เมนู

4. โสณทณฺฑสุตฺตํ

จมฺเปยฺยกพฺราหฺมณคหปติกา

[300] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา องฺเคสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ ปญฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ เยน จมฺปา ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา จมฺปายํ วิหรติ คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเรฯ เตน โข ปน สมเยน โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ จมฺปํ อชฺฌาวสติ สตฺตุสฺสทํ สติณกฏฺโฐทกํ สธญฺญํ ราชโภคฺคํ รญฺญา มาคเธน เสนิเยน พิมฺพิสาเรน ทินฺนํ ราชทายํ พฺรหฺมเทยฺยํฯ

[301] อสฺโสสุํ โข จมฺเปยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา – ‘‘สมโณ ขลุ โภ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต องฺเคสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ ปญฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ จมฺปํ อนุปฺปตฺโต จมฺปายํ วิหรติ คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเรฯ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติฯ โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณิํ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติฯ โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติฯ สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติฯ อถ โข จมฺเปยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา จมฺปาย นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี [สงฺฆา สงฺฆี (สี. สฺยา. ปี.)] คณีภูตา เยน คคฺครา โปกฺขรณี เตนุปสงฺกมนฺติฯ

[302] เตน โข ปน สมเยน โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ อุปริปาสาเท ทิวาเสยฺยํ อุปคโต โหติฯ อทฺทสา โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ จมฺเปยฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก จมฺปาย นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี [สงฺเฆ สงฺฆี (สี. ปี.) สงฺฆา สงฺฆี (สฺยา.)] คณีภูเต เยน คคฺครา โปกฺขรณี เตนุปสงฺกมนฺเตฯ

ทิสฺวา ขตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘กิํ นุ โข, โภ ขตฺเต, จมฺเปยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา จมฺปาย นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี คณีภูตา เยน คคฺครา โปกฺขรณี เตนุปสงฺกมนฺตี’’ติ? ‘‘อตฺถิ โข, โภ, สมโณ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต องฺเคสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ ปญฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ จมฺปํ อนุปฺปตฺโต จมฺปายํ วิหรติ คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเรฯ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติฯ ตเมเต ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมนฺตี’’ติฯ ‘‘เตน หิ, โภ ขตฺเต, เยน จมฺเปยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เตนุปสงฺกม, อุปสงฺกมิตฺวา จมฺเปยฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก เอวํ วเทหิ – ‘โสณทณฺโฑ, โภ, พฺราหฺมโณ เอวมาห – อาคเมนฺตุ กิร ภวนฺโต, โสณทณฺโฑปิ พฺราหฺมโณ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี’’’ติฯ ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข โส ขตฺตา โสณทณฺฑสฺส พฺราหฺมณสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน จมฺเปยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา จมฺเปยฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก เอตทโวจ – ‘‘โสณทณฺโฑ โภ พฺราหฺมโณ เอวมาห – ‘อาคเมนฺตุ กิร ภวนฺโต, โสณทณฺโฑปิ พฺราหฺมโณ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี’’’ติฯ

โสณทณฺฑคุณกถา

[303] เตน โข ปน สมเยน นานาเวรชฺชกานํ พฺราหฺมณานํ ปญฺจมตฺตานิ พฺราหฺมณสตานิ จมฺปายํ ปฏิวสนฺติ เกนจิเทว กรณีเยนฯ อสฺโสสุํ โข เต พฺราหฺมณา – ‘‘โสณทณฺโฑ กิร พฺราหฺมโณ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี’’ติฯ อถ โข เต พฺราหฺมณา เยน โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา โสณทณฺฑํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจุํ – ‘‘สจฺจํ กิร ภวํ โสณทณฺโฑ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี’’ติ? ‘‘เอวํ โข เม, โภ, โหติ – ‘อหมฺปิ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามี’’’ติฯ

‘‘มา ภวํ โสณทณฺโฑ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิฯ น อรหติ ภวํ โสณทณฺโฑ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํฯ