เมนู

ปสาเรตา โหติ โน สาเรตาติ โมเหตา โหติ, น สติอุปฺปาเทตา; โจทกจุทิตกานํ กถํ โมเหติ ปิทหติ น สาเรตีติ อตฺโถฯ เสสเมตฺถ อุพฺพาหิกวคฺเค อุตฺตานเมวาติฯ

อุพฺพาหิกวคฺควณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

อธิกรณวูปสมวคฺควณฺณนา

[457] อธิกรณวูปสมวคฺเค – ปุคฺคลครุ โหตีติ ‘‘อยํ เม อุปชฺฌาโย, อยํ เม อาจริโย’’ติอาทีนิ จินฺเตตฺวา ตสฺส ชยํ อากงฺขมาโน ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติ ทีเปติฯ สงฺฆครุ โหตีติ ธมฺมญฺจ วินยญฺจ อมุญฺจิตฺวา วินิจฺฉินนฺโต สงฺฆครุโก นาม โหติฯ จีวราทีนิ คเหตฺวา วินิจฺฉินนฺโต อามิสครุโก นาม โหติ, ตานิ อคฺคเหตฺวา ยถาธมฺมํ วินิจฺฉินนฺโต สทฺธมฺมครุโก นาม โหติฯ

[458] ปญฺจหุปาลิ อากาเรหีติ ปญฺจหิ การเณหิ สงฺโฆ ภิชฺชติ – กมฺเมน, อุทฺเทเสน, โวหรนฺโต, อนุสฺสาวเนน, สลากคฺคาเหนาติฯ เอตฺถ กมฺเมนาติ อปโลกนาทีสุ จตูสุ กมฺเมสุ อญฺญตเรน กมฺเมนฯ อุทฺเทเสนาติ ปญฺจสุ ปาติโมกฺขุทฺเทเสสุ อญฺญตเรน อุทฺเทเสนฯ โวหรนฺโตติ กถยนฺโต; ตาหิ ตาหิ อุปปตฺตีหิ ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติอาทีนิ อฏฺฐารส เภทกรวตฺถูนิ ทีเปนฺโต อนุสฺสาวเนนาติ ‘‘นนุ ตุมฺเห ชานาถ มยฺหํ อุจฺจากุลา ปพฺพชิตภาวํ พหุสฺสุตภาวญฺจ, มาทิโส นาม อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุ สาสนํ คาเหยฺยาติ จิตฺตมฺปิ อุปฺปาเทตุํ ตุมฺหากํ ยุตฺตํ, กิํ มยฺหํ อวีจิ นีลุปฺปลวนมิว สีตโล, กิมหํ อปายโต น ภายามี’’ติอาทินา นเยน กณฺณมูเล วจีเภทํ กตฺวา อนุสฺสาวเนนฯ สลากคฺคาเหนาติ เอวํ อนุสฺสาเวตฺวา เตสํ จิตฺตํ อุปตฺถมฺเภตฺวา อนิวตฺติธมฺเม กตฺวา ‘‘คณฺหถ อิมํ สลาก’’นฺติ สลากคฺคาเหนฯ

เอตฺถ จ กมฺมเมว อุทฺเทโส วา ปมาณํ, โวหารานุสฺสาวนสลากคฺคาหา ปน ปุพฺพภาคาฯ

อฏฺฐารสวตฺถุทีปนวเสน หิ โวหรนฺเต ตตฺถ รุจิชนนตฺถํ อนุสฺสาเวตฺวา สลากาย คาหิตายปิ อภินฺโนว โหติ สงฺโฆฯ ยทา ปน เอวํ จตฺตาโร วา อติเรเก วา สลากํ คาเหตฺวา อาเวณิกํ กมฺมํ วา อุทฺเทสํ วา กโรติ, ตทา สงฺโฆ ภินฺโน นาม โหติฯ อิติ ยํ สงฺฆเภทกกฺขนฺธกวณฺณนายํ อโวจุมฺหา ‘‘เอวํ อฏฺฐารสสุ วตฺถูสุ ยํกิญฺจิ เอกมฺปิ วตฺถุํ ทีเปตฺวา เตน เตน การเณน ‘อิมํ คณฺหถ, อิมํ โรเจถา’ติ สญฺญาเปตฺวา สลากํ คาเหตฺวา วิสุํ สงฺฆกมฺเม กเต สงฺโฆ ภินฺโน โหติฯ ปริวาเร ปน ‘ปญฺจหิ, อุปาลิ, อากาเรหิ สงฺโฆ ภิชฺชตี’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตสฺส อิมินา อิธ วุตฺเตน สงฺฆเภทลกฺขเณน อตฺถโต นานากรณํ นตฺถิฯ ตํ ปนสฺส นานากรณาภาวํ ตตฺเถว ปกาสยิสฺสามา’’ติ, สฺวายํ ปกาสิโต โหติฯ

ปญฺญตฺเตตนฺติ ปญฺญตฺตํ เอตํฯ กฺว ปญฺญตฺตํ? วตฺตกฺขนฺธเกฯ ตตฺร หิ จุทฺทส ขนฺธกวตฺตานิ ปญฺญตฺตานิฯ เตนาห – ‘‘ปญฺญตฺเตตํ, อุปาลิ, มยา อาคนฺตุกานํ ภิกฺขูนํ อาคนฺตุกวตฺต’’นฺติอาทิฯ เอวมฺปิ โข อุปาลิ สงฺฆราชิ โหติ, โน จ สงฺฆเภโทติ เอตฺตาวตา หิ สงฺฆราชิมตฺตเมว โหติ, น ตาว สงฺฆเภโท; อนุปุพฺเพน ปน อยํ สงฺฆราชิ วฑฺฒมานา สงฺฆเภทาย สํวตฺตตีติ อตฺโถฯ ยถารตฺตนฺติ รตฺติปริมาณานุรูปํ; ยถาเถรนฺติ อตฺโถฯ อาเวนิภาวํ กริตฺวาติ วิสุํ ววตฺถานํ กริตฺวาฯ กมฺมากมฺมานิ กโรนฺตีติ อปราปรํ สงฺฆกมฺมํ อุปาทาย ขุทฺทกานิ เจว มหนฺตานิ จ กมฺมานิ กโรนฺติฯ เสสเมตฺถาปิ อธิกรณวูปสมวคฺเค อุตฺตานเมวฯ

สงฺฆเภทกวคฺคทฺวยวณฺณนา

[459] สงฺฆเภทวคฺคทฺวเย วินิธาย ทิฏฺฐิํ กมฺเมนาติ เตสุ อธมฺมาทีสุ อธมฺมาทโย เอเตติ เอวํทิฏฺฐิโกว หุตฺวา ตํ ทิฏฺฐิํ วินิธาย เต ธมฺมาทิวเสน ทีเปตฺวา วิสุํ กมฺมํ กโรติฯ อิติ ยํ วินิธาย ทิฏฺฐิํ กมฺมํ กโรติ, เตน เอวํ กเตน วินิธาย ทิฏฺฐิํ กมฺเมน สทฺธิํ ปญฺจงฺคานิ โหนฺติ, ‘‘อิเมหิ โข อุปาลิ ปญฺจหงฺเคหี’’ติ อยเมกสฺมิํ ปญฺจเก อตฺถโยชนา ฯ เอเตน นเยน สพฺพปญฺจกานิ เวทิตพฺพานิฯ เอตฺถาปิ จ โวหาราทิ องฺคตฺตยํ ปุพฺพภาควเสเนว วุตฺตํฯ กมฺมุทฺเทสวเสน ปน อเตกิจฺฉตา เวทิตพฺพาฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวฯ น เหตฺถ กิญฺจิ อตฺถิ ยํ ปุพฺเพ อวุตฺตนยํฯ