เมนู

3. วสฺสูปนายิกกฺขนฺธกํ

วสฺสูปนายิกานุชานนกถา

[184] วสฺสูปนายิกกฺขนฺธเก อปญฺญตฺโตติ อนนุญฺญาโต อสํวิหิโต วาฯ เต อิธ ภิกฺขูติ เต ภิกฺขู, อิธสทฺโท นิปาตมตฺโตฯ สงฺฆาตํ อาปาเทนฺตาติ วินาสํ อาปาเทนฺตาฯ สงฺกสายิสฺสนฺตีติ อปฺโปสฺสุกฺกา นิพทฺธวาสํ วสิสฺสนฺติฯ สกุนฺตกาติ สกุณาฯ วสฺสาเน วสฺสํ อุปคนฺตุนฺติ วสฺสานนามเก เตมาเส วสฺสํ อุปคนฺตพฺพนฺติ อตฺโถฯ กติ นุ โข วสฺสูปนายิกาติ กติ นุ โข วสฺสูปคมนานิฯ อปรชฺชุคตายาติ เอตฺถ อปรชฺชุคตาย อสฺสาติ อปรชฺชุคตา, ตสฺสา อปรชฺชุคตาย; อติกฺกนฺตาย อปรสฺมิํ ทิวเสติ อตฺโถฯ ทุติยนเยปิ มาโส คตาย อสฺสาติ มาสคตา, ตสฺสา มาสคตาย; อติกฺกนฺตาย มาเส ปริปุณฺเณติ อตฺโถฯ ตสฺมา อาสาฬฺหีปุณฺณมาย อนนฺตเร ปาฏิปททิวเส, อาสาฬฺหีปุณฺณมิโต วา อปราย ปุณฺณมาย อนนฺตเร ปาฏิปททิวเสเยว วิหารํ ปฏิชคฺคิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺฐเปตฺวา สพฺพํ เจติยวนฺทนาทิสามีจิกมฺมํ นิฏฺฐาเปตฺวา ‘‘อิมสฺมิํ วิหาเร อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมี’’ติ สกิํ วา ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ วา วาจํ นิจฺฉาเรตฺวา วสฺสํ อุปคนฺตพฺพํฯ

วาจํ นิจฺฉาเรตฺวา วสฺสํ อุปคนฺตพฺพํฯ

วสฺสาเนจาริกาปฏิกฺเขปาทิกถา

[185-6] โย ปกฺกเมยฺยาติ เอตฺถ อนเปกฺขคมเนน วา อญฺญตฺถ อรุณํ อุฏฺฐาปเนน วา อาปตฺติ เวทิตพฺพาฯ โย อติกฺกเมยฺยาติ เอตฺถ วิหารคณนาย อาปตฺติโย เวทิตพฺพาฯ สเจ หิ ตํ ทิวสํ วิหารสตสฺส อุปจารํ โอกฺกมิตฺวา อติกฺกมติ, สตํ อาปตฺติโยฯ สเจ ปน วิหารูปจารํ อติกฺกมิตฺวา อญฺญสฺส วิหารสฺส อุปจารํ อโนกฺกมิตฺวาว นิวตฺตติ, เอกา เอว อาปตฺติฯ เกนจิ อนฺตราเยน ปุริมิกํ อนุปคเตน ปจฺฉิมิกา อุปคนฺตพฺพาฯ

วสฺสํ อุกฺกฑฺฒิตุกาโมติ วสฺสนามกํ ปฐมมาสํ อุกฺกฑฺฒิตุกาโม, สาวณมาสํ อกตฺวา ปุน อาสาฬฺหีมาสเมว กตฺตุกาโมติ อตฺโถฯ อาคเม ชุณฺเหติ อาคเม มาเสติ อตฺโถฯ

อนุชานามิ ภิกฺขเว ราชูนํ อนุวตฺติตุนฺติ เอตฺถ วสฺสุกฺกฑฺฒเน ภิกฺขูนํ กาจิ ปริหานิ นาม นตฺถีติ อนุวตฺติตุํ อนุญฺญาตํ, ตสฺมา อญฺญสฺมิมฺปิ ธมฺมิเก กมฺเม อนุวตฺติตพฺพํฯ อธมฺมิเก ปน น กสฺสจิ อนุวตฺติตพฺพํฯ

สตฺตาหกรณียานุชานนกถา

[187-8] สตฺตาหกรณีเยสุ – สตฺตาหกรณีเยน คนฺตุนฺติ สตฺตาหพฺภนฺตเร ยํ กตฺตพฺพํ ตํ สตฺตาหกรณียํ, เตน สตฺตาหกรณีเยน กรณภูเตน คนฺตุํ อนุชานามีติ อตฺโถฯ ปหิเต คนฺตุนฺติ อิเมหิ สตฺตหิ ภิกฺขุอาทีหิ ทูเต ปหิเตเยว คนฺตุํ อนุชานามีติ อตฺโถฯ สตฺตาหํ สนฺนิวตฺโต กาตพฺโพติ สตฺตาเหเยว สนฺนิวตฺติตพฺโพ, อฏฺฐโม อรุโณ ตตฺเถว น อุฏฺฐาเปตพฺโพติ อตฺโถฯ

ภิกฺขุนิสงฺฆํ อุทฺทิสฺสาติ อิโต ปฏฺฐาย วจฺจกุฏิ ชนฺตาฆรํ ชนฺตาฆรสาลาติ อิมานิ ตีณิ ปริหีนานิฯ

[189] อุโทสิตาทีนิ อุโทสิตสิกฺขาปทาทีสุ วุตฺตาเนวฯ รสวตีติ ภตฺตเคหํ วุจฺจติฯ วาเรยฺยํ สญฺจริตฺตสิกฺขาปเท วุตฺตเมวฯ ปุรายํ สุตฺตนฺโต ปลุชฺชตีติ ยาว อยํ สุตฺตนฺโต น ปลุชฺชติ, ยาว อยํ สุตฺตนฺโต น วินสฺสติฯ อญฺญตรํ วา ปนสฺส กิจฺจํ โหติ กรณียํ วาติ เอเตน ปริสงฺขตํ ยํกิญฺจิ กรณียํ สงฺคหิตํ โหติฯ สพฺพตฺถ จ ‘‘อิจฺฉามิ ทานญฺจ ทาตุํ ธมฺมญฺจ โสตุํ ภิกฺขู จ ปสฺสิตุ’’นฺติ อิมินาว กปฺปิยวจเนน เปสิเต คนฺตพฺพํ, เอเตสํ วา เววจเนนฯ เปยฺยาลกฺกโม ปน เอวํ เวทิตพฺโพ, ยถา ‘‘อุปาสเกน สงฺฆํ อุทฺทิสฺส วิหาราทโย การาปิตา โหนฺติ, สมฺพหุเล ภิกฺขู อุทฺทิสฺส, เอกํ ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส, ภิกฺขุนิสงฺฆํ อุทฺทิสฺส, สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย, เอกํ ภิกฺขุนิํ, สมฺพหุลา สิกฺขมานาโย, เอกํ สิกฺขมานํ, สมฺพหุเล สามเณเร, เอกํ สามเณรํ, สมฺพหุลา สามเณริโย, เอกํ สามเณริํ อุทฺทิสฺส อตฺตโน อตฺถาย นิเวสนํ การาปิตํ โหตี’’ติ วุตฺตํ; เอวเมว ‘‘อุปาสิกาย, ภิกฺขุนา, ภิกฺขุนิยา, สิกฺขมานาย, สามเณเรน, สามเณริยา สงฺฆํ อุทฺทิสฺสา’’ติ สพฺพํ วตฺตพฺพํฯ เอเตสุ สตฺตปฺปกาเรสุ กรณีเยสุ ปหิเต คนฺตพฺพํฯ