ, อมฺม, ตว ปิตา ชีเวยฺย, อชฺชาหํ ปฐมํ ทสพลํ โภเชยฺย’’นฺติ ฯ สา ตํ อาห – ‘‘อมฺม, มา จินฺตยิ, อหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา พุทฺธปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ ปฐมํ อมฺหากํ ภิกฺขํ ปริภุญฺชิสฺสตี’’ติฯ ตโต สตสหสฺสคฺฆนิกาย สุวณฺณปาติยา นิรุทกปายาสสฺส ปูเรตฺวา สปฺปิมธุสกฺกราทีหิ อภิสงฺขริตฺวา อญฺญาย ปาติยา ปฏิกุชฺชิตฺวา ตํ สุมนมาลาคุเฬหิ ปริกฺขิปิตฺวา มาลาคุฬสทิสํ กตฺวา ภควโต คามํ ปวิสนเวลาย สยเมว อุกฺขิปิตฺวา ทาสิคณปริวุตา นครา นิกฺขมิฯ อนฺตรามคฺเค เสนาปติอุปฏฺฐากา – ‘‘อมฺม, มา อิโต อคมา’’ติ วทนฺติฯ มหาปุญฺญา นาม มนาปกถา โหนฺติ, น จ เตสํ ปุนปฺปุนํ ภณนฺตานํ กถา ปฏิกฺขิปิตุํ สกฺกา โหติฯ สา – ‘‘จูฬปิตา มหาปิตา มาตุลา กิสฺส ตุมฺเห คนฺตุํ น เทถา’’ติ อาหฯ เสนาปตินา – ‘‘อญฺญสฺส กสฺสจิ ขาทนียโภชนียํ ทาตุํ มา เทถา’’ติ ฐปิตมฺห อมฺมาติฯ

กิํ ปน เม หตฺเถ ขาทนียํ โภชนียํ ปสฺสถาติ? มาลาคุฬํ ปสฺสามาติ ฯ กิํ ตุมฺหากํ เสนาปติ มาลาคุฬปูชมฺปิ กาตุํ น เทตีติ? เทติ, อมฺมาติฯ เตน หิ, อเปถ, อเปถาติ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา มาลาคุฬํ คณฺหาเปถ ภควาติ อาหฯ ภควา เอกํ เสนาปติสฺสุปฏฺฐากํ โอโลเกตฺวา มาลาคุฬํ คณฺหาเปสิฯ สา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา – ‘‘ภควา, ภวาภเว นิพฺพตฺติยํ เม สติ ปริตสฺสนชีวิตํ นาม มา โหตุ, อยํ สุมนมาลา วิย นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺฐาเน ปิยาว โหมิ, นาเมน จ สุมนา เยวา’’ติ ปตฺถนํ กตฺวา สตฺถารา – ‘‘สุขินี โหหี’’ติ วุตฺตา วนฺทิตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ

ภควา เสนาปติสฺส เคหํ คนฺตฺวา ปญฺญตฺตาสเน นิสีทิฯ เสนาปติ ยาคุํ คเหตฺวา อุปคญฺฉิ, สตฺถา ปตฺตํ ปิทหิฯ นิสินฺโน, ภนฺเต, ภิกฺขุสงฺโฆติฯ อตฺถิ โน เอโก อนฺตรา ปิณฺฑปาโต ลทฺโธติฯ โส มาลํ อปเนตฺวา ปิณฺฑปาตํ อทฺทสฯ จูฬุปฏฺฐาโก อาห – ‘‘สามิ, มาลาติ มํ วตฺวา มาตุคาโม วญฺเจสี’’ติฯ ปายาโส ภควนฺตํ อาทิํ กตฺวา สพฺเพสํ ภิกฺขูนํ ปโหติฯ เสนาปติปิ อตฺตโน เทยฺยธมฺมํ อทาสิฯ สตฺถา ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา มงฺคลํ วตฺวา ปกฺกามิฯ เสนาปติ – ‘‘กา นาม สา ปิณฺฑปาตมทาสี’’ติ ปุจฺฉิฯ เสฏฺฐิธีตา, สามีติฯ สปฺปญฺญา สา อิตฺถี, เอวรูปาย ฆเร วสนฺติยา ปุริสสฺส สคฺคสมฺปตฺติ นาม น ทุลฺลภาติ ตํ อาเนตฺวา เชฏฺฐิกฏฺฐาเน ฐเปสิฯ

ปุนทิวเส นาครา ทานมทํสุ, ปุนทิวเส ราชาติ เอกนฺตริกาย ทานํ ทาตุํ อารภิํสุฯ ราชาปิ จรปุริเส ฐเปตฺวา นาคเรหิ ทินฺนทานโต อติเรกตรํ เทติ, นาคราปิ ตเถว กตฺวา รญฺญา ทินฺนทานโต อติเรกตรํฯ ราชเคเห นาฏกิตฺถิโย ทหรสามเณเร วทนฺติ – ‘‘คณฺหถ, ตาตา, น คหปติกานํ คตฺตวตฺถาทีสุ ปุญฺฉิตฺวา พาฬทารกานํ เขฬสิงฺฆาณิกาทิโธวนหตฺเถหิ กตํ , สุจิํ ปณีตํ กต’’นฺติฯ ปุนทิวเส นาคราปิ ททมานา วทนฺติ – ‘‘คณฺหถ, ตาตา, น นครคามนิคมาทีสุ สงฺกฑฺฒิตตณฺฑุลขีรทธิสปฺปิอาทีหิ, น อญฺเญสํ ชงฺฆสีสปิฏฺฐิอาทีนิ ภญฺชิตฺวา อาหราปิเตหิ กตํ, ชาติสปฺปิขีราทีหิเยว กต’’นฺติฯ เอวํ สตฺตสุ สํวจฺฉเรสุ สตฺตสุ มาเสสุ สตฺตสุ ทิวเสสุ จ อติกฺกนฺเตสุ อถ ภควโต อยํ วิตกฺโก อุทปาทิฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘สมฺโพธิโต สตฺต สํวจฺฉรานิ สตฺต มาสานิ สตฺต ทิวสานิ อติกฺกมิตฺวา อุทปาที’’ติฯ

[87] อญฺญตโร มหาพฺรหฺมาติ ธมฺมเทสนํ อายาจิตพฺรหฺมาวฯ

[89] จตุราสีติ อาวาสสหสฺสานีติ จตุราสีติ วิหารสหสฺสานิฯ เต สพฺเพปิ ทฺวาทสสหสฺสภิกฺขุคณฺหนกา มหาวิหารา อภยคิริเจติยปพฺพตจิตฺตลปพฺพตมหาวิหารสทิสาว อเหสุํฯ

[90] ขนฺตี ปรมํ ตโปติ อธิวาสนขนฺติ นาม ปรมํ ตโปฯ ติติกฺขาติ ขนฺติยา เอว เววจนํฯ ติติกฺขา สงฺขาตา อธิวาสนขนฺติ อุตฺตมํ ตโปติ อตฺโถฯ นิพฺพานํ ปรมนฺติ สพฺพากาเรน ปน นิพฺพานํ ปรมนฺติ วทนฺติ พุทฺธาฯ น หิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตีติ โย อธิวาสนขนฺติวิรหิตตฺตา ปรํ อุปฆาเตติ พาเธติ หิํสติ, โส ปพฺพชิโต นาม น โหติฯ จตุตฺถปาโท ปน ตสฺเสว เววจนํฯ ‘‘น หิ ปพฺพชิโต’’ติ เอตสฺส หิ น สมโณ โหตีติ เววจนํฯ ปรูปฆาตีติ เอตสฺส ปรํ วิเหฐยนฺโตติ เววจนํฯ อถ วา ปรูปฆาตีติ สีลูปฆาตีฯ สีลญฺหิ อุตฺตมฏฺเฐน ปรนฺติ วุจฺจติฯ โย จ สมโณ ปรํ ยํ กญฺจิ สตฺตํ วิเหฐยนฺโต ปรูปฆาตี โหติ, อตฺตโน สีลํ วินาสโก, โส ปพฺพชิโต นาม น โหตีติ อตฺโถฯ อถวา โย อธิวาสนขนฺติยา อภาวโต ปรูปฆาตี โหติ, ปรํ อนฺตมโส ฑํสมกสมฺปิ สญฺจิจฺจ ชีวิตา โวโรเปติ, โส น หิ ปพฺพชิโตฯ กิํ การณา? มลสฺส อปพฺพาชิตตฺตาฯ ‘‘ปพฺพาชยมตฺตโน มลํ, ตสฺมา ปพฺพชิโตติ วุจฺจตี’’ติ (ธ. ป. 388) อิทญฺหิ ปพฺพชิตลกฺขณํฯ โยปิ น เหว โข อุปฆาเตติ, น มาเรติ, อปิ จ ทณฺฑาทีหิ วิเหเฐติ, โส ปรํ วิเหฐยนฺโต สมโณ น โหติฯ กิํ การณา? วิเหสาย อสมิตตฺตาฯ ‘‘สมิตตฺตา หิ ปาปานํ , สมโณติ ปวุจฺจตี’’ติ (ธ. ป. 265) อิทญฺหิ สมณลกฺขณํฯ

ทุติยคาถาย สพฺพปาปสฺสาติ สพฺพากุสลสฺสฯ อกรณนฺติ อนุปฺปาทนํฯ กุสลสฺสาติ จตุภูมิกกุสลสฺสฯ อุปสมฺปทาติ ปฏิลาโภฯ สจิตฺตปริโยทปนนฺติ อตฺตโน จิตฺตโชตนํ, ตํ ปน อรหตฺเตน โหติฯ อิติ สีลสํวเรน สพฺพปาปํ ปหาย สมถวิปสฺสนาหิ กุสลํ สมฺปาเทตฺวา อรหตฺตผเลน จิตฺตํ ปริโยทาเปตพฺพนฺติ เอตํ พุทฺธานํ สาสนํ โอวาโท อนุสิฏฺฐี ติฯ

ตติยคาถาย อนูปวาโทติ วาจาย กสฺสจิ อนุปวทนํฯ อนูปฆาโตติ กาเยน อุปฆาตสฺส อกรณํฯ ปาติโมกฺเขติ ยํ ตํ ปอติโมกฺขํ, อติปโมกฺขํ, อุตฺตมสีลํ, ปาติ วา อคติวิเสเสหิ โมกฺเขติ ทุคฺคติภเยหิ, โย วา นํ ปาติ, ตํ โมกฺเขตีติ ‘‘ปาติโมกฺข’’นฺติ วุจฺจติฯ ตสฺมิํ ปาติโมกฺเข จ สํวโรฯ มตฺตญฺญุตาติ ปฏิคฺคหณปริโภควเสน ปมาณญฺญุตาฯ ปนฺตญฺจ สยนาสนนฺติ สยนาสนญฺจ สงฺฆฏฺฏนวิรหิตนฺติ อตฺโถฯ ตตฺถ ทฺวีหิเยว ปจฺจเยหิ จตุปจฺจยสนฺโตโส ทีปิโต โหตีติ เวทิตพฺโพฯ เอตํ พุทฺธาน สาสนนฺติ เอตํ ปรสฺส อนุปวทนํ อนุปฆาตนํ ปาติโมกฺขสํวโร ปฏิคฺคหณปริโภเคสุ มตฺตญฺญุตา อฏฺฐสมาปตฺติวสิภาวาย วิวิตฺตเสนาสนเสวนญฺจ พุทฺธานํ สาสนํ โอวาโท อนุสิฏฺฐีติฯ อิมา ปน สพฺพพุทฺธานํ ปาติโมกฺขุทฺเทสคาถา โหนฺตีติ เวทิตพฺพาฯ

เทวตาโรจนวณฺณนา

[91] เอตฺตาวตา จ อิมินา วิปสฺสิสฺส ภควโต อปทานานุสาเรน วิตฺถารกถเนน – ‘‘ตถาคตสฺเสเวสา, ภิกฺขเว, ธมฺมธาตุ สุปฺปฏิวิทฺธา’’ติ เอวํ วุตฺตาย ธมฺมธาตุยา สุปฺปฏิวิทฺธภาวํ ปกาเสตฺวา อิทานิ – ‘‘เทวตาปิ ตถาคตสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสุ’’นฺติ วุตฺตํ เทวตาโรจนํ ปกาเสตุํ เอกมิทาหนฺติอาทิมาหฯ

ตตฺถ สุภควเนติ เอวํนามเก วเนฯ สาลราชมูเลติ วนปฺปติเชฏฺฐกสฺส มูเลฯ กามจฺฉนฺทํ วิราเชตฺวาติ อนาคามิมคฺเคน มูลสมุคฺฆาตวเสน วิราเชตฺวาฯ ยถา จ วิปสฺสิสฺส, เอวํ เสสพุทฺธานมฺปิ สาสเน วุตฺถพฺรหฺมจริยา เทวตา อาโรจยิํสุ, ปาฬิ ปน วิปสฺสิสฺส เจว อมฺหากญฺจ ภควโต วเสน อาคตาฯ

ตตฺถ อตฺตโน สมฺปตฺติยา น หายนฺติ, น วิหายนฺตีติ อวิหาฯ น กญฺจิ สตฺตํ ตปนฺตีติ อตปฺปาฯ สุนฺทรทสฺสนา อภิรูปา ปาสาทิกาติ สุทสฺสาฯ สุฏฺฐุ ปสฺสนฺติ, สุนฺทรเมเตสํ วา ทสฺสนนฺติ สุทสฺสีฯ สพฺเพเหว จ สคุเณหิ ภวสมฺปตฺติยา จ เชฏฺฐา, นตฺเถตฺถ กนิฏฺฐาติ อกนิฏฺฐาฯ