เมนู

10. สุภสุตฺตํ

สุภมาณววตฺถุ

[444] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา อานนฺโท สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม อจิรปรินิพฺพุเต ภควติฯ เตน โข ปน สมเยน สุโภ มาณโว โตเทยฺยปุตฺโต สาวตฺถิยํ ปฏิวสติ เกนจิเทว กรณีเยนฯ

[445] อถ โข สุโภ มาณโว โตเทยฺยปุตฺโต อญฺญตรํ มาณวกํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, มาณวก, เยน สมโณ อานนฺโท เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน สมณํ อานนฺทํ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺฐานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉ – ‘สุโภ มาณโว โตเทยฺยปุตฺโต ภวนฺตํ อานนฺทํ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺฐานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉตี’ติฯ เอวญฺจ วเทหิ – ‘สาธุ กิร ภวํ อานนฺโท เยน สุภสฺส มาณวสฺส โตเทยฺยปุตฺตสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’’ติฯ

[446] ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข โส มาณวโก สุภสฺส มาณวสฺส โตเทยฺยปุตฺตสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส มาณวโก อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘สุโภ มาณโว โตเทยฺยปุตฺโต ภวนฺตํ อานนฺทํ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺฐานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉติ; เอวญฺจ วเทติ – ‘สาธุ กิร ภวํ อานนฺโท เยน สุภสฺส มาณวสฺส โตเทยฺยปุตฺตสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’’ติฯ

[447] เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา อานนฺโท ตํ มาณวกํ เอตทโวจ – ‘‘อกาโล โข, มาณวก ฯ อตฺถิ เม อชฺช เภสชฺชมตฺตา ปีตาฯ อปฺเปวนาม สฺเวปิ อุปสงฺกเมยฺยาม กาลญฺจ สมยญฺจ อุปาทายา’’ติฯ

‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข โส มาณวโก อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา อุฏฺฐายาสนา เยน สุโภ มาณโว โตเทยฺยปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ ; อุปสงฺกมิตฺวา สุภํ มาณวํ โตเทยฺยปุตฺตํ เอตทโวจ, ‘‘อโวจุมฺหา โข มยํ โภโต วจเนน ตํ ภวนฺตํ อานนฺทํ – ‘สุโภ มาณโว โตเทยฺยปุตฺโต ภวนฺตํ อานนฺทํ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺฐานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉติ, เอวญฺจ วเทติ – ‘‘สาธุ กิร ภวํ อานนฺโท เยน สุภสฺส มาณวสฺส โตเทยฺยปุตฺตสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’’ติฯ เอวํ วุตฺเต, โภ, สมโณ อานนฺโท มํ เอตทโวจ – ‘อกาโล โข, มาณวกฯ อตฺถิ เม อชฺช เภสชฺชมตฺตา ปีตาฯ อปฺเปวนาม สฺเวปิ อุปสงฺกเมยฺยาม กาลญฺจ สมยญฺจ อุปาทายา’ติฯ เอตฺตาวตาปิ โข, โภ, กตเมว เอตํ, ยโต โข โส ภวํ อานนฺโท โอกาสมกาสิ สฺวาตนายปิ อุปสงฺกมนายา’’ติฯ

[448] อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เจตเกน ภิกฺขุนา ปจฺฉาสมเณน เยน สุภสฺส มาณวสฺส โตเทยฺยปุตฺตสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิฯ

อถ โข สุโภ มาณโว โตเทยฺยปุตฺโต เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สุโภ มาณโว โตเทยฺยปุตฺโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘ภวญฺหิ อานนฺโท ตสฺส โภโต โคตมสฺส ทีฆรตฺตํ อุปฏฺฐาโก สนฺติกาวจโร สมีปจารีฯ ภวเมตํ อานนฺโท ชาเนยฺย, เยสํ โส ภวํ โคตโม ธมฺมานํ วณฺณวาที อโหสิ, ยตฺถ จ อิมํ ชนตํ สมาทเปสิ นิเวเสสิ ปติฏฺฐาเปสิฯ กตเมสานํ โข, โภ อานนฺท, ธมฺมานํ โส ภวํ โคตโม วณฺณวาที อโหสิ; กตฺถ จ อิมํ ชนตํ สมาทเปสิ นิเวเสสิ ปติฏฺฐาเปสี’’ติ?

[449] ‘‘ติณฺณํ โข, มาณว, ขนฺธานํ โส ภควา วณฺณวาที อโหสิ; เอตฺถ จ อิมํ ชนตํ สมาทเปสิ นิเวเสสิ ปติฏฺฐาเปสิฯ กตเมสํ ติณฺณํ? อริยสฺส สีลกฺขนฺธสฺส, อริยสฺส สมาธิกฺขนฺธสฺส, อริยสฺส ปญฺญากฺขนฺธสฺสฯ อิเมสํ โข, มาณว, ติณฺณํ ขนฺธานํ โส ภควา วณฺณวาที อโหสิ; เอตฺถ จ อิมํ ชนตํ สมาทเปสิ นิเวเสสิ ปติฏฺฐาเปสี’’ติฯ

สีลกฺขนฺโธ

[450] ‘‘กตโม ปน โส, โภ อานนฺท, อริโย สีลกฺขนฺโธ, ยสฺส โส ภวํ โคตโม วณฺณวาที อโหสิ, ยตฺถ จ อิมํ ชนตํ สมาทเปสิ นิเวเสสิ ปติฏฺฐาเปสี’’ติ?

‘‘อิธ, มาณว, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควาฯ โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณิํ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติฯ โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติฯ ตํ ธมฺมํ สุณาติ คหปติ วา คหปติปุตฺโต วา อญฺญตรสฺมิํ วา กุเล ปจฺจาชาโตฯ โส ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภติฯ โส เตน สทฺธาปฏิลาเภน สมนฺนาคโต อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘สมฺพาโธ ฆราวาโส รโชปโถ, อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา, นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํฯ ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’นฺติฯ โส อปเรน สมเยน อปฺปํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย อปฺปํ วา ญาติปริวฏฺฏํ ปหาย มหนฺตํ วา ญาติปริวฏฺฏํ ปหาย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติฯ โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ, อาจารโคจรสมฺปนฺโน, อนุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ, กายกมฺมวจีกมฺเมน สมนฺนาคโต กุสเลน, ปริสุทฺธาชีโว, สีลสมฺปนฺโน, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร, สติสมฺปชญฺเญน สมนฺนาคโต, สนฺตุฏฺโฐฯ

[451] ‘‘กถญฺจ, มาณว, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหติ? อิธ, มาณว, ภิกฺขุ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติฯ