เมนู

‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, นาวา อปริมิตมนนฺตมปารมกฺโขภิตคมฺภีเร มหติมหาโฆเส ติมิติมิงฺคลมกรมจฺฉคณากุเล มหติมหาสมุทฺเท จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ติปริวฏฺฏ ทฺวาทสาการ จตุสจฺจาภิสมยปฺปฏิเวเธ มานสํ สญฺจารยิตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, นาวาย ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สํยุตฺตนิกายวเร สจฺจสํยุตฺเต –

‘‘‘วิตกฺเกนฺตา จ โข ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ วิตกฺเกยฺยาถ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ วิตกฺเกยฺยาถ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ วิตกฺเกยฺยาถ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ วิตกฺเกยฺยาถา’’’ติฯ

นาวงฺคปญฺโห ปญฺจโมฯ

6. นาวาลคฺคนกงฺคปญฺโห

[6] ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘นาวาลคฺคนกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, นาวาลคฺคนกํ พหุอูมิชาลากุลวิกฺโขภิตสลิลตเล มหติมหาสมุทฺเท นาวํ ลคฺเคติ ฐเปติ, น เทติ ทิสาวิทิสํ หริตุํ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ราคโทสโมหูมิชาเล มหติมหาวิตกฺกสมฺปหาเร จิตฺตํ ลคฺเคตพฺพํ, น ทาตพฺพํ ทิสาวิทิสํ หริตุํฯ อิทํ, มหาราช, นาวาลคฺคนกสฺส ปฐมํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ

‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, นาวาลคฺคนกํ น ปฺลวติ [น ปิลวติ (สี. ปี.)] วิสีทติ, หตฺถสเตปิ อุทเก นาวํ ลคฺเคติ ฐานมุปเนติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ลาภยสสกฺการมานนวนฺทนปูชนอปจิตีสุ ลาภคฺคยสคฺเคปิ น ปฺลวิตพฺพํ, สรีรยาปนมตฺตเก เยว จิตฺตํ ฐเปตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, นาวาลคฺคนกสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –

‘‘‘ยถา สมุทฺเท ลคฺคนกํ, น ปฺลวติ วิสีทติ;

ตเถว ลาภสกฺกาเร, มา ปฺลวถ วิสีทถา’’’ติฯ

นาวาลคฺคนกงฺคปญฺโห ฉฏฺโฐฯ

7. กูปงฺคปญฺโห

[7] ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘กูปสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, กูโป รชฺชุญฺจ วรตฺตญฺจ ลงฺการญฺจ ธาเรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สติสมฺปชญฺญสมนฺนาคเตน ภวิตพฺพํ, อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต อาโลกิเต วิโลกิเต สมิญฺชิเต ปสาริเต สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม คเต ฐิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการินา ภวิตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, กูปสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน ‘สโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิหเรยฺย สมฺปชาโน, อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี’’’ติฯ

กูปงฺคปญฺโห สตฺตโมฯ

8. นิยามกงฺคปญฺโห

[8] ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘นิยามกสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, นิยามโก รตฺตินฺทิวํ สตตํ สมิตํ อปฺปมตฺโต ยตฺตปฺปยตฺโต นาวํ สาเรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน จิตฺตํ นิยามยมาเนน รตฺตินฺทิวํ สตตํ สมิตํ อปฺปมตฺเตน ยตฺตปฺปยตฺเตน โยนิโส มนสิกาเรน จิตฺตํ นิยาเมตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, นิยามกสฺส ปฐมํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน ธมฺมปเท –

‘‘‘อปฺปมาทรตา โหถ, สจิตฺตมนุรกฺขถ;

ทุคฺคา อุทฺธรถตฺตานํ, ปงฺเก สนฺโนว [สตฺโตว (สี. ปี.)] กุญฺชโร’ติฯ