เมนู

อัฏฐมวรรค


ยักขานัง มรณภาวปัญหา ที่ 1


สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชามหากษัตริย์ขัตติยาธิบดีมีพระราชโองการตรัสถามปัญหา
อื่นสืบไปว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา ยักษ์ทั้งหลายในโลกนี้มีอยู่หรือหามิได้
พระนาคเสนถวายพระพรรับว่า อาม มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐ
ยักษ์ทั้งหลายในโลกนี้มีอยู่
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นกษัตริย์ มีพระราชโองการตรัสถามอีกว่า จวนฺติ ปน เต
ภนฺเต
ก็เมื่อยักษ์ทั้งหลายมีอยู่ ยักษ์เหล่านั้นย่อมเคลื่อนจากกำเนิดนั้น เหมือนดังสัตว์ที่เห็น
ปรากฏชัดอยู่ในทุกวันนี้หรือหามิได้ พระผู้เป็นเจ้าจงชี้แจงสำแดงอรรถให้โยมนี้ทราบประจักษ์
ในกาลบัดนี้
พระนาคเสนจึงถวายพระพร อาม มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร ยักษ์ทั้ง
หลายเหล่านั้นย่อมเคลื่อนจากกำเนิดนั้น ดังสัตว์ที่ปรากฏชัดในทุกวันนี้เหมือนกัน จะได้วิปริต
ผิดเพี้ยนไปจากนี้หามิได้ ขอถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่ปนประชากร จึงมีสุนทรวาจาตรัสถามพระนาคเสนต่อไปว่า กิสฺส
ปน ภนฺเต นาคเสน
ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชาญาณยิ่ง ก็เมื่อเป็นเช่นนั้น เหตุดังฤๅ จึงไม่พบ
เห็นซากศพของยักษ์ที่ตายนั้นสักครั้งหนึ่ง โดยที่สุดแม้กลิ่นแห่งซากศพก็มิได้ฟุ้งมากระทบ
ฆานประสาท ให้รู้สึกมีกลิ่นเหม็นแม้สักครั้งหนึ่ง น่าสงสัยนักพระผู้เป็นเจ้า
พระนาคเสนถวายพระพรวิสัชนาว่า ทิสฺสติ มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร
ผู้ประเสริฐ ศพของยักษ์ย่อมปรากฏ แม้กลิ่นแห่งซากศพของยักษ์เหล่านั้นก็ย่อมฟุ้งมีกระทบ
๋ฆานประสาทเหมือนกัน แต่บุคคลหารู้สึกว่าเป็นศพของยักษ์ไม่ เพราะร่างกายของยักษ์ผู้ตาย
แล้วนั้นกลายเป็นตั๊กแตนไปบ้าง กลายเป็นหนอนไปบ้าง กลายเป็นมดแดงไปบ้าง กลาย
เป็นมดดำไปบ้าง บางทีก็กลายเป็นงู บางทีก็กลายเป็นแมงป่อง บางทีก็กลายเป็นตะขาบ
บางทีก็กลายเป็นนก บางทีก็กลายเป็นเนื้อ อาศัยเหตุนี้แหละ มหาชนจึงไม่ทราบว่าเป็นศพ
ของยักษ์ที่ตาย นะบพิตรพระราชสมภาร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชาสาคลราชธานี เมื่อพระนาคเสนถวายพระพรวิสัชนามา
ดังนี้ ก็สิ้นวิมัติกังขาสังสัย มีความรื่นเริงบันเทิงใจ จึงเปล่งสุนทรพจน์ออกไปชมพระนาคเสนว่า
โก หิ ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา ปัญหานี้มีอรรถลึกซึ้งสุขุมคัมภีรภาพ