เมนู

ตสฺสตฺโถ – สจายํ ทุสฺสีโล อสญฺญโต อิจฺฉาจาเร ฐิโต กุหนาย โลกํ วญฺจโก ปุคฺคโล ตตฺตํ อคฺคิสิขูปมํ อโยคุฬํ ภุญฺเชยฺย อชฺโฌหเรยฺย, ตสฺส ยญฺเจตํ รฏฺฐปิณฺฑํ ภุญฺเชยฺย, ยญฺเจตํ อโยคุฬํ, เตสุ ทฺวีสุ อโยคุโฬว ภุตฺโต เสยฺโย สุนฺทรตโร ปณีตตโร จ ภเวยฺย, น หิ อโยคุฬสฺส ภุตฺตตฺตา สมฺปราเย สพฺพญฺญุตญาเณนาปิ ทุชฺชานปริจฺเฉทํ ทุกฺขํ อนุภวติฯ เอวํ ปฏิลทฺธสฺส ปน ตสฺส รฏฺฐปิณฺฑสฺส ภุตฺตตฺตา สมฺปราเย วุตฺตปฺปการํ ทุกฺขํ อนุโภติ, อยญฺหิ โกฏิปฺปตฺโต มิจฺฉาชีโวติฯ

เอวํ ปาปกิริยาย อนาทีนวทสฺสาวีนํ อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา ‘‘อถ โข ภควา วคฺคุมุทาตีริเย ภิกฺขู อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ทุพฺภรตาย ทุปฺโปสตาย…เป.… อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถา’’ติ จ วตฺวา จตุตฺถปาราชิกํ ปญฺญเปนฺโต ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อนภิชาน’’นฺติ อาทิมาหฯ

เอวํ มูลจฺเฉชฺชวเสน ทฬฺหํ กตฺวา จตุตฺถปาราชิเก ปญฺญตฺเต อปรมฺปิ อนุปฺปญฺญตฺตตฺถาย อธิมานวตฺถุ อุทปาทิฯ ตสฺสุปฺปตฺติทีปนตฺถํ เอตํ วุตฺตํ – ‘‘เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหตี’’ติฯ

อธิมานวตฺถุวณฺณนา

[196] ตตฺถ อทิฏฺเฐ ทิฏฺฐสญฺญิโนติ อรหตฺเต ญาณจกฺขุนา อทิฏฺเฐเยว ‘‘ทิฏฺฐํ อมฺเหหิ อรหตฺต’’นฺติ ทิฏฺฐสญฺญิโน หุตฺวาฯ เอส นโย อปฺปตฺตาทีสุฯ อยํ ปน วิเสโส – อปฺปตฺเตติ อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปตฺติวเสน อปฺปตฺเตฯ อนธิคเตติ มคฺคภาวนาย อนธิคเต; อปฺปฏิลทฺเธติปิ อตฺโถฯ อสจฺฉิกเตติ อปฺปฏิวิทฺเธ ปจฺจเวกฺขณวเสน วา อปฺปจฺจกฺขกเตฯ อธิมาเนนาติ อธิคตมาเนน; ‘‘อธิคตา มย’’นฺติ เอวํ อุปฺปนฺนมาเนนาติ อตฺโถ, อธิกมาเนน วา ถทฺธมาเนนาติ อตฺโถฯ อญฺญํ พฺยากริํสูติ อรหตฺตํ พฺยากริํสุ; ‘‘ปตฺตํ อาวุโส อมฺเหหิ อรหตฺตํ, กตํ กรณีย’’นฺติ ภิกฺขูนํ อาโรเจสุํฯ เตสํ มคฺเคน อปฺปหีนกิเลสตฺตา เกวลํ สมถวิปสฺสนาพเลน วิกฺขมฺภิตกิเลสานํ อปเรน สมเยน ตถารูปปจฺจยสมาโยเค ราคาย จิตฺตํ นมติ; ราคตฺถาย นมตีติ อตฺโถฯ เอส นโย อิตเรสุฯ

ตญฺจ โข เอตํ อพฺโพหาริกนฺติ ตญฺจ โข เอตํ เตสํ อญฺญพฺยากรณํ อพฺโพหาริกํ อาปตฺติปญฺญาปเน โวหารํ น คจฺฉติ; อาปตฺติยา องฺคํ น โหตีติ อตฺโถฯ

กสฺส ปนายํ อธิมาโน อุปฺปชฺชติ, กสฺส นุปฺปชฺชตีติ? อริยสาวกสฺส ตาว นุปฺปชฺชติ โส หิ มคฺคผลนิพฺพานปหีนกิเลสอวสิฏฺฐกิเลสปจฺจเวกฺขเณน สญฺชาตโสมนสฺโส อริยคุณปฏิเวเธ นิกฺกงฺโขฯ ตสฺมา โสตาปนฺนาทีนํ ‘‘อหํ สกทาคามี’’ติอาทิวเสน อธิมาโน นุปฺปชฺชติฯ ทุสฺสีลสฺส นุปฺปชฺชติ, โส หิ อริยคุณาธิคเม นิราโสวฯ สีลวโตปิ ปริจฺจตฺตกมฺมฏฺฐานสฺส นิทฺทารามตาทิมนุยุตฺตสฺส นุปฺปชฺชติฯ สุปริสุทฺธสีลสฺส ปน กมฺมฏฺฐาเน อปฺปมตฺตสฺส นามรูปํ ววตฺถเปตฺวา ปจฺจยปริคฺคเหน วิติณฺณกงฺขสฺส ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺตสฺส อารทฺธวิปสฺสกสฺส อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน จ สุทฺธสมถลาภิํ วา สุทฺธวิปสฺสนาลาภิํ วา อนฺตรา ฐเปติ, โส หิ ทสปิ วีสติปิ ติํสมฺปิ วสฺสานิ กิเลสสมุทาจารํ อปสฺสิตฺวา ‘‘อหํ โสตาปนฺโน’’ติ วา ‘‘สกทาคามี’’ติ วา ‘‘อนาคามี’’ติ วา มญฺญติฯ สมถวิปสฺสนาลาภิํ ปน อรหตฺเตเยว ฐเปติฯ ตสฺส หิ สมาธิพเลน กิเลสา วิกฺขมฺภิตา, วิปสฺสนาพเลน สงฺขารา สุปริคฺคหิตา, ตสฺมา สฏฺฐิมฺปิ วสฺสานิ อสีติมฺปิ วสฺสานิ วสฺสสตมฺปิ กิเลสา น สมุทาจรนฺติ, ขีณาสวสฺเสว จิตฺตจาโร โหติฯ โส เอวํ ทีฆรตฺตํ กิเลสสมุทาจารํ อปสฺสนฺโต อนฺตรา อฐตฺวาว ‘‘อรหา อห’’นฺติ มญฺญตีติฯ

สวิภงฺคสิกฺขาปทวณฺณนา

[197] อนภิชานนฺติ น อภิชานํฯ ยสฺมา ปนายํ อนภิชานํ สมุทาจรติ, สฺวสฺส สนฺตาเน อนุปฺปนฺโน ญาเณน จ อสจฺฉิกโตติ อภูโต โหติฯ เตนสฺส ปทภาชเน ‘‘อสนฺตํ อภูตํ อสํวิชฺชมาน’’นฺติ วตฺวา ‘‘อชานนฺโต อปสฺสนฺโต’’ติ วุตฺตํ

อุตฺตริมนุสฺสธมฺมนฺติ อุตฺตริมนุสฺสานํ ฌายีนญฺเจว อริยานญฺจ ธมฺมํฯ อตฺตุปนายิกนฺติ อตฺตนิ ตํ อุปเนติ, อตฺตานํ วา ตตฺถ อุปเนตีติ อตฺตุปนายิโก, ตํ อตฺตุปนายิกํ; เอวํ กตฺวา สมุทาจเรยฺยาติ สมฺพนฺโธฯ ปทภาชเน ปน ยสฺมา อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม นาม ฌานํ วิโมกฺขํ สมาธิ สมาปตฺติ ญาณทสฺสนํ…เป.… สุญฺญาคาเร อภิรตีติ เอวํ ฌานาทโย อเนกธมฺมา วุตฺตาฯ