เมนู

รตฺตาวเสสนฺติ พลวปจฺจูเส ปรินิพฺพุตตฺตา รตฺติยา อวเสสํ จุลฺลกทฺธานํฯ ธมฺมิยา กถายาติ อญฺญา ปาฏิเยกฺกา ธมฺมกถา นาม นตฺถิ, ‘‘อาวุโส สเทวเก นาม โลเก อปฺปฏิปุคฺคลสฺส สตฺถุโน อยํ มจฺจุราชา น ลชฺชติ, กิมงฺคํ ปน โลกิยมหาชนสฺส ลชฺชิสฺสตี’’ติ เอวรูปาย ปน มรณปฏิสํยุตฺตาย กถาย วีตินาเมสุํฯ เตสญฺหิ ตํ กถํ กเถนฺตานํ มุหุตฺเตเนว อรุณํ อุคฺคจฺฉิฯ

[226] อถ โขติ อรุณุคฺคํ ทิสฺวาว เถโร เถรํ เอตทโวจฯ เตเนว กรณีเยนาติ กีทิเสน นุ โข ปรินิพฺพานฏฺฐาเน มาลาคนฺธาทิสกฺกาเรน ภวิตพฺพํ, กีทิเสน ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิสชฺชฏฺฐาเนน ภวิตพฺพํ, กีทิเสน ขาทนียโภชนีเยน ภวิตพฺพนฺติ, เอวํ ยํ ภควโต ปรินิพฺพุตภาวํ สุตฺวา กตฺตพฺพํ เตเนว กรณีเยนฯ

พุทฺธสรีรปูชาวณฺณนา

[227] สพฺพญฺจ ตาฬาวจรนฺติ สพฺพํ ตูริยภณฺฑํฯ สนฺนิปาเตถาติ เภริํ จราเปตฺวา สมาหรถฯ เต ตเถว อกํสุฯ มณฺฑลมาเฬติ ทุสฺสมณฺฑลมาเฬฯ ปฏิยาเทนฺตาติ สชฺเชนฺตาฯ

ทกฺขิเณน ทกฺขิณนฺติ นครสฺส ทกฺขิณทิสาภาเคเนว ทกฺขิณทิสาภาคํฯ พาหิเรน พาหิรนฺติ อนฺโตนครํ อปฺปเวเสตฺวา พาหิเรเนว นครสฺส พาหิรปสฺสํ หริตฺวาฯ ทกฺขิณโต นครสฺสาติ อนุราธปุรสฺส ทกฺขิณทฺวารสทิเส ฐาเน ฐเปตฺวา สกฺการสมฺมานํ กตฺวา เชตวนสทิเส ฐาเน ฌาเปสฺสามาติ อตฺโถฯ

[228] อฏฺฐ มลฺลปาโมกฺขาติ มชฺฌิมวยา ถามสมฺปนฺนา อฏฺฐมลฺลราชาโนฯ สีสํ นฺหาตาติ สีสํ โธวิตฺวา นหาตาฯ อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธนฺติ เถโรว ทิพฺพจกฺขุโกติ ปากโฏ, ตสฺมา เต สนฺเตสุปิ อญฺเญสุ มหาเถเรสุ – ‘‘อยํ โน ปากฏํ กตฺวา กเถสฺสตี’’ติ เถรํ ปุจฺฉิํสุฯ กถํ ปน, ภนฺเต, เทวตานํ อธิปฺปาโยติ ภนฺเต, อมฺหากํ ตาว อธิปฺปายํ ชานามฯ เทวตานํ กถํ อธิปฺปาโยติ ปุจฺฉนฺติฯ เถโร ปฐมํ เตสํ อธิปฺปายํ ทสฺเสนฺโต ตุมฺหากํ โขติอาทิมาหฯ มกุฏพนฺธนํ นาม มลฺลานํ เจติยนฺติ มลฺลราชูนํ ปสาธนมงฺคลสาลาย เอตํ นามํฯ จิตฺตีกตฏฺเฐน ปเนสา ‘‘เจติย’’นฺติ วุจฺจติฯ

[229] ยาว สนฺธิสมลสงฺกฏีราติ เอตฺถ สนฺธิ นาม ฆรสนฺธิฯ สมลํ นาม คูถราสินิทฺธมนปนาฬิฯ สงฺกฏีรํ นาม สงฺการฏฺฐานํฯ ทิพฺเพหิ จ มานุสเกหิ จ นจฺเจหีติ อุปริ เทวตานํ นจฺจานิ โหนฺติ, เหฏฺฐา มนุสฺสานํฯ เอส นโย คีตาทีสุฯ อปิจ เทวตานํ อนฺตเร มนุสฺสา, มนุสฺสานํ อนฺตเร เทวตาติ เอวมฺปิ สกฺกโรนฺตา ปูเชนฺตา อคมํสุฯ มชฺเฌน มชฺฌํ นครสฺส หริตฺวาติ เอวํ หริยมาเน ภควโต สรีเร พนฺธุลมลฺลเสนาปติภริยา มลฺลิกา นาม – ‘‘ภควโต สรีรํ อาหรนฺตี’’ติ สุตฺวา อตฺตโน สามิกสฺส กาลํ กิริยโต ปฏฺฐาย อปริภุญฺชิตฺวา ฐปิตํ วิสาขาย ปสาธนสทิสํ มหาลตาปสาธนํ นีหราเปตฺวา – ‘‘อิมินา สตฺถารํ ปูเชสฺสามี’’ติ ตํ มชฺชาเปตฺวา คนฺโธทเกน โธวิตฺวา ทฺวาเร ฐิตาฯ

ตํ กิร ปสาธนํ ตาสญฺจ ทฺวินฺนํ อิตฺถีนํ, เทวทานิยโจรสฺส เคเหติ ตีสุเยว ฐาเนสุ อโหสิฯ สา จ สตฺถุ สรีเร ทฺวารํ สมฺปตฺเต – ‘‘โอตาเรถ, ตาตา, สตฺถุสรีร’’นฺติ วตฺวา ตํ ปสาธนํ สตฺถุสรีเร ปฏิมุญฺจิฯ ตํ สีสโต ปฏฺฐาย ปฏิมุกฺกํ ยาวปาทตลาคตํฯ สุวณฺณวณฺณํ ภควโต สรีรํ สตฺตรตนมเยน มหาปสาธเนน ปสาธิตํ อติวิย วิโรจิตฺถฯ ตํ สา ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺตา ปตฺถนํ อกาสิ – ‘‘ภควา ยาว วฏฺเฏ สํสริสฺสามิ, ตาว เม ปาฏิเยกฺกํ ปสาธนกิจฺจํ มา โหตุ, นิจฺจํ ปฏิมุกฺกปสาธนสทิสเมว สรีรํ โหตู’’ติฯ

อถ ภควนฺตํ สตฺตรตนมเยน มหาปสาธเนน อุกฺขิปิตฺวา ปุรตฺถิเมน ทฺวาเรน นีหริตฺวา ปุรตฺถิเมน นครสฺส มกุฏพนฺธนํ มลฺลานํ เจติยํ, เอตฺถ ภควโต สรีรํ นิกฺขิปิํสุฯ

มหากสฺสปตฺเถรวตฺถุวณฺณนา

[231] ปาวาย กุสินารนฺติ ปาวานคเร ปิณฺฑาย จริตฺวา ‘‘กุสินารํ คมิสฺสามี’’ติ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน โหติฯ รุกฺขมูเล นิสีทีติ เอตฺถ กสฺมา ทิวาวิหารนฺติ น วุตฺตํ? ทิวาวิหารตฺถาย อนิสินฺนตฺตาฯ เถรสฺส หิ ปริวารา ภิกฺขู สพฺเพ สุขสํวทฺธิตา มหาปุญฺญาฯ เต มชฺฌนฺหิกสมเย ตตฺตปาสาณสทิสาย ภูมิยา ปทสา คจฺฉนฺตา กิลมิํสุฯ เถโร เต ทิสฺวา – ‘‘ภิกฺขู กิลมนฺติ, คนฺตพฺพฏฺฐานญฺจ น ทูรํ, โถกํ วิสฺสมิตฺวา ทรถํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตฺวา สายนฺหสมเย กุสินารํ คนฺตฺวา ทสพลํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ มคฺคา โอกฺกมฺม อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล สงฺฆาฏิํ ปญฺญเปตฺวา อุทกตุมฺพโต อุทเกน หตฺถปาเท สีตเล กตฺวา นิสีทิฯ ปริวารภิกฺขูปิสฺส รุกฺขมูเล นิสีทิตฺวา โยนิโส มนสิกาเร กมฺมํ กุรุมานา ติณฺณํ รตนานํ วณฺณํ ภณมานา นิสีทิํสุฯ อิติ ทรถวิโนทนตฺถาย นิสินฺนตฺตา ‘‘ทิวาวิหาร’’นฺติ น วุตฺตํฯ

มนฺทารวปุปฺผํ คเหตฺวาติ มหาปาติปฺปมาณํ ปุปฺผํ อาคนฺตุกทณฺฑเก ฐเปตฺวา ฉตฺตํ วิย คเหตฺวาฯ อทฺทส โขติ อาคจฺฉนฺตํ ทูรโต อทฺทสฯ ทิสฺวา จ ปน จินฺเตสิ –

‘‘เอตํ อาชีวกสฺส หตฺเถ มนฺทารวปุปฺผํ ปญฺญายติ, เอตญฺจ น สพฺพทา มนุสฺสปเถ ปญฺญายติ, ยทา ปน โกจิ อิทฺธิมา อิทฺธิํ วิกุพฺพติ, ตทา สพฺพญฺญุโพธิสตฺตสฺส จ มาตุกุจฺฉิโอกฺกมนาทีสุ โหติฯ น โข ปน อชฺช เกนจิ อิทฺธิวิกุพฺพนํ กตํ, น เม สตฺถา มาตุกุจฺฉิํ โอกฺกนฺโต, น กุจฺฉิโต นิกฺขมนฺโต, นาปิสฺส อชฺช อภิสมฺโพธิ, น ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนํ, น ยมกปาฏิหาริยํ, น เทโวโรหณํ, น อายุสงฺขาโรสฺสชฺชนํฯ มหลฺลโก ปน เม สตฺถา ธุวํ ปรินิพฺพุโต ภวิสฺสตี’’ติฯ

ตโต – ‘‘ปุจฺฉามิ น’’นฺติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา – ‘‘สเจ โข ปน นิสินฺนโกว ปุจฺฉามิ, สตฺถริ อคารโว กโต ภวิสฺสตี’’ติ อุฏฺฐหิตฺวา ฐิตฏฺฐานโต อปกฺกมฺม ฉทฺทนฺโต นาคราชา มณิจมฺมํ วิย ทสพลทตฺติยํ เมฆวณฺณํ ปํสุกูลจีวรํ ปารุปิตฺวา ทสนขสโมธานสมุชฺชลํ อญฺชลิํ สิรสฺมิํ ปติฏฺฐเปตฺวา สตฺถริ กเตน คารเวน อาชีวกสฺส อภิมุโข หุตฺวา – ‘‘อาวุโส, อมฺหากํ สตฺถารํ ชานาสี’’ติ อาหฯ กิํ ปน สตฺถุ ปรินิพฺพานํ ชานนฺโต ปุจฺฉิ อชานนฺโตติ? อาวชฺชนปฏิพทฺธํ ขีณาสวานํ ชานนํ, อนาวชฺชิตตฺตา ปเนส อชานนฺโต ปุจฺฉีติ เอเกฯ เถโร สมาปตฺติพหุโล, รตฺติฏฺฐานทิวาฏฺฐานเลณมณฺฑปาทีสุ นิจฺจํ สมาปตฺติพเลเนว ยาเปติ, กุลสนฺตกมฺปิ คามํ ปวิสิตฺวา ทฺวาเร สมาปตฺติํ สมาปชฺชิตฺวา สมาปตฺติโต วุฏฺฐิโตว ภิกฺขํ คณฺหาติฯ