เมนู

อนุชานามิ ภิกฺขเว ราชูนํ อนุวตฺติตุนฺติ เอตฺถ วสฺสุกฺกฑฺฒเน ภิกฺขูนํ กาจิ ปริหานิ นาม นตฺถีติ อนุวตฺติตุํ อนุญฺญาตํ, ตสฺมา อญฺญสฺมิมฺปิ ธมฺมิเก กมฺเม อนุวตฺติตพฺพํฯ อธมฺมิเก ปน น กสฺสจิ อนุวตฺติตพฺพํฯ

สตฺตาหกรณียานุชานนกถา

[187-8] สตฺตาหกรณีเยสุ – สตฺตาหกรณีเยน คนฺตุนฺติ สตฺตาหพฺภนฺตเร ยํ กตฺตพฺพํ ตํ สตฺตาหกรณียํ, เตน สตฺตาหกรณีเยน กรณภูเตน คนฺตุํ อนุชานามีติ อตฺโถฯ ปหิเต คนฺตุนฺติ อิเมหิ สตฺตหิ ภิกฺขุอาทีหิ ทูเต ปหิเตเยว คนฺตุํ อนุชานามีติ อตฺโถฯ สตฺตาหํ สนฺนิวตฺโต กาตพฺโพติ สตฺตาเหเยว สนฺนิวตฺติตพฺโพ, อฏฺฐโม อรุโณ ตตฺเถว น อุฏฺฐาเปตพฺโพติ อตฺโถฯ

ภิกฺขุนิสงฺฆํ อุทฺทิสฺสาติ อิโต ปฏฺฐาย วจฺจกุฏิ ชนฺตาฆรํ ชนฺตาฆรสาลาติ อิมานิ ตีณิ ปริหีนานิฯ

[189] อุโทสิตาทีนิ อุโทสิตสิกฺขาปทาทีสุ วุตฺตาเนวฯ รสวตีติ ภตฺตเคหํ วุจฺจติฯ วาเรยฺยํ สญฺจริตฺตสิกฺขาปเท วุตฺตเมวฯ ปุรายํ สุตฺตนฺโต ปลุชฺชตีติ ยาว อยํ สุตฺตนฺโต น ปลุชฺชติ, ยาว อยํ สุตฺตนฺโต น วินสฺสติฯ อญฺญตรํ วา ปนสฺส กิจฺจํ โหติ กรณียํ วาติ เอเตน ปริสงฺขตํ ยํกิญฺจิ กรณียํ สงฺคหิตํ โหติฯ สพฺพตฺถ จ ‘‘อิจฺฉามิ ทานญฺจ ทาตุํ ธมฺมญฺจ โสตุํ ภิกฺขู จ ปสฺสิตุ’’นฺติ อิมินาว กปฺปิยวจเนน เปสิเต คนฺตพฺพํ, เอเตสํ วา เววจเนนฯ เปยฺยาลกฺกโม ปน เอวํ เวทิตพฺโพ, ยถา ‘‘อุปาสเกน สงฺฆํ อุทฺทิสฺส วิหาราทโย การาปิตา โหนฺติ, สมฺพหุเล ภิกฺขู อุทฺทิสฺส, เอกํ ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส, ภิกฺขุนิสงฺฆํ อุทฺทิสฺส, สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย, เอกํ ภิกฺขุนิํ, สมฺพหุลา สิกฺขมานาโย, เอกํ สิกฺขมานํ, สมฺพหุเล สามเณเร, เอกํ สามเณรํ, สมฺพหุลา สามเณริโย, เอกํ สามเณริํ อุทฺทิสฺส อตฺตโน อตฺถาย นิเวสนํ การาปิตํ โหตี’’ติ วุตฺตํ; เอวเมว ‘‘อุปาสิกาย, ภิกฺขุนา, ภิกฺขุนิยา, สิกฺขมานาย, สามเณเรน, สามเณริยา สงฺฆํ อุทฺทิสฺสา’’ติ สพฺพํ วตฺตพฺพํฯ เอเตสุ สตฺตปฺปกาเรสุ กรณีเยสุ ปหิเต คนฺตพฺพํฯ

ปญฺจนฺนํอปฺปหิเตปิอนุชานนกถา

[193] ปญฺจนฺนํ สตฺตาหกรณีเยนาติ เอเตสํ ภิกฺขุอาทีนํ สหธมฺมิกานํ ‘‘คิลานภตฺตํ วา คิลานุปฏฺฐากภตฺตํ วา เภสชฺชํ วา ปริเยสิสฺสามิ , ปุจฺฉิสฺสามิ วา, อุปฏฺฐหิสฺสามิ วา’’ติ เอวมาทินา ปรโต วิตฺถาเรตฺวา ทสฺสิเตน การเณน อปฺปหิเตปิ คนฺตพฺพํ, ปเคว ปหิเตฯ ภิกฺขุ คิลาโน โหติ, อนภิรติ อุปฺปนฺนา โหติ, กุกฺกุจฺจํ อุปฺปนฺนํ โหติ, ทิฏฺฐิคตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน โหติ ปริวาสารโห, มูลาย ปฏิกสฺสนารโห โหติ, มานตฺตารโห, อพฺภานารโห, สงฺโฆ กมฺมํ กตฺตุกาโม โหติ, กตํ วา สงฺเฆน กมฺมํ โหตีติ เอเตหิ ทสหิ การเณหิ ภิกฺขุสฺส สนฺติกํ คนฺตพฺพํฯ ภิกฺขุนิยา สนฺติกํ นวหิ การเณหิ คนฺตพฺพํ, สิกฺขมานาย สนฺติกํ ฉหิ – อาทิโต จตูหิ, สิกฺขา กุปฺปิตา โหติ, อุปสมฺปชฺชิตุกามา โหตีติฯ สามเณรสฺสาปิ ฉหิ – อาทิโต จตูหิ, วสฺสํ ปุจฺฉิตุกาโม อุปสมฺปชฺชิตุกาโม โหตีติฯ สามเณริยา อุปสมฺปทํ อปเนตฺวา สิกฺขาปทํ ทาตุกาโม โหตีติ อิมินา สทฺธิํ ปญฺจหิฯ ปรโต มาตาปิตูนํ อนุญฺญาตฏฺฐาเนปิ เอเสว นโยฯ อนฺธกฏฺฐกถายํ ปน ‘‘เย มาตาปิตูนํ อุปฏฺฐากา ญาตกา วา อญฺญาตกา วา เตสมฺปิ อปฺปหิเต คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ เนว อฏฺฐกถายํ, น ปาฬิยา วุตฺตํ, ตสฺมา น คเหตพฺพํฯ

ปหิเตเยวอนุชานนกถา

[199] ภิกฺขุคติโกติ เอกสฺมิํ วิหาเร ภิกฺขูหิ สทฺธิํ วสนกปุริโสฯ อุนฺทฺริยตีติ ปลุชฺชติฯ ภณฺฑํ เฉทาปิตนฺติ ทพฺพสมฺภารภณฺฑํ เฉทาปิตํฯ อาวหาเปยฺยุนฺติ อาหราเปยฺยุํฯ ทชฺชาหนฺติ ทชฺเช อหํฯ สงฺฆกรณีเยนาติ เอตฺถ ยํกิญฺจิ อุโปสถาคาราทีสุ เสนาสเนสุ เจติยฉตฺตเวทิกาทีสุ วา กตฺตพฺพํ, อนฺตมโส ภิกฺขุโน ปุคฺคลิกเสนาสนมฺปิ, สพฺพํ สงฺฆกรณียเมวฯ ตสฺมา ตสฺส นิปฺผาทนตฺถํ ทพฺพสมฺภาราทีนิ วา อาหริตุํ วฑฺฒกีปฺปภุตีนํ ภตฺตเวตนาทีนิ วา ทาเปตุํ คนฺตพฺพํฯ

อยํ ปเนตฺถ ปาฬิมุตฺตกรตฺติจฺเฉทวินิจฺฉโย – ธมฺมสวนตฺถาย อนิมนฺติเตน คนฺตุํ น วฏฺฏติฯ สเจ เอกสฺมิํ มหาวาเส ปฐมํเยว กติกา กตา โหติ – ‘‘อสุกทิวสํ นาม สนฺนิปติตพฺพ’’นฺติ , นิมนฺติโตเยว นาม โหติ, คนฺตุํ วฏฺฏติฯ ‘‘ภณฺฑกํ โธวิสฺสามี’’ติ คนฺตุํ น วฏฺฏติฯ