โส น ชานาติ อุโปสถํ วาติอาทีสุ จาตุทฺทสิกปนฺนรสิกเภเทน ทุวิธํ, สงฺฆอุโปสถาทิเภเทน นววิธญฺจ อุโปสถํ น ชานาติ, จตุพฺพิธํ อุโปสถกมฺมํ น ชานาติ, ทุวิธํ ปาติโมกฺขํ น ชานาติ, นววิธํ ปาติโมกฺขุทฺเทสํ น ชานาติฯ โย ตตฺถ ภิกฺขุ พฺยตฺโต ปฏิพโลติ เอตฺถ กิญฺจาปิ ทหรสฺสาปิ พฺยตฺตสฺส ปาติโมกฺโข อนุญฺญาโตฯ อถ โข เอตฺถ อยมธิปฺปาโยฯ สเจ เถรสฺส ปญฺจ วา จตฺตาโร วา ตโย วา ปาติโมกฺขุทฺเทสา นาคจฺฉนฺติ; ทฺเว ปน อขณฺฑา สุวิสทา วาจุคฺคตา โหนฺติ, เถรายตฺโตว ปาติโมกฺขาฯ สเจ ปน เอตฺตกมฺปิ วิสทํ กาตุํ น สกฺโกติ, พฺยตฺตสฺส ภิกฺขุโน อายตฺโต โหติฯ
สามนฺตา อาวาสาติ สามนฺตํ อาวาสํฯ สชฺชุกนฺติ ตทเหว อาคมนตฺถายฯ นวํ ภิกฺขุํ อาณาเปตุนฺติ เอตฺถ โย สกฺโกติ อุคฺคเหตุํ, เอวรูโป อาณาเปตพฺโพ, น พาโลฯ
ปกฺขคณนาทิอุคฺคหณานุชานนกถา
[156] กติมี ภนฺเตติ เอตฺถ กตีนํ ปูรณีติ กติมีฯ กาลวโตติ กาลสฺเสว; ปเควาติ อตฺโถฯ
[158] ยํ กาลํ สรตีติ เอตฺถ สายมฺปิ ‘‘อชฺชุโปสโถ สมนฺนาหรถา’’ติ อาโรเจตุํ วฏฺฏติฯ
[159] เถเรน ภิกฺขุนา นวํ ภิกฺขุํ อาณาเปตุนฺติ เอตฺถาปิ กิญฺจิ กมฺมํ กโรนฺโต วา สทากาลเมว เอโก วา ภารนิตฺถรณโก วา สรภาณกธมฺมกถิกาทีสุ อญฺญตโร วา น อุโปสถาคารสมฺมชฺชนตฺถํ อาณาเปตพฺโพ, อวเสสา ปน วาเรน อาณาเปตพฺพาฯ สเจ อาณตฺโต สมฺมุญฺชนิํ ตาวกาลิกมฺปิ น ลภติ, สาขาภงฺคํ กปฺปิยํ กาเรตฺวา สมฺมชฺชิตพฺพํ, ตมฺปิ อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติฯ
[160] อาสนปญฺญาปนาณตฺติยมฺปิ วุตฺตนเยเนว อาณาเปตพฺโพฯ อาณตฺเตน จ สเจ อุโปสถาคาเร อาสนานิ นตฺถิ, สงฺฆิกาวาสโตปิ อาหริตฺวา ปญฺญเปตฺวา ปุน อาหริตพฺพานิฯ