เมนู

อุปาสกตฺตปฏิเวทนากถา

อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตูติ มํ ภวํ โคตโม ‘‘อุปาสโก อย’’นฺติ เอวํ ธาเรตูติ อตฺโถฯ อุปาสกวิธิโกสลฺลตฺถํ ปเนตฺถ โก อุปาสโก, กสฺมา อุปาสโกติ วุจฺจติ, กิมสฺส สีลํ, โก อาชีโว, กา วิปตฺติ, กา สมฺปตฺตีติ อิทํ ปกิณฺณกํ เวทิตพฺพํฯ ตํ อติภาริยกรณโต อิธ น วิภตฺตํ, อตฺถิเกหิ ปน ปปญฺจสูทนิยํ มชฺฌิมฏฺฐกถายํ (ม. นิ. อฏฺฐ. 1.56) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํฯ อชฺชตคฺเคติ เอตฺถ อยํ อคฺคสทฺโท อาทิโกฏิโกฏฺฐาสเสฏฺเฐสุ ทิสฺสติฯ ‘‘อชฺชตคฺเค, สมฺม โทวาริก, อาวรามิ ทฺวารํ นิคณฺฐานํ นิคณฺฐีน’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. 2.70) หิ อาทิมฺหิ ทิสฺสติฯ ‘‘เตเนว องฺคุลคฺเคน ตํ องฺคุลคฺคํ ปรามเสยฺย (กถา. 441), อุจฺฉคฺคํ เวฬคฺค’’นฺติอาทีสุ โกฏิยํฯ ‘‘อมฺพิลคฺคํ วา มธุรคฺคํ วา ติตฺตกคฺคํ วา (สํ. นิ. 5.374) อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วิหารคฺเคน วา ปริเวณคฺเคน วา ภาเชตุ’’นฺติอาทีสุ (จูฬว. 318) โกฏฺฐาเสฯ ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, สตฺตา อปทา วา ทฺวิปทา วา…เป.… ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. 4.34) เสฏฺเฐฯ อิธ ปนายํ อาทิมฺหิ ทฏฺฐพฺโพฯ ตสฺมา อชฺชตคฺเคติ อชฺชตํ อาทิํ กตฺวาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพฯ อชฺชตนฺติ อชฺชภาวนฺติ วุตฺตํ โหติฯ อชฺชทคฺเค อิจฺเจว วา ปาโฐ, ทกาโร ปทสนฺธิกโร, อชฺช อคฺคํ กตฺวาติ วุตฺตํ โหติฯ ปาณุเปตนฺติ ปาเณหิ อุเปตํ, ยาว เม ชีวิตํ ปวตฺตติ, ตาว อุเปตํ อนญฺญสตฺถุกํ ตีหิ สรณคมเนหิ สรณคตํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ ชานาตุ, อหญฺหิ สเจปิ เม ติขิเณน อสินา สีสํ ฉินฺเทยฺยุํ, เนว พุทฺธํ ‘‘น พุทฺโธ’’ติ วา, ธมฺมํ ‘‘น ธมฺโม’’ติ วา, สงฺฆํ ‘‘น สงฺโฆ’’ติ วา วเทยฺยนฺติฯ เอตฺถ จ พฺราหฺมโณ ปาณุเปตํ สรณคตนฺติ ปุน สรณคมนํ วทนฺโต อตฺตสนฺนิยฺยาตนํ ปกาเสตีติ เวทิตพฺโพฯ

เอวํ อตฺตานํ นิยฺยาเตตฺวา ภควนฺตํ สปริสํ อุปฏฺฐาตุกาโม อาห – ‘‘อธิวาเสตุ จ เม ภวํ โคตโม เวรญฺชายํ วสฺสาวาสํ สทฺธิํ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติฯ กิํ วุตฺตํ โหติ – อุปาสกญฺจ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ, อธิวาเสตุ จ เม เวรญฺชายํ วสฺสาวาสํ, ตโย มาเส เวรญฺชํ อุปนิสฺสาย มม อนุคฺคหตฺถํ วาสํ สมฺปฏิจฺฉตูติฯ อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนาติ อถสฺส วจนํ สุตฺวา ภควา กายงฺคํ วา วาจงฺคํ วา อโจเปตฺวา อพฺภนฺตเรเยว ขนฺติํ จาเรตฺวา ตุณฺหีภาเวน อธิวาเสสิ; พฺราหฺมณสฺส อนุคฺคหตฺถํ มนสาว สมฺปฏิจฺฉีติ วุตฺตํ โหติฯ

อถ โข เวรญฺโช พฺราหฺมโณ ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวาติ อถ เวรญฺโช พฺราหฺมโณ สเจ เม สมโณ โคตโม นาธิวาเสยฺย, กาเยน วา วาจาย วา ปฏิกฺขิเปยฺยฯ ยสฺมา ปน อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา อพฺภนฺตเร ขนฺติํ ธาเรสิ, ตสฺมา เม มนสาว อธิวาเสสีติ เอวํ อาการสลฺลกฺขณกุสลตาย ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา, อตฺตโน นิสินฺนาสนโต วุฏฺฐาย จตูสุ ทิสาสุ ภควนฺตํ สกฺกจฺจํ วนฺทิตฺวา ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อาคตกาลโต ปภุติ ชาติมหลฺลกพฺราหฺมณานํ อภิวาทนาทีนิ น กโรตีติ วิครหิตฺวาปิ อิทานิ วิญฺญาตพุทฺธคุโณ กาเยน วาจาย มนสา จ อเนกกฺขตฺตุํ วนฺทนฺโตปิ อติตฺโตเยว หุตฺวา ทสนขสโมธานสมุชฺชลํ อญฺชลิํ ปคฺคยฺห สิรสฺมิํ ปติฏฺฐาเปตฺวา ยาว ทสฺสนวิสโย ตาว ปฏิมุโขเยว อปกฺกมิตฺวา ทสฺสนวิสยํ วิชหนฏฺฐาเน วนฺทิตฺวา ปกฺกามิฯ

อุปาสกตฺตปฏิเวทนากถา นิฏฺฐิตาฯ

ทุพฺภิกฺขกถา

[16] เตน โข ปน สมเยน เวรญฺชา ทุพฺภิกฺขา โหตีติ ยสฺมิํ สมเย เวรญฺเชน พฺราหฺมเณน ภควา เวรญฺชํ อุปนิสฺสาย วสฺสาวาสํ ยาจิโต , เตน สมเยน เวรญฺชา ทุพฺภิกฺขา โหติฯ ทุพฺภิกฺขาติ ทุลฺลภภิกฺขา; สา ปน ทุลฺลภภิกฺขตา ยตฺถ มนุสฺสา อสฺสทฺธา โหนฺติ อปฺปสนฺนา, ตตฺถ สุสสฺสกาเลปิ อติสมคฺเฆปิ ปุพฺพณฺณาปรณฺเณ โหติฯ เวรญฺชายํ ปน ยสฺมา น ตถา อโหสิ, อปิจ โข ทุสสฺสตาย ฉาตกโทเสน อโหสิ ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ทฺวีหิติกาติอาทิมาหฯ ตตฺถ ทฺวีหิติกาติ ทฺวิธา ปวตฺตอีหิติกาฯ อีหิตํ นาม อิริยา ทฺวิธา ปวตฺตา – จิตฺตอิริยา, จิตฺตอีหาฯ ‘‘เอตฺถ ลจฺฉาม นุ โข กิญฺจิ ภิกฺขมานา น ลจฺฉามา’’ติ, ‘‘ชีวิตุํ วา สกฺขิสฺสาม นุ โข โน’’ติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโยฯ

อถ วา ทฺวีหิติกาติ ทุชฺชีวิกา, อีหิตํ อีหา อิริยนํ ปวตฺตนํ ชีวิตนฺติอาทีนิ ปทานิ เอกตฺถานิฯ ตสฺมา ทุกฺเขน อีหิตํ เอตฺถ ปวตฺตตีติ ทฺวีหิติกาติ อยเมตฺถ ปทตฺโถฯ เสตฏฺฐิกาติ เสตกานิ อฏฺฐีนิ เอตฺถาติ เสตฏฺฐิกาฯ ทิวสมฺปิ ยาจิตฺวา กิญฺจิ อลทฺธา มตานํ กปณมนุสฺสานํ อหิจฺฉตฺตกวณฺเณหิ อฏฺฐีหิ ตตฺร ตตฺร ปริกิณฺณาติ วุตฺตํ โหติฯ เสตฏฺฏิกาติปิ ปาโฐฯ ตสฺสตฺโถ – เสตา อฏฺฏิ เอตฺถาติ เสตฏฺฏิกาฯ อฏฺฏีติ อาตุรตา พฺยาธิ โรโคฯ ตตฺถ จ สสฺสานํ คพฺภคฺคหณกาเล เสตกโรเคน อุปหตเมว ปจฺฉินฺนขีรํ อคฺคหิตตณฺฑุลํ ปณฺฑรปณฺฑรํ สาลิสีสํ วา ยวโคธูมสีสํ วา นิกฺขมติ, ตสฺมา ‘‘เสตฏฺฏิกา’’ติ วุจฺจติฯ

วปฺปกาเล สุฏฺฐุ อภิสงฺขริตฺวาปิ วุตฺตสสฺสํ ตตฺถ สลากา เอว สมฺปชฺชตีติ สลากาวุตฺตา; สลากาย วา ตตฺถ ชีวิตํ ปวตฺเตนฺตีติ สลากาวุตฺตาฯ กิํ วุตฺตํ โหติ? ตตฺถ กิร ธญฺญวิกฺกยกานํ สนฺติกํ กยเกสุ คเตสุ ทุพฺพลมนุสฺเส อภิภวิตฺวา พลวมนุสฺสาว ธญฺญํ กิณิตฺวา คจฺฉนฺติฯ ทุพฺพลมนุสฺสา อลภมานา มหาสทฺทํ กโรนฺติฯ ธญฺญวิกฺกยกา ‘‘สพฺเพสํ สงฺคหํ กริสฺสามา’’ติ ธญฺญกรณฏฺฐาเน ธญฺญมาปกํ นิสีทาเปตฺวา เอกปสฺเส วณฺณชฺฌกฺขํ นิสีทาเปสุํฯ ธญฺญตฺถิกา วณฺณชฺฌกฺขสฺส สนฺติกํ คจฺฉนฺติฯ โส อาคตปฏิปาฏิยา มูลํ คเหตฺวา ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส เอตฺตกํ ทาตพฺพ’’นฺติ สลากํ ลิขิตฺวา เทติ, เต ตํ คเหตฺวา ธญฺญมาปกสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ทินฺนปฏิปาฏิยา ธญฺญํ คณฺหนฺติฯ เอวํ สลากาย ตตฺถ ชีวิตํ ปวตฺเตนฺตีติ สลากาวุตฺตาฯ