เมนู

เสนาสนคฺคาหกถา

[318] เสยฺยาติ มญฺจฏฺฐานานิ วุจฺจนฺติฯ เสยฺยคฺเคนาติ เสยฺยาปริจฺเฉเทน, วสฺสูปนายิกทิวเส กาลํ โฆเสตฺวา เอกมญฺจฏฺฐานํ เอกสฺส ภิกฺขุโน คาเหตุํ อนุชานามีติ อตฺโถฯ เสยฺยคฺเคน คาเหนฺตาติ เสยฺยาปริจฺเฉเทน คาหิยมานาฯ เสยฺยา อุสฺสารยิํสูติ มญฺจฏฺฐานานิ อติเรกานิ อเหสุํฯ วิหารคฺคาทีสุปิ เอเสว นโยฯ อนุภาคนฺติ ปุน อปรมฺปิ ภาคํ ทาตุํฯ อติมนฺเทสุ หิ ภิกฺขูสุ เอเกกสฺส ภิกฺขุโน ทฺเว ตีณิ ปริเวณานิ ทาตพฺพานิฯ น อกามา ทาตพฺโพติ อนิจฺฉาย น ทาตพฺโพฯ ตตฺถ วสฺสูปนายิกทิวเส คหิเต อนุภาเค ปจฺฉา อาคตานํ น อตฺตโน อรุจิยา โส อนุภาโค ทาตพฺโพฯ สเจ ปน เยน คหิโต, โส จ อตฺตโน รุจิยา ตํ อนุภาคํ วา ปฐมภาคํ วา เทติ, วฏฺฏติฯ

นิสฺสีเม ฐิตสฺสาติ อุปจารสีมโต พหิ ฐิตสฺสฯ อนฺโต อุปจารสีมาย ปน ทูเร ฐิตสฺสาปิ ลพฺภติเยวฯ เสนาสนํ คเหตฺวาติ วสฺสูปนายิกทิวเส คเหตฺวาฯ สพฺพกาลํ ปฏิพาหนฺตีติ จตุมาสจฺจเยน อุตุกาเลปิ ปฏิพาหนฺติฯ ตีสุ เสนาสนคฺคาเหสุ ปุริมโก จ ปจฺฉิมโก จาติ อิเม ทฺเว คาหา ถาวราฯ

อนฺตรามุตฺตเก อยํ วินิจฺฉโย – เอกสฺมิํ วิหาเร มหาลาภเสนาสนํ โหติฯ เสนาสนสามิกา วสฺสูปคตํ ภิกฺขุํ สพฺพปจฺจเยหิ สกฺกจฺจํ อุปฏฺฐหิตฺวา ปวาเรตฺวา คมนกาเล พหุํ สมณปริกฺขารํ เทนฺติฯ มหาเถรา ทูรโตปิ อาคนฺตฺวา วสฺสูปนายิกทิวเส ตํ คเหตฺวา ผาสุํ วสิตฺวา วุตฺถวสฺสา ลาภํ คณฺหิตฺวา ปกฺกมนฺติฯ อาวาสิกา ‘‘มยํ เอตฺถุปฺปนฺนํ ลาภํ น ลภาม, นิจฺจํ อาคนฺตุกมหาเถราว ลภนฺติ, เตเยว นํ อาคนฺตฺวา ปฏิชคฺคิสฺสนฺตี’’ติ ปลุชฺชนฺตมฺปิ น โอโลเกนฺติฯ ภควา ตสฺส ปฏิชคฺคนตฺถํ ‘‘อปรชฺชุคตาย ปวารณาย อายติํ วสฺสาวาสตฺถาย อนฺตรามุตฺตโก คาเหตพฺโพ’’ติ อาหฯ

ตํ คาเหนฺเตน สงฺฆตฺเถโร วตฺตพฺโพ – ‘‘ภนฺเต อนฺตรามุตฺตกเสนาสนํ คณฺหถา’’ติฯ สเจ คณฺหาติ, ทาตพฺพํ; โน เจ เอเตเนว อุปาเยน อนุเถรํ อาทิํ กตฺวา โย คณฺหาติ, ตสฺส อนฺตมโส สามเณรสฺสาปิ ทาตพฺพํฯ เตน ตํ เสนาสนํ อฏฺฐมาเส ปฏิชคฺคิตพฺพํฯ

ฉทนภิตฺติภูมีสุ ยํ กิญฺจิ ขณฺฑํ วา ผุลฺลํ วา โหติ, ตํ สพฺพํ ปฏิสงฺขริตพฺพํฯ อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีหิ ทิวสํ เขเปตฺวา รตฺติํ ตตฺถ วสิตุมฺปิ วฏฺฏติฯ รตฺติํ ปริเวเณ วสิตฺวา ตตฺถ ทิวสํ เขเปตุมฺปิ วฏฺฏติฯ รตฺตินฺทิวํ ตตฺเถว วสิตุมฺปิ วฏฺฏติฯ อุตุกาเล อาคตานํ วุฑฺฒานํ น ปฏิพาหิตพฺพํฯ วสฺสูปนายิกทิวเส ปน สมฺปตฺเต สเจ สงฺฆตฺเถโร ‘‘มยฺหํ อิทํ เสนาสนํ เทถา’’ติ วทติ, น ลภติฯ ‘‘ภนฺเต, อิทํ อนฺตรามุตฺตกํ คเหตฺวา อฏฺฐมาเส เอเกน ภิกฺขุนา ปฏิชคฺคิต’’นฺติ วตฺวา น ทาตพฺพํฯ อฏฺฐมาเส ปฏิชคฺคกภิกฺขุสฺเสว คหิตํ โหติฯ

ยสฺมิํ ปน เสนาสเน เอกสํวจฺฉเร ทฺวิกฺขตฺตุํ ปจฺจเย เทนฺติ ฉมาสจฺจเยน ฉมาสจฺจเยน, ตํ อนฺตรามุตฺตกํ น คาเหตพฺพํฯ ยสฺมิํ วา ติกฺขตฺตุํ เทนฺติ จตุมาสจฺจเยน จตุมาสจฺจเยน, ยสฺมิํ วา จตุกฺขตฺตุํ เทนฺติ เตมาสจฺจเยน เตมาสจฺจเยน, ตํ อนฺตรามุตฺตกํ น คาเหตพฺพํฯ ปจฺจเยเนว หิ ตํ ปฏิชคฺคนํ ลภิสฺสติฯ ยสฺมิํ ปน เอกสํวจฺฉเร สกิเทว พหุปจฺจเย เทนฺติ, เอตํ อนฺตรามุตฺตกํ คาเหตพฺพนฺติฯ อยํ ตาว อนฺโตวสฺเส วสฺสูปนายิกทิวเสน ปาฬิยํ อาคตเสนาสนคฺคาหกถาฯ

อยํ ปน เสนาสนคฺคาโห นาม ทุวิโธ โหติ – อุตุกาเล จ วสฺสาวาเส จฯ ตตฺถ อุตุกาเล ตาว เกจิ อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปุเรภตฺตํ อาคจฺฉนฺติ, เกจิ ปจฺฉาภตฺตํ ปฐมยามํ วา มชฺฌิมยามํ วา ปจฺฉิมยามํ วา เย ยทา อาคจฺฉนฺติ, เตสํ ตทาว ภิกฺขู อุฏฺฐาเปตฺวา เสนาสนํ ทาตพฺพํฯ อกาโล นาม นตฺถิฯ เสนาสนปญฺญาปเกน ปน ปณฺฑิเตน ภวิตพฺพํ, เอกํ วา ทฺเว วา มญฺจฏฺฐานานิ ฐเปตพฺพานิฯ สเจ วิกาเล เอโก วา ทฺเว วา เถรา อาคจฺฉนฺติ, เต วตฺตพฺพา – ‘‘ภนฺเต, อาทิโต ปฏฺฐาย วุฏฺฐาปิยมาเน สพฺเพปิ ภิกฺขู อุพฺภณฺฑิกา ภวิสฺสนฺติ, ตุมฺเห อมฺหากํ วสนฏฺฐาเนเยว วสถา’’ติฯ

พหูสุ ปน อาคเตสุ วุฏฺฐาเปตฺวา ปฏิปาฏิยา ทาตพฺพํฯ สเจ เอเกกํ ปริเวณํ ปโหติ, เอเกกํ ปริเวณํ ทาตพฺพํฯ ตตฺถ อคฺคิสาลทีฆสาลมณฺฑลมาลาทโย สพฺเพปิ ตสฺเสว ปาปุณนฺติ ฯ เอวํ อปฺปโหนฺเต ปาสาทคฺเคน ทาตพฺพํฯ ปาสาเทสุ อปฺปโหนฺเตสุ โอวรกคฺเคน ทาตพฺพํฯ

โอวรเกสุ อปฺปโหนฺเตสุ เสยฺยคฺเคน ทาตพฺพํฯ เสยฺยคฺเคสุ อปฺปโหนฺเตสุ มญฺจฏฺฐาเนน ทาตพฺพํฯ มญฺจฏฺฐาเน อปฺปโหนฺเต เอกปีฐกฏฺฐานวเสน ทาตพฺพํฯ ภิกฺขุโน ปน ฐิโตกาสมตฺตํ น คาเหตพฺพํฯ เอตญฺหิ เสนาสนํ นาม น โหติฯ ปีฐกฏฺฐาเน ปน อปฺปโหนฺเต เอกํ มญฺจฏฺฐานํ วา ปีฐกฏฺฐานํ วา วาเรน วาเรน คเหตฺวา ‘‘ภนฺเต, วิสฺสมถา’’ติ ติณฺณํ ชนานํ ทาตพฺพํ, น หิ สกฺกา สีตสมเย สพฺพรตฺติํ อชฺโฌกาเส วสิตุํฯ มหาเถเรน ปฐมยามํ วิสฺสมิตฺวา นิกฺขมิตฺวา ทุติยตฺเถรสฺส วตฺตพฺพํ – ‘‘อาวุโส, อิธ ปวิสาหี’’ติฯ สเจ มหาเถโร นิทฺทาครุโก โหติ, กาลํ น ชานาติ, อุกฺกาสิตฺวา ทฺวารํ อาโกเฏตฺวา ‘‘ภนฺเต, กาโล ชาโต, สีตํ อนุทหตี’’ติ วตฺตพฺพํฯ เตน นิกฺขมิตฺวา โอกาโส ทาตพฺโพ, อทาตุํ น ลภติฯ ทุติยตฺเถเรนปิ มชฺฌิมยามํ วิสฺสมิตฺวา ปุริมนเยเนว อิตรสฺส ทาตพฺพํฯ นิทฺทาครุโก วุตฺตนเยเนว วุฏฺฐาเปตพฺโพฯ เอวํ เอกรตฺติํ เอกมญฺจฏฺฐานํ ติณฺณํ ทาตพฺพํฯ ชมฺพุทีเป ปน เอกจฺเจ ภิกฺขู ‘‘เสนาสนํ นาม มญฺจฏฺฐานํ วา ปีฐฏฺฐานํ วา กิญฺจิเทว กสฺสจิ สปฺปายํ โหติ, กสฺสจิ อสปฺปาย’’นฺติ อาคนฺตุกา โหนฺตุ วา มา วา, เทวสิกํ เสนาสนํ คาเหนฺติฯ อยํ อุตุกาเล เสนาสนคฺคาโห นามฯ

วสฺสาวาเส ปน อตฺถิ อาคนฺตุกวตฺตํ, อตฺถิ อาวาสิกวตฺตํ, อาคนฺตุเกน ตาว สกฏฺฐานํ มุญฺจิตฺวา อญฺญตฺถ คนฺตฺวา วสิตุกาเมน วสฺสูปนายิกทิวสเมว ตตฺถ น คนฺตพฺพํฯ วสนฏฺฐานํ วา หิ ตตฺร สมฺพาธํ ภเวยฺย, ภิกฺขาจาโร วา น สมฺปชฺเชยฺย, เตน น ผาสุํ วิหเรยฺยฯ ตสฺมา ‘‘อิทานิ มาสมตฺเตน วสฺสูปนายิกา ภวิสฺสตี’’ติ ตํ วิหารํ ปวิสิตพฺพํฯ ตตฺถ มาสมตฺตํ วสนฺโต สเจ อุทฺเทสตฺถิโก อุทฺเทสสมฺปตฺติํ สลฺลกฺเขตฺวา, สเจ กมฺมฏฺฐานิโก กมฺมฏฺฐานสปฺปายตํ สลฺลกฺเขตฺวา, สเจ ปจฺจยตฺถิโก ปจฺจยลาภํ สลฺลกฺเขตฺวา อนฺโตวสฺเส สุขํ วสิสฺสติฯ

สกฏฺฐานโต จ ตตฺถ คจฺฉนฺเตน น โคจรคาโม ฆฏฺเฏตพฺโพ, น ตตฺถ มนุสฺสา วตฺตพฺพา – ‘‘ตุมฺเห นิสฺสาย สลากภตฺตาทีนิ วา ยาคุขชฺชกาทีนิ วา วสฺสาวาสิกํ วา นตฺถิ, อยํ เจติยสฺส ปริกฺขาโร, อยํ อุโปสถาคารสฺส, อิทํ ตาฬญฺเจว สูจิ จ สมฺปฏิจฺฉถ ตุมฺหากํ วิหาร’’นฺติฯ เสนาสนํ ปน ชคฺคิตฺวา ทารุภณฺฑมตฺติกาภณฺฑานิ ปฏิสาเมตฺวา คมิยวตฺตํ ปูเรตฺวา คนฺตพฺพํฯ

เอวํ คจฺฉนฺเตนาปิ ทหเรหิ ปตฺตจีวรภณฺฑิกาโย อุกฺขิปาเปตฺวา เตลนาฬิกตฺตรทณฺฑาทีนิ คาหาเปตฺวา ฉตฺตํ ปคฺคยฺห อตฺตานํ ทสฺเสนฺเตน คามทฺวาเรเนว น คนฺตพฺพํ, ปฏิจฺฉนฺเนน อฏวิมคฺเคน คนฺตพฺพํฯ อฏวิมคฺเค อสติ คุมฺพาทีนิ มทฺทนฺเตน น คนฺตพฺพํ, คมิยวตฺตํ ปน ปูเรตฺวา วิตกฺกํ ฉินฺทิตฺวา สุทฺธจิตฺเตน คมนวตฺเตเนว คนฺตพฺพํฯ สเจ ปน คามทฺวาเรน มคฺโค โหติ, คจฺฉนฺตญฺจ นํ สปริวารํ ทิสฺวา มนุสฺสา ‘‘อมฺหากํ เถโร วิยา’’ติ อุปธาวิตฺวา ‘‘กุหิํ, ภนฺเต, สพฺพปริกฺขาเร คเหตฺวา คจฺฉถา’’ติ วทนฺติ, เตสุ เจ เอโก เอวํ วทติ – ‘‘วสฺสูปนายิกกาโล นามายํ, ยตฺถ อนฺโตวสฺเส นิพทฺธภิกฺขาจาโร ภณฺฑปฏิจฺฉาทนญฺจ ลพฺภติ, ตตฺถ ภิกฺขู คจฺฉนฺตี’’ติฯ ตสฺส เจ สุตฺวา เต มนุสฺสา ‘‘ภนฺเต, อิมสฺมิมฺปิ คาเม ชโน ภุญฺชติ เจว นิวาเสติ จ, มา อญฺญตฺถ คจฺฉถา’’ติ วตฺวา มิตฺตามจฺเจ ปกฺโกสาเปตฺวา สพฺเพ สมฺมนฺตยิตฺวา วิหาเร นิพทฺธวตฺตญฺจ สลากภตฺตาทีนิ จ วสฺสาวาสิกญฺจ ปฏฺฐเปตฺวา ‘‘อิเธว ภนฺเต วสถา’’ติ ยาจนฺติ, สพฺพํ สาทิตุํ วฏฺฏติฯ สพฺพญฺเหตํ กปฺปิยญฺเจว อนวชฺชญฺจฯ กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘‘กุหิํ คจฺฉถา’ติ วุตฺเต ‘อสุกฏฺฐาน’นฺติ วตฺวา, ‘กสฺมา ตตฺถ คจฺฉถา’ติ วุตฺเต ‘การณํ อาจิกฺขิตพฺพ’’’นฺติ วุตฺตํฯ อุภยมฺปิ ปเนตฺถ สุทฺธจิตฺตตฺตาว อนวชฺชํฯ อิทํ อาคนฺตุกวตฺตํ นามฯ

อิทํ ปน อาวาสิกวตฺตํ – ปฏิกจฺเจว หิ อาวาสิเกหิ วิหาโร ชคฺคิตพฺโพฯ ขณฺฑผุลฺลปฏิสงฺขรณปริภณฺฑานิ กาตพฺพานิฯ รตฺติฏฺฐานทิวาฏฺฐานวจฺจกุฏิปสฺสาวฏฺฐานานิ ปธานฆรวิหารมคฺโคติ อิมานิ สพฺพานิ ปฏิชคฺคิตพฺพานิ, เจติเย สุธากมฺมํ มุทฺทเวทิกาย เตลมกฺขนํ มญฺจปีฐปฏิชคฺคนนฺติ อิทมฺปิ สพฺพํ กาตพฺพํ – ‘‘วสฺสํ วสิตุกามา อาคนฺตฺวา อุทฺเทสปริปุจฺฉากมฺมฏฺฐานานุโยคาทีนิ กโรนฺตา สุขํ วสิสฺสนฺตี’’ติฯ กตปริกมฺเมหิ อาสาฬฺหีชุณฺหปญฺจมิโต ปฏฺฐาย วสฺสาวาสิกํ ปุจฺฉิตพฺพํฯ กตฺถ ปุจฺฉิตพฺพํ? ยโต ปกติยา ลพฺภติฯ เยหิ ปน น ทินฺนปุพฺพํ, เต ปุจฺฉิตุํ น วฏฺฏติฯ กสฺมา ปุจฺฉิตพฺพํ? กทาจิ หิ มนุสฺสา เทนฺติ, กทาจิ ทุพฺภิกฺขาทีหิ อุปทฺทุตา น เทนฺติฯ ตตฺถ เย น ทสฺสนฺติ, เต อปุจฺฉิตฺวา วสฺสาวาสิเก คาหิเต คาหิตภิกฺขูนํ ลาภนฺตราโย โหติ, ตสฺมา ปุจฺฉิตฺวาว คาเหตพฺพํ, ปุจฺฉนฺเตน ‘‘ตุมฺหากํ วสฺสาวาสิกคฺคาหกกาโล อุปกฏฺโฐ’’ติ วตฺตพฺพํฯ

สเจ วทนฺติ ‘‘ภนฺเต, อิมํ สํวจฺฉรํ ฉาตกาทีหิ อุปทฺทุตมฺห, น สกฺโกม ทาตุ’’นฺติ วา ‘‘ยํ มยํ ปุพฺเพ เทม, ตโต อูนตรํ ทสฺสามา’’ติ วา ‘‘อิทานิ กปฺปาโส สุลโภ, ยํ ปุพฺเพ เทม, ตโต พหุตรํ ทสฺสามา’’ติ วา วทนฺติ, ตํ สลฺลกฺเขตฺวา ตทนุรูเปน นเยน เตสํ เตสํ เสนาสเน ภิกฺขูนํ วสฺสาวาสิกํ คาเหตพฺพํฯ

สเจ มนุสฺสา วทนฺติ – ‘‘ยสฺส อมฺหากํ วสฺสาวาสิกํ ปาปุณาติ, โส เตมาสํ ปานียํ อุปฏฺฐาเปตุ, วิหารมคฺคํ ชคฺคตุ, เจติยงฺคณโพธิยงฺคณานิ ชคฺคตุ, โพธิรุกฺเข อุทกํ อาสิญฺจตู’’ติ, ยสฺส ตํ ปาปุณาติ, ตสฺส อาจิกฺขิตพฺพํฯ โย ปน คาโม ปฏิกฺกมฺม โยชนทฺวิโยชนนฺตเร โหติ, ตตฺร เจ กุลานิ อุปนิกฺเขปํ ฐเปตฺวา วิหาเร วสฺสาวาสิกํ เทนฺติเยว, ตานิ กุลานิ อปุจฺฉิตฺวาปิ เตสํ เสนาสเน วตฺตํ กตฺวา วสนฺตสฺส วสฺสาวาสิกํ คาเหตพฺพํฯ สเจ ปน เตสํ เสนาสเน ปํสุกูลิโก วสติ, อาคตญฺจ ตํ ทิสฺวา ‘‘ตุมฺหากํ วสฺสาวาสิกํ เทมา’’ติ วทนฺติ, เตน สงฺฆสฺส อาจิกฺขิตพฺพํฯ สเจ ตานิ กุลานิ สงฺฆสฺส ทาตุํ น อิจฺฉนฺติ, ‘‘ตุมฺหากํเยว เทมา’’ติ วทนฺติ, สภาโค ภิกฺขุ ‘‘วตฺตํ กตฺวา คณฺหาหี’’ติ วตฺตพฺโพฯ ปํสุกูลิกสฺส ปเนตํ น วฏฺฏติ, อิติ สทฺธาเทยฺเย ทายกมนุสฺสา ปุจฺฉิตพฺพาฯ

ตตฺรุปฺปาเท ปน กปฺปิยการกา ปุจฺฉิตพฺพาฯ กถํ ปุจฺฉิตพฺพา? ‘‘กิํ, อาวุโส, สงฺฆสฺส ภณฺฑปฏิจฺฉาทนํ ภวิสฺสตี’’ติฯ สเจ วทนฺติ – ‘‘ภวิสฺสติ, ภนฺเต, เอเกกสฺส นวหตฺถํ สาฏกํ ทสฺสาม, วสฺสาวาสิกํ คาเหถา’’ติ, คาเหตพฺพํฯ สเจปิ วทนฺติ – ‘‘สาฏกํ นตฺถิ; วตฺถุ ปน อตฺถิ, คาเหถ, ภนฺเต’’ติ, วตฺถุมฺหิ สนฺเตปิ คาเหตุํ วฏฺฏติเยวฯ กปฺปิยการกานญฺหิ หตฺเถ ‘‘กปฺปิยภณฺฑํ ปริภุญฺชถา’’ติ ทินฺนวตฺถุโต ยํ ยํ กปฺปํ, ตํ ตํ สพฺพํ ปริภุญฺชิตุํ อนุญฺญาตํฯ

ยํ ปเนตฺถ ปิณฺฑปาตตฺถาย คิลานปจฺจยตฺถาย วา อุทฺทิสฺส ทินฺนํ, ตํ จีวเร อุปนาเมนฺเตหิ สงฺฆสุฏฺฐุตาย อปโลเกตฺวา อุปนาเมตพฺพํฯ เสนาสนตฺถาย อุทฺทิสฺส ทินฺนํ ครุภณฺฑํ โหติ, จีวรวเสเนว จตุปจฺจยวเสน วา ทินฺนํ จีวเร อุปนาเมนฺตานํ อปโลกนกมฺมกิจฺจํ นตฺถิ, อปโลกนกมฺมํ กโรนฺเตหิ จ ปุคฺคลวเสเนว กาตพฺพํ, สงฺฆวเสน น กาตพฺพํฯ ชาตรูปรชตวเสนาปิ อามกธญฺญวเสน วา อปโลกนกมฺมํ น วฏฺฏติฯ กปฺปิยภณฺฑวเสน จีวรตณฺฑุลาทิวเสเนว จ วฏฺฏติฯ ตํ ปน เอวํ กตฺตพฺพํ – ‘‘อิทานิ สุภิกฺขํ สุลภปิณฺฑํ, ภิกฺขู จีวเรน กิลมนฺติ, เอตฺตกํ นาม ตณฺฑุลภาคํ ภิกฺขูนํ จีวรํ กาตุํ รุจฺจตี’’ติฯ

‘‘คิลานปจฺจโย สุลโภ คิลาโน วา นตฺถิ, เอตฺตกํ นาม ตณฺฑุลภาคํ ภิกฺขูนํ จีวรํ กาตุํ รุจฺจตี’’ติฯ

เอวํ จีวรปจฺจยํ สลฺลกฺเขตฺวา เสนาสนสฺส กาเล โฆสิเต สนฺนิปติเต สงฺเฆ เสนาสนคฺคาหโก สมฺมนฺนิตพฺโพฯ สมฺมนฺนนฺเตน จ ทฺเว สมฺมนฺนิตพฺพาติ วุตฺตํฯ เอวญฺหิ นวโก วุฑฺฒตรสฺส, วุฑฺโฒ จ นวกสฺส คาเหสฺสติฯ มหนฺเต ปน มหาวิหารสทิเส วิหาเร ตโย จตฺตาโร ชนา สมฺมนฺนิตพฺพาฯ กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘อฏฺฐปิ โสฬสปิ ชเน สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํฯ เตสํ สมฺมุติ กมฺมวาจายปิ อปโลกเนนปิ วฏฺฏติเยวฯ

เตหิ สมฺมเตหิ ภิกฺขูหิ เสนาสนํ สลฺลกฺเขตพฺพํ, เจติยฆรํ โพธิฆรํ อาสนฆรํ สมฺมุญฺชนิอฏฺโฏ ทารุอฏฺโฏ วจฺจกุฏิ อิฏฺฐกสาลา วฑฺฒกิสาลา ทฺวารโกฏฺฐโก ปานียมาโฬ มคฺโค โปกฺขรณีติ เอตานิ หิ อเสนาสนานิ, วิหาโร อฑฺฒโยโค ปาสาโท หมฺมิยํ คุหา มณฺฑโป รุกฺขมูลํ เวฬุคุมฺโพติ อิมานิ เสนาสนานิ, ตานิ คาเหตพฺพานิฯ คาเหนฺเตน จ ‘‘ปฐมํ ภิกฺขู คเณตุํ, ภิกฺขู คเณตฺวา เสยฺยา คเณตุ’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตนเยน คาเหตพฺพานิฯ สเจ สงฺฆิโก จ สทฺธาเทยฺโย จาติ ทฺเว จีวรปจฺจยา โหนฺติ, เตสุ ยํ ภิกฺขู ปฐมํ คณฺหิตุํ อิจฺฉนฺติ, ตํ คาเหตฺวา ตสฺส ฐิติกโต ปฏฺฐาย อิตโร คาเหตพฺโพฯ

สเจ ปน ภิกฺขูนํ อปฺปตาย ปริเวณคฺเคน เสนาสเน คาหิยมาเน เอกํ ปริเวณํ มหาลาภํ โหติ, ทส วา ทฺวาทส วา จีวรานิ ลภนฺติ, ตํ วิชเฏตฺวา อญฺเญสุ อลาภเกสุ อาวาเสสุ ปกฺขิปิตฺวา อญฺเญสมฺปิ ภิกฺขูนํ คาเหตพฺพนฺติ มหาสุมตฺเถโร อาหฯ มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘น เอวํ กาตพฺพํ, มนุสฺสา หิ อตฺตโน อาวาสชคฺคนตฺถาย ปจฺจยํ เทนฺติ, ตสฺมา อญฺเญหิ ภิกฺขูหิ ตตฺถ ปวิสิตพฺพ’’นฺติฯ สเจ ปเนตฺถ มหาเถโร ปฏิกฺโกสติ – ‘‘มาวุโส, เอวํ คาเหถ, ภควโต อนุสิฏฺฐิํ กโรถ, วุตฺตญฺเหตํ ภควตา – ‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปริเวณคฺเคน คาเหตุ’’’นฺติ ตสฺส ปฏิกฺโกสนาย อฏฺฐตฺวา ‘‘ภนฺเต ภิกฺขู พหู, ปจฺจโย มนฺโท, สงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ ตํ สญฺญาเปตฺวา คาเหตพฺพเมวฯ

คาเหนฺเตน จ สมฺมเตน ภิกฺขุนา มหาเถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา เอวํ วตฺตพฺพํ – ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ เสนาสนํ ปาปุณาติ, คณฺหถ ปจฺจยํ ธาเรถา’’ติฯ ‘‘อสุกกุลสฺส ปจฺจโย อสุกเสนาสนญฺจ มยฺหํ ปาปุณาติ, อาวุโส’’ติ, ‘‘ปาปุณาติ, ภนฺเต, คณฺหถ น’’นฺติ, ‘‘คณฺหามิ, อาวุโส’’ติ, คหิตํ โหติฯ สเจ ปน ‘‘คหิตํ โว, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘คหิตํ เม’’ติ วา ‘‘คณฺหิสฺสถ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘คณฺหิสฺสามี’’ติ วา วทติ, ‘‘อคหิตํ โหตี’’ติ มหาสุมตฺเถโร อาหฯ มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘อตีตานาคตวจนํ วา โหตุ, วตฺตมานวจนํ วา, สตุปฺปาทมตฺตอาลยกรณมตฺตเมว เจตฺถ ปมาณํ, ตสฺมา คหิตเมว โหตี’’ติฯ

โยปิ ปํสุกูลิโก ภิกฺขุ เสนาสนํ คเหตฺวา ปจฺจยํ วิสฺสชฺเชติ, อยมฺปิ น อญฺญสฺมิํ อาวาเส ปกฺขิปิตพฺโพฯ ตสฺมิํเยว ปริเวเณ อคฺคิสาลาย วา ทีฆสาลาย วา รุกฺขมูเล วา อญฺญสฺส คาเหตุํ วฏฺฏติฯ ปํสุกูลิโก ‘‘วสามี’’ติ เสนาสนํ ชคฺคิสฺสติ, อิตโร ‘‘ปจฺจยํ คณฺหามี’’ติ, เอวํ ทฺวีหิ การเณหิ เสนาสนํ สุชคฺคิตตรํ ภวิสฺสติฯ มหาปจฺจริยํ ปน วุตฺตํ – ‘‘ปํสุกูลิเก วาสตฺถาย เสนาสนํ คณฺหนฺเต เสนาสนคฺคาหาปเกน วตฺตพฺพํ – ‘ภนฺเต, อิธ ปจฺจโย อตฺถิ, โส กิํ กาตพฺโพ’ติฯ เตน ‘เหฏฺฐา อญฺญํ คาหาเปหี’ติ วตฺตพฺโพฯ สเจ ปน กิญฺจิ อวตฺวาว วสติ, วุตฺถวสฺสสฺส จ ปาทมูเล ฐเปตฺวา สาฏกํ เทนฺติ, วฏฺฏติฯ อถ วสฺสาวาสิกํ เทมาติ วทนฺติ, ตสฺมิํ เสนาสเน วสฺสํวุตฺถภิกฺขูนํ ปาปุณาตี’’ติฯ เยสํ ปน เสนาสนํ นตฺถิ; เกวลํ ปจฺจยเมว เทนฺติ, เตสํ ปจฺจยํ อวสฺสาวาสิเก เสนาสเน คาเหตุํ วฏฺฏติฯ

มนุสฺสา ถูปํ กตฺวา วสฺสาวาสิกํ คาหาเปนฺติ, ถูโป นาม อเสนาสนํ, ตสฺส สมีเป รุกฺเข วา มณฺฑเป วา อุปนิพนฺธิตฺวา คาหาเปตพฺพํฯ เตน ภิกฺขุนา เจติยํ ปฏิชคฺคิตพฺพํฯ โพธิรุกฺขโพธิฆรอาสนฆรสมฺมุญฺชนิอฏฺฏทารุอฏฺฏวจฺจกุฏิทฺวารโกฏฺฐกปานียมาฬกทนฺตกฏฺฐมาฬเกสุปิ เอเสว นโยฯ โภชนสาลา ปน เสนาสนเมว, ตสฺมา ตํ เอกสฺส วา พหูนํ วา ปริจฺฉินฺทิตฺวา คาเหตุํ วฏฺฏตีติ สพฺพมิทํ วิตฺถาเรน มหาปจฺจริยํ วุตฺตํฯ

เสนาสนคฺคาหาปเกน ปน ปาฏิปทอรุณโต ปฏฺฐาย ยาว ปุน อรุณํ น ภิชฺชติ ตาว คาเหตพฺพํ, อิทญฺหิ เสนาสนคฺคาหสฺส เขตฺตํฯ

สเจ ปาโตว คาหิเต เสนาสเน อญฺโญ วิตกฺกจาริโก ภิกฺขุ อาคนฺตฺวา เสนาสนํ ยาจติ, ‘‘คหิตํ, ภนฺเต, เสนาสนํ, วสฺสูปคโต สงฺโฆ, รมณีโย วิหาโร, รุกฺขมูลาทีสุ ยตฺถ อิจฺฉถ ตตฺถ วสถา’’ติ วตฺตพฺโพฯ วสฺสูปคเตหิ อนฺโตวสฺเส นิพทฺธวตฺตํ ฐเปตฺวา วสฺสูปคตา ภิกฺขู ‘‘สมฺมุญฺชนิโย พนฺธถา’’ติ วตฺตพฺพาฯ สุลภา เจ ทณฺฑกา เจว สลากาโย จ โหนฺติ, เอเกเกน ฉ ปญฺจ มุฏฺฐิสมฺมุญฺชนิโย, ทฺเว ติสฺโส ยฏฺฐิสมฺมุญฺชนิโย วา พนฺธิตพฺพาฯ ทุลฺลภา เจ โหนฺติ, ทฺเว ติสฺโส มุฏฺฐิสมฺมุญฺชนิโย เอกา ยฏฺฐิสมฺมุญฺชนี พนฺธิตพฺพาฯ สามเณเรหิ ปญฺจ ปญฺจ อุกฺกา โกฏฺเฏตพฺพาฯ วสนฏฺฐาเน กสาวปริภณฺฑํ กาตพฺพํฯ

วตฺตํ กโรนฺเตหิ ปน ‘‘น อุทฺทิสิตพฺพํ, น อุทฺทิสาเปตพฺพํ, น สชฺฌาโย กาตพฺโพ, น ปพฺพาเชตพฺพํ, น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น ธมฺมสวนํ กาตพฺพํ, สพฺเพว หิ เอเต ปปญฺจาฯ นิปฺปปญฺจา หุตฺวา สมณธมฺมเมว กริสฺสามา’’ติ วา ‘‘สพฺเพ เตรส ธุตงฺคานิ สมาทิยนฺตุ, เสยฺยํ อกปฺเปตฺวา ฐานจงฺกเมหิ วีตินาเมนฺตุ, มูคพฺพตํ คณฺหนฺตุ, สตฺตาหกรณีเยน คตาปิ ภาชนียภณฺฑํ ลภนฺตู’’ติ วา เอวรูปํ อธมฺมิกวตฺตํ น กาตพฺพํฯ เอวํ ปน กาตพฺพํ – ปริยตฺติธมฺโม นาม ติวิธมฺปิ สทฺธมฺมํ ปติฏฺฐาเปติ; ตสฺมา สกฺกจฺจํ อุทฺทิสถ, อุทฺทิสาเปถ, สชฺฌายํ กโรถ, ปธานฆเร วสนฺตานํ สงฺฆฏฺฏนํ อกตฺวา อนฺโตวิหาเร นิสีทิตฺวา อุทฺทิสถ, อุทฺทิสาเปถ, สชฺฌายํ กโรถ, ธมฺมสวนํ สมิทฺธํ กโรถ, ปพฺพาเชนฺตา โสเธตฺวา ปพฺพาเชถ, โสเธตฺวา อุปสมฺปาเทถ, โสเธตฺวา นิสฺสยํ เทถ, เอโกปิ หิ กุลปุตฺโต ปพฺพชฺชํ อุปสมฺปทญฺจ ลภิตฺวา สกลสาสนํ ปติฏฺฐาเปติ, อตฺตโน ถาเมน ยตฺตกานิ สกฺโกถ ตตฺตกานิ ธุตงฺคานิ สมาทิยถฯ อนฺโตวสฺสํ นาเมตํ สกลทิวสํ รตฺติยา จ ปฐมปจฺฉิมยาเมสุ อปฺปมตฺเตหิ ภวิตพฺพํ, วีริยํ อารภิตพฺพํฯ โปราณกมหาเถราปิ สพฺพปลิโพเธ ฉินฺทิตฺวา อนฺโตวสฺเส เอกจาริกวตฺตํ ปูรยิํสุ, ภสฺเส มตฺตํ ชานิตฺวา ทสวตฺถุกกถํ ทสอสุภทสานุสฺสติอฏฺฐติํสารมฺมณกถญฺจ กาตุํ วฏฺฏติ, อาคนฺตุกานํ วตฺตํ กาตุํ สตฺตาหกรณีเยน คตานํ อปโลเกตฺวา ทาตุํ วฏฺฏตีติ เอวรูปํ วตฺตํ กาตพฺพํฯ

อปิจ ภิกฺขู โอวทิตพฺพา – ‘‘วิคฺคาหิกปิสุณผรุสวจนานิ มา วทถ, ทิวเส ทิวเส สีลานิ อาวชฺเชนฺตา จตุรารกฺขํ อหาเปนฺตา มนสิการพหุลา วิหรถา’’ติฯ ทนฺตกฏฺฐขาทนวตฺตํ อาจิกฺขิตพฺพํ, เจติยํ วา โพธิํ วา วนฺทนฺเตน คนฺธมาลํ วา ปูเชนฺเตน ปตฺตํ วา ถวิกาย ปกฺขิปนฺเตน น กเถตพฺพํ, ภิกฺขาจารวตฺตํ อาจิกฺขิตพฺพํ – ‘‘อนฺโตคาเม มนุสฺเสหิ สทฺธิํ ปจฺจยสญฺญุตฺตกถา วา วิสภาคกถา วา น กเถตพฺพา, รกฺขิตินฺทฺริเยหิ ภวิตพฺพํ, ขนฺธกวตฺตญฺจ เสขิยวตฺตญฺจ ปูเรตพฺพ’’นฺติ เอวรูปา พหุกาปิ นิยฺยานิกกถา อาจิกฺขิตพฺพาติฯ

ปจฺฉิมวสฺสูปนายิกทิวเส ปน สเจ กาลํ โฆเสตฺวา สนฺนิปติเต สงฺเฆ โกจิ ทสหตฺถํ วตฺถํ อาหริตฺวา วสฺสาวาสิกํ เทติ, อาคนฺตุโก สเจ ภิกฺขุ สงฺฆตฺเถโร โหติ, ตสฺส ทาตพฺพํฯ นวโก เจ โหติ, สมฺมเตน ภิกฺขุนา สงฺฆตฺเถโร วตฺตพฺโพ – ‘‘สเจ ภนฺเต อิจฺฉถ, ปฐมภาคํ มุญฺจิตฺวา อิทํ วตฺถํ คณฺหถา’’ติ, อมุญฺจนฺตสฺส น ทาตพฺพํฯ สเจ ปน ปุพฺเพ คาหิตํ มุญฺจิตฺวา คณฺหาติ, ทาตพฺพํฯ เอเตเนวุปาเยน ทุติยตฺเถรโต ปฏฺฐาย ปริวตฺเตตฺวา ปตฺตฏฺฐาเน อาคนฺตุกสฺส ทาตพฺพํฯ สเจ ปฐมวสฺสูปคตา ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปญฺจ วา วตฺถานิ อลตฺถุํ, ลทฺธํ ลทฺธํ เอเตเนวุปาเยน วิสฺสชฺชาเปตฺวา ยาว อาคนฺตุกสฺส สมกํ โหติ, ตาว ทาตพฺพํฯ เตน ปน สมเก ลทฺเธ อวสิฏฺโฐ อนุภาโค เถราสเน ทาตพฺโพฯ ปจฺจุปฺปนฺเน ลาเภ สติ ฐิติกาย คาเหตุํ กติกํ กาตุํ วฏฺฏติฯ

สเจ ทุพฺภิกฺขํ โหติ, ทฺวีสุปิ วสฺสูปนายิกาสุ วสฺสูปคตา ภิกฺขู ภิกฺขาย กิลมนฺตา ‘‘อาวุโส, อิธ วสนฺตา สพฺเพว กิลมาม, สาธุ วต ทฺเวภาคา โหม, เยสํ ญาติปวาริตฏฺฐานานิ อตฺถิ, เต ตตฺถ วสิตฺวา ปวารณาย อาคนฺตฺวา อตฺตโน ปตฺตํ วสฺสาวาสิกํ คณฺหนฺตู’’ติ วทนฺติ, เตสุ เย ตตฺถ วสิตฺวา ปวารณาย อาคจฺฉนฺติ, เตสํ อปโลเกตฺวา วสฺสาวาสิกํ ทาตพฺพํฯ สาทิยนฺตาปิ หิ เต เนว วสฺสาวาสิกสฺส สามิโน, ขียนฺตาปิ จ อาวาสิกา เนว อทาตุํ ลภนฺติฯ กุรุนฺทิยํ ปน วุตฺตํ – ‘‘กติกวตฺตํ กาตพฺพํ – ‘สพฺเพสํ โน อิธ ยาคุภตฺตํ นปฺปโหติ, สภาคฏฺฐาเน วสิตฺวา อาคจฺฉถ, ตุมฺหากํ ปตฺตํ วสฺสาวาสิกํ ลภิสฺสถา’ติฯ

ตญฺเจ เอโก ปฏิพาหติ, สุปฏิพาหิตํ; โน เจ ปฏิพาหติ, กติกา สุกตาฯ ปจฺฉา เตสํ ตตฺถ วสิตฺวา อาคตานํ อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ, อปโลกนกาเล ปฏิพาหิตุํ น ลพฺภตี’’ติฯ ปุนปิ วุตฺตํ – ‘‘สเจ วสฺสูปคเตสุ เอกจฺจานํ วสฺสาวาสิเก อปาปุณนฺเต ภิกฺขู กติกํ กโรนฺติ – ‘ฉินฺนวสฺสานํ วสฺสาวาสิกญฺจ อิทานิ อุปฺปชฺชนกวสฺสาวาสิกญฺจ อิเมสํ ทาตุํ รุจฺจตี’ติ เอวํ กติกาย กตาย คาหิตสทิสเมว โหติ, อุปฺปนฺนุปฺปนฺนํ เตสเมว ทาตพฺพ’’นฺติฯ

เตมาสํ ปานียํ อุปฏฺฐาเปตฺวา วิหารมคฺคเจติยงฺคณโพธิยงฺคณานิ ชคฺคิตฺวา โพธิรุกฺเข อุทกํ สิญฺจิตฺวา ปกฺกนฺโตปิ วิพฺภนฺโตปิ วสฺสาวาสิกํ ลภติเยวฯ ภตินิวิฏฺฐญฺหิ เตน กตํฯ สงฺฆิกํ ปน อปโลกนกมฺมํ กตฺวา คาหิตํ อนฺโตวสฺเส วิพฺภนฺโตปิ ลภเตวฯ ปจฺจยวเสน คาหิตํ ปน น ลภตีติ วทนฺติฯ

สเจ วุตฺถวสฺโส ทิสํคมิโก ภิกฺขุ อาวาสิกสฺส หตฺถโต กิญฺจิเทว กปฺปิยภณฺฑํ คเหตฺวา ‘‘อสุกกุเล มยฺหํ วสฺสาวาสิกํ ปตฺตํ, ตํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา คตฏฺฐาเน วิพฺภมติ, วสฺสาวาสิกํ สงฺฆิกํ โหติฯ สเจ ปน มนุสฺเส สมฺมุขา สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา คจฺฉติ, ลภติฯ ‘‘อิทํ วสฺสาวาสิกํ อมฺหากํ เสนาสเน วุตฺถภิกฺขุโน เทมา’’ติ วุตฺเต, ยสฺส คาหิตํ ตสฺเสว โหติฯ สเจ ปน เสนาสนสามิกสฺส ปิยกมฺยตาย ปุตฺตธีตาทโย พหูนิ วตฺถานิ อาหริตฺวา ‘‘อมฺหากํ เสนาสเน เทมา’’ติ เทนฺติ, ตตฺถ วสฺสูปคตสฺส เอกเมว วตฺถํ ทาตพฺพํ, เสสานิ สงฺฆิกานิ โหนฺติ, วสฺสาวาสิกฏฺฐิติกาย คาเหตพฺพานิฯ ฐิติกาย อสติ เถราสนโต ปฏฺฐาย คาเหตพฺพานิฯ เสนาสเน วสฺสูปคตํ ภิกฺขุํ นิสฺสาย อุปฺปนฺเนน จิตฺตปฺปสาเทน พหูนิ วตฺถานิ อาหริตฺวา ‘‘เสนาสนสฺส เทมา’’ติ ทินฺเนสุปิ เอเสว นโยฯ สเจ ปน ปาทมูเล ฐเปตฺวา ‘‘เอตสฺส ภิกฺขุโน เทมา’’ติ วทนฺติ, ตสฺเสว โหนฺติฯ

เอกสฺส เคเห ทฺเว วสฺสาวาสิกานิ – ปฐมภาโค สามเณรสฺส คาหิโต โหติ, ทุติโย เถราสเนฯ โส เอกํ ทสหตฺถํ, เอกํ อฏฺฐหตฺถํ สาฏกํ เปเสติ ‘‘วสฺสาวาสิกํ ปตฺตภิกฺขูนํ เทถา’’ติ วิจินิตฺวา วรภาคํ สามเณรสฺส ทตฺวา อนุภาโค เถราสเน ทาตพฺโพฯ สเจ ปน อุโภปิ ฆรํ เนตฺวา โภเชตฺวา สยเมว ปาทมูเล ฐเปติ, ยํ ยสฺส ทินฺนํ, ตเทว ตสฺส โหติฯ

อิโต ปรํ มหาปจฺจริยํ อาคตนโย โหติ – ‘‘เอกสฺส ฆเร ทหรสามเณรสฺส วสฺสาวาสิกํ ปาปุณาติ, โส เจ ปุจฺฉติ – ‘อมฺหากํ วสฺสาวาสิกํ กสฺส ปตฺต’นฺติ, ‘สามเณรสฺสา’ติ อวตฺวา ‘ทานกาเล ชานิสฺสสี’ติ วตฺวา ทานทิวเส เอกํ มหาเถรํ เปเสตฺวา นีหราเปตพฺพํฯ สเจ ยสฺส วสฺสาวาสิกํ ปตฺตํ, โส วิพฺภมติ วา กาลํ วา กโรติ, มนุสฺสา เจ ปุจฺฉนฺติ – ‘กสฺส อมฺหากํ วสฺสาวาสิกํ ปตฺต’นฺติ, เตสํ ยถาภูตํ อาจิกฺขิตพฺพํฯ สเจ เต วทนฺติ – ‘ตุมฺหากํ เทมา’ติ, ตสฺส ภิกฺขุโน ปาปุณาติฯ อถ สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา เทนฺติ, สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา ปาปุณาติฯ สเจ วสฺสูปคตา สุทฺธปํสุกูลิกาเยว โหนฺติ, อาเนตฺวา ทินฺนํ วสฺสาวาสิกํ เสนาสนปริกฺขารํ วา กตฺวา ฐเปตพฺพํ, พิมฺโพหนาทีนิ วา กาตพฺพานี’’ติฯ อิทํ เนวาสิกวตฺตํฯ

เสนาสนคฺคาหกถา นิฏฺฐิตาฯ

อุปนนฺทวตฺถุกถา

[319] อุปนนฺทวตฺถุสฺมิํ ตตฺถ ตยา โมฆปุริส คหิตํ อิธ มุตฺตํ, อิธ ตยา คหิตํ ตตฺร มุตฺตนฺติ เอตฺถ อยมตฺโถ – ยํ ตยา ตตฺถ เสนาสนํ คหิตํ, ตํ เต คณฺหนฺเตเนว อิธ มุตฺตํ โหติฯ ‘‘อิธ ทานาหํ, อาวุโส, มุญฺจามี’’ติ วทนฺเตน ปน ตํ ตตฺราปิ มุตฺตํฯ เอวํ ตฺวํ อุภยตฺถ ปริพาหิโรติฯ

อยํ ปเนตฺถ วินิจฺฉโย – คหเณน คหณํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, คหเณน อาลโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, อาลเยน คหณํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, อาลเยน อาลโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติฯ กถํ? อิเธกจฺโจ วสฺสูปนายิกทิวเส เอกสฺมิํ วิหาเร เสนาสนํ คเหตฺวา สามนฺตวิหารํ คนฺตฺวา ตตฺราปิ คณฺหาติ, ตสฺส อิมินา คหเณน ปุริมํ คหณํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติฯ อปโร ‘‘อิธ วสิสฺสามี’’ติ อาลยมตฺตํ กตฺวา สามนฺตวิหารํ คนฺตฺวา ตตฺถ เสนาสนํ คณฺหาติ, ตสฺส อิมินา คหเณน ปุริโม อาลโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติฯ