เมนู

โสณทณฺฑปริวิตกฺกวณฺณนา

[306-308] ติโรวนสณฺฑคตสฺสาติ อนฺโตวนสณฺเฑ คตสฺส, วิหารพฺภนฺตรํ ปวิฏฺฐสฺสาติ อตฺโถฯ อญฺชลิํ ปณาเมตฺวาติ เอเต อุภโตปกฺขิกา, เต เอวํ จินฺตยิํสุ – ‘‘สเจ โน มิจฺฉาทิฏฺฐิกา โจเทสฺสนฺติ – ‘กสฺมา ตุมฺเห สมณํ โคตมํ วนฺทิตฺถา’ติ? เตสํ – ‘กิํ อญฺชลิมตฺตกรเณนาปิ วนฺทนํ นาม โหตี’ติ วกฺขามฯ สเจ โน สมฺมาทิฏฺฐิกา โจเทสฺสนฺติ – ‘กสฺมา ตุมฺเห ภควนฺตํ น วนฺทิตฺถา’ติฯ ‘กิํ สีเสน ภูมิยํ ปหรนฺเตเนว วนฺทนํ นาม โหติ, นนุ อญฺชลิกมฺมมฺปิ วนฺทนํ เอวา’ติ วกฺขามา’’ติฯ นามโคตฺตนฺติ ‘‘โภ, โคตม, อหํ อสุกสฺส ปุตฺโต ทตฺโต นาม, มิตฺโต นาม, อิธาคโต’’ติ วทนฺตา นามํ สาเวนฺติ นามฯ ‘‘โภ, โคตม, อหํ วาเสฏฺโฐ นาม, กจฺจาโน นาม, อิธาคโต’’ติ วทนฺตา โคตฺตํ สาเวนฺติ นามฯ เอเต กิร ทลิทฺทา ชิณฺณา กุลปุตฺตา ‘‘ปริสมชฺเฌ นามโคตฺตวเสน ปากฏา ภวิสฺสามา’’ติ เอวมกํสุฯ เย ปน ตุณฺหีภูตา นิสีทิํสุ, เต เกราฏิกา เจว อนฺธพาลา จฯ ตตฺถ เกราฏิกา – ‘‘เอกํ ทฺเว กถาสลฺลาเปปิ กโรนฺโต วิสฺสาสิโก โหติ, อถ วิสฺสาเส สติ เอกํ ทฺเว ภิกฺขา อทาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ ตโต อตฺตานํ โมเจตฺวา ตุณฺหี นิสีทนฺติฯ อนฺธพาลา อญฺญาณตาเยว อวกฺขิตฺตมตฺติกาปิณฺโฑ วิย ยตฺถ กตฺถจิ ตุณฺหีภูตา นิสีทนฺติฯ

พฺราหฺมณปญฺญตฺติวณฺณนา

[309-310] เจตสา เจโตปริวิตกฺกนฺติ ภควา – ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ อาคตกาลโต ปฏฺฐาย อโธมุโข ถทฺธคตฺโต กิํ จินฺตยมาโน นิสินฺโน, กิํ นุ โข จินฺเตตี’’ติ อาวชฺชนฺโต อตฺตโน เจตสา ตสฺส จิตฺตํ อญฺญาสิฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘เจตสา เจโตปริวิตกฺกมญฺญายา’’ติฯ วิหญฺญตีติ วิฆาตํ อาปชฺชติฯ อนุวิโลเกตฺวา ปริสนฺติ ภควโต สกสมเย ปญฺหปุจฺฉเนน อุทเก มิยมาโน อุกฺขิปิตฺวา ถเล ฐปิโต วิย สมปสฺสทฺธกายจิตฺโต หุตฺวา ปริสํ สงฺคณฺหนตฺถํ ทิฏฺฐิสญฺชาเนเนว ‘‘อุปธาเรนฺตุ เม โภนฺโต วจน’’นฺติ วทนฺโต วิย อนุวิโลเกตฺวา ปริสํ ภควนฺตํ เอตทโวจฯ

[311-313] สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานนฺติ ยญฺญยชนตฺถาย สุชํ คณฺหนฺเตสุ พฺราหฺมเณสุ ปฐโม วา ทุติโย วาติ อตฺโถฯ สุชาย ทิยฺยมานํ มหายาคํ ปฏิคฺคณฺหนฺตานนฺติ โปราณาฯ อิติ พฺราหฺมโณ สกสมยวเสน สมฺมเทว ปญฺหํ วิสฺสชฺเชสิฯ ภควา ปน วิเสสโต อุตฺตมพฺราหฺมณสฺส ทสฺสนตฺถํ – ‘‘อิเมสํ ปนา’’ติอาทิมาหฯ

เอตทโวจุนฺติ สเจ ชาติวณฺณมนฺตสมฺปนฺโน พฺราหฺมโณ น โหติ, อถ โก จรหิ โลเก พฺราหฺมโณ ภวิสฺสติ? นาเสติ โน อยํ โสณทณฺโฑ, หนฺทสฺส วาทํ ปฏิกฺขิปิสฺสามาติ จินฺเตตฺวา เอตทโวจุํฯ อปวทตีติ ปฏิกฺขิปติฯ อนุปกฺขนฺทตีติ อนุปวิสติฯ อิทํ – ‘‘สเจ ตฺวํ ปสาทวเสน สมณํ โคตมํ สรณํ คนฺตุกาโม, คจฺฉ; มา พฺราหฺมณสฺส สมยํ ภินฺที’’ติ อธิปฺปาเยน อาหํสุฯ

[314] เอตทโวจาติ อิเมสุ พฺราหฺมเณสุ เอวํ เอกปฺปหาเรเนว วิรวนฺเตสุ ‘‘อยํ กถา ปริโยสานํ น คมิสฺสติ, หนฺท เน นิสฺสทฺเท กตฺวา โสณทณฺเฑเนว สทฺธิํ กเถมี’’ติ จินฺเตตฺวา – ‘‘เอตํ สเจ โข ตุมฺหาก’’นฺติอาทิกํ วจนํ อโวจฯ

[315-316] สหธมฺเมนาติ สการเณนฯ สมสโมติ ฐเปตฺวา เอกเทสสมตฺตํ สมภาเวน สโม, สพฺพากาเรน สโมติ อตฺโถฯ อหมสฺส มาตาปิตโร ชานามีติ ภคินิยา ปุตฺตสฺส มาตาปิตโร กิํ น ชานิสฺสติ, กุลโกฏิปริทีปนํ สนฺธาเยว วทติฯ มุสาวาทมฺปิ ภเณยฺยาติ อตฺถภญฺชนกํ มุสาวาทํ กเถยฺยฯ กิํ วณฺโณ กริสฺสตีติ อพฺภนฺตเร คุเณ อสติ กิํ กริสฺสติ? กิมสฺส พฺราหฺมณภาวํ รกฺขิตุํ สกฺขิสฺสตีติ อตฺโถฯ อถาปิ สิยา ปุน – ‘‘ปกติสีเล ฐิตสฺส พฺราหฺมณภาวํ สาเธนฺตี’’ติ เอวมฺปิ สีลเมว สาเธสฺสติ, ตสฺมิํ หิสฺส อสติ พฺราหฺมณภาโว นาโหสีติ สมฺโมหมตฺตํ วณฺณาทโยฯ อิทํ ปน สุตฺวา เต พฺราหฺมณา – ‘‘สภาวํ อาจริโย อาห, อการณาว มยํ อุชฺฌายิมฺหา’’ติ ตุณฺหี อเหสุํฯ

สีลปญฺญากถาวณฺณนา

[317] ตโต ภควา ‘กถิโต พฺราหฺมเณน ปญฺโห, กิํ ปเนตฺถ ปติฏฺฐาตุํ สกฺขิสฺสติ, น สกฺขิสฺสตี’ติ? ตสฺส วีมํสนตฺถํ – ‘‘อิเมสํ ปน พฺราหฺมณา’’ติอาทิมาหฯ สีลปริโธตาติ สีลปริสุทฺธาฯ ยตฺถ สีลํ ตตฺถ ปญฺญาติ ยสฺมิํ ปุคฺคเล สีลํ, ตตฺเถว ปญฺญา, กุโต ทุสฺสีเล ปญฺญา? ปญฺญารหิเต วา ชเฬ เอฬมูเค กุโต สีลนฺติ? สีลปญฺญาณนฺติ สีลญฺจ ปญฺญาณญฺจ สีลปญฺญาณํฯ ปญฺญาณนฺติ ปญฺญาเยวฯ เอวเมตํ พฺราหฺมณาติ ภควา พฺราหฺมณสฺส วจนํ อนุชานนฺโต อาหฯ ตตฺถ สีลปริโธตา ปญฺญาติ จตุปาริสุทฺธิสีเลน โธตาฯ กถํ ปน สีเลน ปญฺญํ โธวตีติ? ยสฺส ปุถุชฺชนสฺส สีลํ สฏฺฐิอสีติวสฺสานิ อขณฺฑํ โหติ, โส มรณกาเลปิ สพฺพกิเลเส ฆาเตตฺวา สีเลน ปญฺญํ โธวิตฺวา อรหตฺตํ คณฺหาติฯ กนฺทรสาลปริเวเณ มหาสฏฺฐิวสฺสตฺเถโร วิยฯ เถเร กิร มรณมญฺเจ นิปชฺชิตฺวา พลวเวทนาย นิตฺถุนนฺเต , ติสฺสมหาราชา ‘‘เถรํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ คนฺตฺวา ปริเวณทฺวาเร ฐิโต ตํ สทฺทํ สุตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘กสฺส สทฺโท อย’’นฺติ? เถรสฺส นิตฺถุนนสทฺโทติฯ ‘‘ปพฺพชฺชาย สฏฺฐิวสฺเสน เวทนาปริคฺคหมตฺตมฺปิ น กตํ, น ทานิ นํ วนฺทิสฺสามี’’ติ นิวตฺติตฺวา มหาโพธิํ วนฺทิตุํ คโตฯ ตโต อุปฏฺฐากทหโร เถรํ อาห – ‘‘กิํ โน, ภนฺเต, ลชฺชาเปถ, สทฺโธปิ ราชา วิปฺปฏิสารี หุตฺวา น วนฺทิสฺสามี’’ติ คโตติฯ กสฺมา อาวุโสติ? ตุมฺหากํ นิตฺถุนนสทฺทํ สุตฺวาติฯ ‘‘เตน หิ เม โอกาสํ กโรถา’’ติ วตฺวา เวทนํ วิกฺขมฺภิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา ทหรสฺส สญฺญํ อทาสิ – ‘‘คจฺฉาวุโส, อิทานิ ราชานํ อมฺเห วนฺทาเปหี’’ติฯ ทหโร คนฺตฺวา – ‘‘อิทานิ กิร เถรํ, วนฺทถา’’ติ อาหฯ ราชา สํสุมารปติเตน เถรํ วนฺทนฺโต – ‘‘นาหํ อยฺยสฺส อรหตฺตํ วนฺทามิ, ปุถุชฺชนภูมิยํ ปน ฐตฺวา รกฺขิตสีลเมว วนฺทามี’’ติ อาห, เอวํ สีเลน ปญฺญํ โธวติ นามฯ ยสฺส ปน อพฺภนฺตเร สีลสํวโร นตฺถิ, อุคฺฆาฏิตญฺญุตาย ปน จตุปฺปทิกคาถาปริโยสาเน ปญฺญาย สีลํ โธวิตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณาติฯ อยํ ปญฺญาย สีลํ โธวติ นามฯ เสยฺยถาปิ สนฺตติมหามตฺโตฯ

[318] กตมํ ปน ตํ พฺราหฺมณาติ กสฺมา อาห? ภควา กิร จินฺเตสิ – ‘‘พฺราหฺมณา พฺราหฺมณสมเย ปญฺจสีลานิ ‘สีล’นฺติ ปญฺญาเปนฺติ, เวทตฺตยอุคฺคหณปญฺญา ปญฺญาติฯ อุปริวิเสสํ น ชานนฺติฯ ยํนูนาหํ พฺราหฺมณสฺส อุตฺตริวิเสสภูตํ มคฺคสีลํ, ผลสีลํ, มคฺคปญฺญํ, ผลปญฺญญฺจ ทสฺเสตฺวา อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺฐเปยฺย’’นฺติฯ อถ นํ กเถตุกมฺยตาย ปุจฺฉนฺโต – ‘‘กตมํ ปน ตํ, พฺราหฺมณ, สีลํ กตมา สา ปญฺญา’’ติ อาหฯ อถ พฺราหฺมโณ – ‘‘มยา สกสมยวเสน ปญฺโห วิสฺสชฺชิโตฯ