เมนู

โส สุกฺขวิปสฺสโก จ ปฐมชฺฌานาทีสุ อญฺญตรสฺมิํ ฐตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต จาติ ปญฺจวิโธฯ วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘กตโม จ ปุคฺคโล ปญฺญาวิมุตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล น เหว โข อฏฺฐ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปญฺญาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ปญฺญาวิมุตฺโต’’ติ (ปุ. ป. 15)ฯ

อฏฺฐวิโมกฺขวณฺณนา

[129] เอวํ เอกสฺส ภิกฺขุโน นิคมนญฺจ นามญฺจ ทสฺเสตฺวา อิตรสฺส ทสฺเสตุํ อฏฺฐ โข อิเมติอาทิมาหฯ ตตฺถ วิโมกฺโขติ เกนฏฺเฐน วิโมกฺโข? อธิมุจฺจนฏฺเฐนฯ โก ปนายํ อธิมุจฺจนฏฺโฐ นาม? ปจฺจนีกธมฺเมหิ จ สุฏฺฐุ มุจฺจนฏฺโฐ, อารมฺมเณ จ อภิรติวเสน สุฏฺฐุ มุจฺจนฏฺโฐ, ปิตุองฺเก วิสฺสฏฺฐงฺคปจฺจงฺคสฺส ทารกสฺส สยนํ วิย อนิคฺคหิตภาเวน นิราสงฺกตาย อารมฺมเณ ปวตฺตีติ วุตฺตํ โหติฯ อยํ ปนตฺโถ ปจฺฉิเม วิโมกฺเข นตฺถิ, ปุริเมสุ สพฺเพสุ อตฺถิฯ

รูปี รูปานิ ปสฺสตีติ เอตฺถ อชฺฌตฺตํ เกสาทีสุ นีลกสิณาทีสุ นีลกสิณาทิวเสน อุปฺปาทิตํ รูปชฺฌานํ รูปํ, ตทสฺสตฺถีติ รูปีฯ พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตีติ พหิทฺธาปิ นีลกสิณาทีนิ รูปานิ ฌานจกฺขุนา ปสฺสติฯ อิมินา อชฺฌตฺตพหิทฺธาวตฺถุเกสุ กสิเณสุ อุปฺปาทิตชฺฌานสฺส ปุคฺคลสฺส จตฺตาริ รูปาวจรชฺฌานานิ ทสฺสิตานิฯ อชฺฌตฺตํ อรูปสญฺญีติ อชฺฌตฺตํ น รูปสญฺญี, อตฺตโน เกสาทีสุ อนุปฺปาทิตรูปาวจรชฺฌาโนติ อตฺโถฯ อิมินา พหิทฺธา ปริกมฺมํ กตฺวา พหิทฺธาว อุปฺปาทิตชฺฌานสฺส ปุคฺคลสฺส รูปาวจรชฺฌานานิ ทสฺสิตานิฯ

สุภนฺเตฺวว อธิมุตฺโต โหตีติ อิมินา สุวิสุทฺเธสุ นีลาทีสุ วณฺณกสิเณสุ ฌานานิ ทสฺสิตานิฯ ตตฺถ กิญฺจาปิ อนฺโตอปฺปนายํ สุภนฺติ อาโภโค นตฺถิ, โย ปน วิสุทฺธํ สุภํ กสิณมารมฺมณํ กริตฺวา วิหรติ, โส ยสฺมา สุภนฺติ อธิมุตฺโต โหตีติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ, ตสฺมา เอวํ เทสนา กตาฯ ปฏิสมฺภิทามคฺเค ปน – ‘‘กถํ สุภนฺเตฺวว อธิมุตฺโต โหตีติ วิโมกฺโข? อิธ ภิกฺขุ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ…เป.… เมตฺตาย ภาวิตตฺตา สตฺตา อปฺปฏิกูลา โหนฺติฯ

กรุณา, มุทิตา, อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ…เป.… อุเปกฺขาย ภาวิตตฺตา สตฺตา อปฺปฏิกูลา โหนฺติฯ เอวํ สุภํ ตฺเวว อธิมุตฺโต โหตีติ วิโมกฺโข’’ติ (ปฏิ. ม. 1.212) วุตฺตํฯ

สพฺพโส รูปสญฺญานนฺติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตเมวฯ อยํ อฏฺฐโม วิโมกฺโขติ อยํ จตุนฺนํ ขนฺธานํ สพฺพโส วิสุทฺธตฺตา วิมุตฺตตฺตา อฏฺฐโม อุตฺตโม วิโมกฺโข นามฯ

[130] อนุโลมนฺติ อาทิโต ปฏฺฐาย ยาว ปริโยสานาฯ ปฏิโลมนฺติ ปริโยสานโต ปฏฺฐาย ยาว อาทิโตฯ อนุโลมปฏิโลมนฺติ อิทํ อติปคุณตฺตา สมาปตฺตีนํ อฏฺฐตฺวาว อิโต จิโต จ สญฺจรณวเสน วุตฺตํฯ ยตฺถิจฺฉกนฺติ โอกาสปริทีปนํ, ยตฺถ ยตฺถ โอกาเส อิจฺฉติฯ ยทิจฺฉกนฺติ สมาปตฺติทีปนํ, ยํ ยํ สมาปตฺติํ อิจฺฉติฯ ยาวติจฺฉกนฺติ อทฺธานปริจฺเฉททีปนํ , ยาวตกํ อทฺธานํ อิจฺฉติฯ สมาปชฺชตีติ ตํ ตํ สมาปตฺติํ ปวิสติฯ วุฏฺฐาตีติ ตโต อุฏฺฐาย ติฏฺฐติฯ

อุภโตภาควิมุตฺโตติ ทฺวีหิ ภาเคหิ วิมุตฺโต, อรูปสมาปตฺติยา รูปกายโต วิมุตฺโต, มคฺเคน นามกายโต วิมุตฺโตติฯ วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘อจฺจี ยถา วาตเวเคน ขิตฺตา, (อุปสิวาติ ภควา)

อตฺถํ ปเลติ น อุเปติ สงฺขํ;

เอวํ มุนี นามกายา วิมุตฺโต,

อตฺถํ ปเลติ น อุเปติ สงฺข’’นฺติฯ (สุ. นิ. 1080);

โส ปเนส อุภโตภาควิมุตฺโต อากาสานญฺจายตนาทีสุ อญฺญตรโต อุฏฺฐาย อรหตฺตํ ปตฺโต จ อนาคามี หุตฺวา นิโรธา อุฏฺฐาย อรหตฺตํ ปตฺโต จาติ ปญฺจวิโธฯ เกจิ ปน – ‘‘ยสฺมา รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานมฺปิ ทุวงฺคิกํ อุเปกฺขาสหคตํ, อรูปาวจรชฺฌานมฺปิ ตาทิสเมวฯ ตสฺมา รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานโต อุฏฺฐาย อรหตฺตํ ปตฺโตปิ อุภโตภาควิมุตฺโต’’ติฯ

อยํ ปน อุภโตภาควิมุตฺตปญฺโห เหฏฺฐา โลหปาสาเท สมุฏฺฐหิตฺวา ติปิฏกจูฬสุมนตฺเถรสฺส วณฺณนํ นิสฺสาย จิเรน วินิจฺฉยํ ปตฺโต ฯ คิริวิหาเร กิร เถรสฺส อนฺเตวาสิโก เอกสฺส ปิณฺฑปาติกสฺส มุขโต ตํ ปญฺหํ สุตฺวา อาห – ‘‘อาวุโส, เหฏฺฐาโลหปาสาเท อมฺหากํ อาจริยสฺส ธมฺมํ วณฺณยโต น เกนจิ สุตปุพฺพ’’นฺติฯ กิํ ปน, ภนฺเต, เถโร อวจาติ? รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานํ กิญฺจาปิ ทุวงฺคิกํ อุเปกฺขาสหคตํ กิเลเส วิกฺขมฺเภติ, กิเลสานํ ปน อาสนฺนปกฺเข วิรูหนฏฺฐาเน สมุทาจรติฯ อิเม หิ กิเลสา นาม ปญฺจโวการภเว นีลาทีสุ อญฺญตรํ อารมฺมณํ อุปนิสฺสาย สมุทาจรนฺติ, รูปาวจรชฺฌานญฺจ ตํ อารมฺมณํ น สมติกฺกมติฯ ตสฺมา สพฺพโส รูปํ นิวตฺเตตฺวา อรูปชฺฌานวเสน กิเลเส วิกฺขมฺเภตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโตว อุภโตภาควิมุตฺโตติ, อิทํ อาวุโส เถโร อวจฯ อิทญฺจ ปน วตฺวา อิทํ สุตฺตํ อาหริ – ‘‘กตโม จ ปุคฺคโล อุภโตภาควิมุตฺโตฯ อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อฏฺฐวิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปญฺญาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล อุภโตภาควิมุตฺโต’’ติ (ปุ. ป. 24)ฯ

อิมาย จ อานนฺท อุภโตภาควิมุตฺติยาติ อานนฺท อิโต อุภโตภาควิมุตฺติโตฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติฯ

อิติ สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺฐกถายํ

มหานิทานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

3. มหาปรินิพฺพานสุตฺตวณฺณนา

[131] เอวํ เม สุตนฺติ มหาปรินิพฺพานสุตฺตํฯ ตตฺรายมนุปุพฺพปทวณฺณนา – คิชฺฌกูเฏติ คิชฺฌา ตสฺส กูเฏสุ วสิํสุ, คิชฺฌสทิสํ วา ตสฺส กูฏํ อตฺถีติ คิชฺฌกูโฏ, ตสฺมิํ คิชฺฌกูเฏฯ อภิยาตุกาโมติ อภิภวนตฺถาย ยาตุกาโมฯ วชฺชีติ วชฺชิราชาโนฯ เอวํมหิทฺธิเกติ เอวํ มหติยา ราชิทฺธิยา สมนฺนาคเต, เอเตน เนสํ สมคฺคภาวํ กเถสิฯ เอวํมหานุภาเวติ เอวํ มหนฺเตน อานุภาเวน สมนฺนาคเต, เอเตน เนสํ หตฺถิสิปฺปาทีสุ กตสิกฺขตํ กเถสิ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘สิกฺขิตา วติเม ลิจฺฉวิกุมารกา, สุสิกฺขิตา วติเม ลิจฺฉวิกุมารกา, ยตฺร หิ นาม สุขุเมน ตาฬจฺฉิคฺคเลน อสนํ อติปาตยิสฺสนฺติ โปงฺขานุโปงฺขํ อวิราธิต’’นฺติ (สํ. นิ. 5.1115)ฯ อุจฺเฉจฺฉามีติ อุจฺฉินฺทิสฺสามิฯ วินาเสสฺสามีติ นาเสสฺสามิ, อทสฺสนํ ปาเปสฺสามิฯ อนยพฺยสนนฺติ เอตฺถ น อโยติ อนโย, อวฑฺฒิยา เอตํ นามํฯ หิตญฺจ สุขญฺจ วิยสฺสติ วิกฺขิปตีติ พฺยสนํ, ญาติปาริชุญฺญาทีนํ เอตํ นามํฯ อาปาเทสฺสามีติ ปาปยิสฺสามิฯ

อิติ กิร โส ฐานนิสชฺชาทีสุ อิมํ ยุทฺธกถเมว กเถติ, คมนสชฺชา โหถาติ เอวํ พลกายํ อาณาเปติฯ กสฺมา? คงฺคายํ กิร เอกํ ปฏฺฏนคามํ นิสฺสาย อฑฺฒโยชนํ อชาตสตฺตุโน อาณา, อฑฺฒโยชนํ ลิจฺฉวีนํฯ เอตฺถ ปน อาณาปวตฺติฏฺฐานํ โหตีติ อตฺโถฯ ตตฺราปิ จ ปพฺพตปาทโต มหคฺฆภณฺฑํ โอตรติฯ ตํ สุตฺวา – ‘‘อชฺช ยามิ, สฺเว ยามี’’ติ อชาตสตฺตุโน สํวิทหนฺตสฺเสว ลิจฺฉวิราชาโน สมคฺคา สมฺโมทมานา ปุเรตรํ คนฺตฺวา สพฺพํ คณฺหนฺติฯ อชาตสตฺตุ ปจฺฉา อาคนฺตฺวา ตํ ปวตฺติํ ญตฺวา กุชฺฌิตฺวา คจฺฉติฯ เต ปุนสํวจฺฉเรปิ ตเถว กโรนฺติฯ อถ โส พลวาฆาตชาโต ตทา เอวมกาสิฯ