เมนู

7. สตฺตมสิกฺขาปทวณฺณนา

[1208-9] สตฺตเม – อุมฺมทฺทาเปติ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ เอตฺถ หตฺถํ อโมเจตฺวา อุมฺมทฺทเน เอกาว อาปตฺติ, โมเจตฺวา โมเจตฺวา อุมฺมทฺทเน ปโยคคณนาย อาปตฺติโยฯ สมฺพาหเนปิ เอเสว นโยฯ คิลานายาติ อนฺตมโส มคฺคคมนปริสฺสเมนาปิ สาพาธายฯ อาปทาสูติ โจรภยาทีหิ สรีรกมฺปนาทีสุฯ เสสํ อุตฺตานเมวฯ สมุฏฺฐานาทีนิ ตติยสทิสาเนวาติฯ

สตฺตมสิกฺขาปทํฯ

8-9-10. อฏฺฐมนวมทสมสิกฺขาปทวณฺณนา

[1210] อฏฺฐมาทีสุ ตีสุ สิกฺขมานาย สามเณริยา, คิหินิยาติ อิทเมว นานากรณํ, เสสํ สตฺตเม วุตฺตสทิสเมวาติฯ

อฏฺฐมนวมทสมสิกฺขาปทานิฯ

11. เอกาทสมสิกฺขาปทวณฺณนา

[1214] เอกาทสเม – ภิกฺขุสฺส ปุรโตติ อภิมุขเมวาติ อตฺโถฯ อิทํ ปน อุปจารํ สนฺธาย กถิตนฺติ เวทิตพฺพํฯ เสสํ อุตฺตานเมวฯ กถินสมุฏฺฐานํ – กายวาจโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺฐาติ, กิริยากิริยํ, โนสญฺญาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติฯ

เอกาทสมสิกฺขาปทํฯ

12. ทฺวาทสมสิกฺขาปทวณฺณนา

[1219-23] ทฺวาทสเม – อโนกาสกตนฺติ อสุกสฺมิํ นาม ฐาเน ปุจฺฉามีติ เอวํ อกตโอกาสํฯ เตเนวาห – ‘‘อโนกาสกตนฺติ อนาปุจฺฉา’’ติ อโนทิสฺสาติ อสุกสฺมิํ นาม ฐาเน ปุจฺฉามีติ เอวํ อนิยเมตฺวา เกวลํ ‘‘ปุจฺฉิตพฺพํ อตฺถิ, ปุจฺฉามิ อยฺยา’’ติ เอวํ วตฺวาฯ เสสํ อุตฺตานเมวฯ ปทโสธมฺมสมุฏฺฐานํ – วาจโต วาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺฐาติ, กิริยากิริยํ, โนสญฺญาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติฯ

ทฺวาทสมสิกฺขาปทํฯ

13. เตรสมสิกฺขาปทวณฺณนา

[1226] เตรสเม ปริกฺเขปํ อติกฺกาเมนฺติยาติ เอเกน ปาเทน อติกฺกนฺเต ทุกฺกฏํ, ทุติเยน ปาจิตฺติยํฯ อุปจาเรปิ เอเสว นโยฯ

[1227] อจฺฉินฺนจีวริกายาติอาทีสุ สงฺกจฺจิกจีวรเมว จีวรนฺติ เวทิตพฺพํฯ อาปทาสูติ มหคฺฆํ โหติ สงฺกจฺจิกํ, ปารุปิตฺวา คจฺฉนฺติยาว อุปทฺทโว อุปฺปชฺชติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ อนาปตฺติฯ เสสํ อุตฺตานเมวฯ เอฬกโลมสมุฏฺฐานํ – กิริยํ, โนสญฺญาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติฯ

เตรสมสิกฺขาปทํฯ

ฉตฺตุปาหนวคฺโค นวโมฯ

อุทฺทิฏฺฐา โข อยฺยาโย ฉสฏฺฐิสตํ ปาจิตฺติยา ธมฺมาติ เอตฺถ สพฺพาเนว ภิกฺขุนีนํ ขุทฺทเกสุ ฉนฺนวุติ, ภิกฺขูนํ ทฺเวนวุตีติ อฏฺฐาสีติสตํ สิกฺขาปทานิ, ตโต สกลํ ภิกฺขุนีวคฺคํ, ปรมฺปรโภชนํ, อนติริตฺตโภชนํ, อนติริตฺเตน อภิหฏฺฐุํ ปวารณํ, ปณีตโภชนวิญฺญตฺติ, อเจลกสิกฺขาปทํ, ทุฏฺฐุลฺลปฏิจฺฉาทนํ, อูนวีสติวสฺสุปสมฺปาทนํ, มาตุคาเมน สทฺธิํ สํวิธาย อทฺธานคมนํ, ราชนฺเตปุรปฺปเวสนํ, สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา วิกาเล คามปฺปเวสนํ, นิสีทนํ วสฺสิกสาฏิกนฺติ อิมานิ ทฺวาวีสติ สิกฺขาปทานิ อปเนตฺวา เสสานิ สตญฺจ ฉสฏฺฐิ จ สิกฺขาปทานิ ปาติโมกฺขุทฺเทสมคฺเคน อุทฺทิฏฺฐานิ โหนฺตีติ เวทิตพฺพานิฯ เตนาห – ‘‘อุทฺทิฏฺฐา โข อยฺยาโย ฉสฏฺฐิสตํ ปาจิตฺติยา ธมฺมา…เป.… เอวเมตํ ธารยามี’’ติฯ

ตตฺรายํ สงฺเขปโต สมุฏฺฐานวินิจฺฉโย – คิรคฺคสมชฺชํ, จิตฺตาคารสิกฺขาปทํ, สงฺฆาณิ, อิตฺถาลงฺกาโร, คนฺธวณฺณโก, วาสิตกปิญฺญาโก, ภิกฺขุนีอาทีหิ อุมฺมทฺทนปริมทฺทนานีติ อิมานิ ทส สิกฺขาปทานิ อจิตฺตกานิ โลกวชฺชานิฯ อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย – วินาปิ จิตฺเตน อาปชฺชิตพฺพตฺตา อจิตฺตกานิ, จิตฺเต ปน สติ อกุสเลเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตา โลกวชฺชานิฯ อวเสสานิ อจิตฺตกานิ, ปณฺณตฺติวชฺชาเนวฯ