เมนู

เอโกปิ วิเทสํ คนฺตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจติ, อาปุจฺฉิตฺวา เจ คโต, ปพฺพาเชตพฺโพฯ โน เจ ทหรภิกฺขุํ เปเสตฺวา อาปุจฺฉาเปตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ, อติทูรญฺเจ โหติ; ปพฺพาเชตฺวาปิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ เปเสตฺวา ทสฺเสตุํ วฏฺฏติฯ กุรุนฺทิยํ ปน วุตฺตํ – ‘‘สเจ ทูรํ โหติ มคฺโค จ มหากนฺตาโร, ‘คนฺตฺวา อาปุจฺฉิสฺสามา’ติ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตี’’ติฯ สเจ ปน มาตาปิตูนํ พหู ปุตฺตา โหนฺติ, เอวญฺจ วทนฺติ – ‘‘ภนฺเต เอเตสํ ทารกานํ ยํ อิจฺฉถ, ตํ ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติฯ ทารเก วีมํสิตฺวา ยํ อิจฺฉติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพฯ สเจปิ สกเลน กุเลน วา คาเมน วา อนุญฺญาตํ โหติ ‘‘ภนฺเต อิมสฺมิํ กุเล วา คาเม วา ยํ อิจฺฉถ, ตํ ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติฯ ยํ อิจฺฉติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพติฯ

ยาวตเก วา ปน อุสฺสหตีติ ยตฺตเก สกฺโกติฯ

ราหุลวตฺถุกถา นิฏฺฐิตาฯ

สิกฺขาปททณฺฑกมฺมวตฺถุกถา

[106] ทสสุ สิกฺขาปเทสุ ปุริมานํ ปญฺจนฺนํ อติกฺกโม นาสนวตฺถุ , ปจฺฉิมานํ อติกฺกโม ทณฺฑกมฺมวตฺถุฯ

[107] อปฺปติสฺสาติ ภิกฺขู เชฏฺฐกฏฺฐาเน อิสฺสริยฏฺฐาเน น ฐเปนฺติฯ อสภาควุตฺติกาติ สมานชีวิกา น ภวนฺติ, วิสภาคชีวิกาติ อตฺโถฯ อลาภาย ปริสกฺกตีติ ยถา ลาภํ น ลภนฺติ; เอวํ ปรกฺกมติฯ อนตฺถายาติ อุปทฺทวายฯ อวาสายาติ ‘‘กินฺติ อิมสฺมิํ อาวาเส น วเสยฺยุ’’นฺติ ปรกฺกมติฯ อกฺโกสติ ปริภาสตีติ อกฺโกสติ เจว ภยทสฺสเนน จ ตชฺเชติฯ เภเทตีติ เปสุญฺญํ อุปสํหริตฺวา เภเทติฯ อาวรณํ กาตุนฺติ ‘‘มา อิธ ปวิสา’’ติ นิวารณํ กาตุํฯ ยตฺถ วา วสติ ยตฺถ วา ปฏิกฺกมตีติ ยตฺถ วสติ วา ปวิสติ วา; อุภเยนาปิ อตฺตโน ปริเวณญฺจ วสฺสคฺเคน ปตฺตเสนาสนญฺจ วุตฺตํฯ

มุขทฺวาริกํ อาหารํ อาวรณํ กโรนฺตีติ ‘‘อชฺช มา ขาท, มา ภุญฺชา’’ติ เอวํ นิวาเรนฺติฯ

น ภิกฺขเว มุขทฺวาริโก อาหาโร อาวรณํ กาตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘มา ขาท, มา ภุญฺชา’’ติ วทโตปิ ‘‘อาหารํ นิวาเรสฺสามี’’ติ ปตฺตจีวรํ อนฺโต นิกฺขิปโตปิ สพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏํฯ อนาจารสฺส ปน ทุพฺพจสามเณรสฺส ทณฺฑกมฺมํ กตฺวา ยาคุํ วา ภตฺตํ วา ปตฺตจีวรํ วา ทสฺเสตฺวา ‘‘เอตฺตเก นาม ทณฺฑกมฺเม อาหเฏ อิทํ ลจฺฉสี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติฯ ภควตา หิ อาวรณเมว ทณฺฑกมฺมํ วุตฺตํฯ ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปน อปราธานุรูปํ อุทกทารุวาลิกาทีนํ อาหราปนมฺปิ กาตพฺพนฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา ตมฺปิ กาตพฺพํฯ ตญฺจ โข ‘‘โอรมิสฺสติ วิรมิสฺสตี’’ติ อนุกมฺปาย, น ‘‘นสฺสิสฺสติ วิพฺภมิสฺสตี’’ติอาทินยปฺปวตฺเตน ปาปชฺฌาสเยน ‘‘ทณฺฑกมฺมํ กโรมี’’ติ จ อุณฺหปาสาเณ วา นิปชฺชาเปตุํ ปาสาณิฏฺฐกาทีนิ วา สีเส นิกฺขิปาเปตุํ อุทกํ วา ปเวเสตุํ น วฏฺฏติฯ

สิกฺขาปททณฺฑกมฺมวตฺถุกถา นิฏฺฐิตาฯ

อนาปุจฺฉาวรณวตฺถุอาทิกถา

[108] ภิกฺขเว อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉาติ เอตฺถ ‘‘ตุมฺหากํ สามเณรสฺส อยํ นาม อปราโธ, ทณฺฑกมฺมมสฺส กโรถา’’ติ ติกฺขตฺตุํ วุตฺเต, สเจ อุปชฺฌาโย ทณฺฑกมฺมํ น กโรติ, สยํ กาตุํ วฏฺฏติฯ สเจปิ อาทิโตว อุปชฺฌาโย วทติ ‘‘มยฺหํ สามเณรานํ โทเส สติ ตุมฺเห ทณฺฑกมฺมํ กโรถา’’ติ กาตุํ วฏฺฏติเยวฯ ยถา จ สามเณรานํ เอวํ สทฺธิวิหาริกนฺเตวาสิกานมฺปิ ทณฺฑกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติฯ

อปลาเฬนฺตีติ ‘‘ตุมฺหากํ ปตฺตํ ทสฺสาม, จีวรํ ทสฺสามา’’ติ อตฺตโน อุปฏฺฐานกรณตฺถํ สงฺคณฺหนฺติฯ น ภิกฺขเว อญฺญสฺส ปริสา อปลาเฬตพฺพาติ เอตฺถ สามเณรา วา โหนฺตุ อุปสมฺปนฺนา วา, อนฺตมโส ทุสฺสีลภิกฺขุสฺสาปิ ปรสฺส ปริสภูเต ภินฺทิตฺวา คณฺหิตุํ น วฏฺฏติ, อาทีนวํ ปน วตฺตุํ วฏฺฏติ ‘‘ตยา นฺหายิตุํ อาคเตน คูถมกฺขนํ วิย กตํ ทุสฺสีลํ นิสฺสาย วิหรนฺเตนา’’ติฯ สเจ โส สยเมว ชานิตฺวา อุปชฺฌํ วา นิสฺสยํ วา ยาจติ, ทาตุํ วฏฺฏติฯ

อนุชานามิ ภิกฺขเว ทสหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ สามเณรํ นาเสตุนฺติ เอตฺถ กณฺฏกสิกฺขาปทวณฺณนายํ วุตฺตาสุ ตีสุ นาสนาสุ ลิงฺคนาสนาว อธิปฺเปตา, ตสฺมา โย ปาณาติปาตาทีสุ เอกมฺปิ กมฺมํ กโรติ, โส ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺโพฯ ยถา จ ภิกฺขูนํ ปาณาติปาตาทีสุ นานาอาปตฺติโย โหนฺติ, น ตถา สามเณรานํฯ