เมนู

4. สญฺญาปนียาทิ

[387] กถํ สญฺญาปนีเย ฐาเน สญฺญาเปติ? อธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปนฺโต สญฺญาปนีเย ฐาเน สญฺญาเปติ, ธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปนฺโต สญฺญาปนีเย ฐาเน สญฺญาเปติ…เป.… ทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ ทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปนฺโต สญฺญาปนีเย ฐาเน สญฺญาเปติ, อทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปนฺโต สญฺญาปนีเย ฐาเน สญฺญาเปติฯ เอวํ สญฺญาปนีเย ฐาเน สญฺญาเปติฯ

[388] กถํ นิชฺฌาปนีเย ฐาเน นิชฺฌาเปติ? อธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปนฺโต นิชฺฌาปนีเย ฐาเน นิชฺฌาเปติ, ธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปนฺโต นิชฺฌาปนีเย ฐาเน นิชฺฌาเปติ…เป.… ทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ ทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปนฺโต นิชฺฌาปนีเย ฐาเน นิชฺฌาเปติ, อทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปนฺโต นิชฺฌาปนีเย ฐาเน นิชฺฌาเปติฯ เอวํ นิชฺฌาปนีเย ฐาเน นิชฺฌาเปติฯ

[389] กถํ เปกฺขนีเย ฐาเน เปกฺขติ? อธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปนฺโต เปกฺขนีเย ฐาเน เปกฺขติ, ธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปนฺโต เปกฺขนีเย ฐาเน เปกฺขติ…เป.… ทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ ทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปนฺโต เปกฺขนีเย ฐาเน เปกฺขติ, อทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปนฺโต เปกฺขนีเย ฐาเน เปกฺขติฯ เอวํ เปกฺขนีเย ฐาเน เปกฺขติฯ

[390] กถํ ปสาทนีเย ฐาเน ปสาเทติ? อธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปนฺโต ปสาทนีเย ฐาเน ปสาเทติ, ธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปนฺโต ปสาทนีเย ฐาเน ปสาเทติ…เป.… ทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ ทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปนฺโต ปสาทนีเย ฐาเน ปสาเทติ, อทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปนฺโต ปสาทนีเย ฐาเน ปสาเทติฯ เอวํ ปสาทนีเย ฐาเน ปสาเทติฯ

5. ปรปกฺขาทิอวชานนํ

[391] กถํ ลทฺธปกฺโขมฺหีติ ปรปกฺขํ อวชานาติ? อิเธกจฺโจ ลทฺธปกฺโข โหติ ลทฺธปริวาโร ปกฺขวา ญาติมาฯ ‘‘อยํ อลทฺธปกฺโข อลทฺธปริวาโร น ปกฺขวา น ญาติมา’’ติ ตสฺส อวชานนฺโต อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปติ, ธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปติ…เป.… ทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ ทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติฯ เอวํ ลทฺธปกฺโขมฺหีติ ปรปกฺขํ อวชานาติฯ

[392] กถํ พหุสฺสุโตมฺหีติ อปฺปสฺสุตํ อวชานาติ? อิเธกจฺโจ พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโยฯ

‘‘อยํ อปฺปสฺสุโต อปฺปาคโม อปฺปธโร’’ติ ตสฺส อวชานนฺโต อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปติ, ธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปติ…เป.… ทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ ทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติฯ เอวํ พหุสฺสุโตมฺหีติ อปฺปสฺสุตํ อวชานาติฯ

[393] กถํ เถรตโรมฺหีติ นวกตรํ อวชานาติ? อิเธกจฺโจ เถโร โหติ รตฺตญฺญู จิรปพฺพชิโต อยํ นวโก อปฺปญฺญาโต อปฺปกตญฺญู อิมสฺส วจนํ อกตํ ภวิสฺสตี’’ติ ตสฺส อวชานนฺโต อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปติ, ธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปติ …เป.… ทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ ทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติฯ เอวํ เถรตโรมฺหีติ นวกตรํ อวชานาติฯ

[394] อสมฺปตฺตํ น พฺยาหริตพฺพนฺติ อโนติณฺณํ ภารํ [ภาสํ (สฺยา.)] น โอตาเรตพฺพํฯ สมฺปตฺตํ ธมฺมโต วินยโต น ปริหาเปตพฺพนฺติ ยํอตฺถาย สงฺโฆ สนฺนิปติโต โหติ ตํ อตฺถํ ธมฺมโต วินยโต น ปริหาเปตพฺพํฯ

[395] เยน ธมฺเมนาติ ภูเตน วตฺถุนาฯ เยน วินเยนาติ โจเทตฺวา สาเรตฺวาฯ เยน สตฺถุสาสเนนาติ ญตฺติสมฺปทาย อนุสฺสาวนสมฺปทาย, เยน ธมฺเมน เยน วินเยน เยน สตฺถุสาสเนน ตํ อธิกรณํ วูปสมฺมติ, ตถา ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพนฺติฯ

6. อนุวิชฺชกสฺส อนุโยคํ

[396] อนุวิชฺชเกน โจทโก ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘‘ยํ โข ตฺวํ, อาวุโส, อิมสฺส ภิกฺขุโน ปวารณํ ฐเปสิ, กิมฺหิ นํ ฐเปสิ, สีลวิปตฺติยา วา ฐเปสิ, อาจารวิปตฺติยา วา ฐเปสิ, ทิฏฺฐิวิปตฺติยา วา ฐเปสี’’ติ? โส เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘สีลวิปตฺติยา วา ฐเปมิ อาจารวิปตฺติยา วา ฐเปมิ ทิฏฺฐิวิปตฺติยา วา ฐเปมี’’ติ, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘ชานาติ ปนายสฺมา สีลวิปตฺติํ, ชานาติ อาจารวิปตฺติํ, ชานาติ ทิฏฺฐิวิปตฺติ’’นฺติ? โส เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘ชานามิ โข อหํ, อาวุโส, สีลวิปตฺติํ, ชานามิ อาจารวิปตฺติํ, ชานามิ ทิฏฺฐิวิปตฺติ’’นฺติ , โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘กตมา ปนาวุโส, สีลวิปตฺติ กตมา อาจารวิปตฺติ กตมา ทิฏฺฐิวิปตฺตี’’ติ? โส เจ เอวํ วเทยฺย – ‘‘จตฺตาริ ปาราชิกานิ เตรส สงฺฆาทิเสสา – อยํ สีลวิปตฺติฯ ถุลฺลจฺจยํ ปาจิตฺติยํ ปาฏิเทสนียํ ทุกฺกฏํ ทุพฺภาสิตํ – อยํ อาจารวิปตฺติฯ