เมนู

‘‘กิํ ปน ตํ การณํ, เยน การเณน อรหา เอกํ เวทนํ เวทยติ กายิกํ, น เจตสิก’’นฺติ? ‘‘อรหโต, มหาราช, จิตฺตํ ภาวิตํ โหติ สุภาวิตํ ทนฺตํ สุทนฺตํ อสฺสวํ วจนกรํ, โส ทุกฺขาย เวทนาย ผุฏฺโฐ สมาโน ‘อนิจฺจ’นฺติ ทฬฺหํ คณฺหาติ, สมาธิถมฺเภ จิตฺตํ อุปนิพนฺธติ, ตสฺส ตํ จิตฺตํ สมาธิถมฺเภ อุปนิพนฺธนํ น เวธติ น จลติ, ฐิตํ โหติ อวิกฺขิตฺตํ, ตสฺส เวทนาวิการวิปฺผาเรน กาโย อาภุชติ นิพฺภุชติ สมฺปริวตฺตติ, อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน อรหา เอกํ เวทนํ เวทยติ กายิกํ, น เจตสิก’’นฺติฯ

‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตํ นาม โลเก อจฺฉริยํ ยํ กาเย จลมาเน จิตฺตํ น จลติ, ตตฺถ เม การณํ พฺรูหี’’ติฯ ‘‘ยถา, มหาราช, มหติมหารุกฺเข ขนฺธสาขาปลาสสมฺปนฺเน อนิลพลสมาหเต สาขา จลติ, อปิ นุ ตสฺส ขนฺโธปิ จลตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ ฯ ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อรหา ทุกฺขาย เวทนาย ผุฏฺโฐ สมาโน ‘อนิจฺจ’นฺติ ทฬฺหํ คณฺหาติ, สมาธิถมฺเภ จิตฺตํ อุปนิพนฺธติ, ตสฺส ตํ จิตฺตํ สมาธิถมฺเภ อุปนิพนฺธนํ น เวธติ น จลติ, ฐิตํ โหติ อวิกฺขิตฺตํ, ตสฺส เวทนาวิการวิปฺผาเรน กาโย อาภุชติ นิพฺภุชติ สมฺปริวตฺตติ, จิตฺตํ ปน ตสฺส น เวธติ น จลติ ขนฺโธ วิย มหารุกฺขสฺสา’’ติฯ ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต นาคเสน, อพฺภุตํ, ภนฺเต นาคเสน, น เม เอวรูโป สพฺพกาลิโก ธมฺมปทีโป ทิฏฺฐปุพฺโพ’’ติฯ

อรหนฺตเวทนาเวทิยนปญฺโห ฉฏฺโฐฯ

7. อภิสมยนฺตรายกรปญฺโห

[7] ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อิธ โย โกจิ คิหี ปาราชิกํ อชฺฌาปนฺโน ภเวยฺย, โส อปเรน สมเยน ปพฺพาเชยฺย, อตฺตนาปิ โส น ชาเนยฺย ‘คิหิปาราชิกํ อชฺฌาปนฺโนสฺมี’ติ, นปิ ตสฺส อญฺโญ โกจิ อาจิกฺเขยฺย ‘คิหิปาราชิกํ อชฺฌาปนฺโนสี’ติฯ โส จ ตถตฺตาย ปฏิปชฺเชยฺย, อปิ นุ ตสฺส ธมฺมาภิสมโย ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติฯ ‘‘เกน, ภนฺเต, การเณนา’’ติ? ‘‘โย ตสฺส เหตุ ธมฺมาภิสมยาย, โส ตสฺส สมุจฺฉินฺโน, ตสฺมา ธมฺมาภิสมโย น ภวตี’’ติฯ

‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘ชานนฺตสฺส กุกฺกุจฺจํ โหติ, กุกฺกุจฺเจ สติ อาวรณํ โหติ, อาวเฏ จิตฺเต ธมฺมาภิสมโย น โหตี’ติฯ อิมสฺส ปน อชานนฺตสฺส อกุกฺกุจฺจชาตสฺส สนฺตจิตฺตสฺส วิหรโต เกน การเณน ธมฺมาภิสมโย น โหติ, วิสเมน วิสเมเนโส ปญฺโห คจฺฉติ, จินฺเตตฺวา วิสชฺเชถา’’ติฯ

‘‘รุหติ , มหาราช, สุกฏฺเฐ สุกลเล มณฺฑเขตฺเต สารทํ สุขสยิตํ พีช’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘อปิ นุ, มหาราช, ตญฺเญว พีชํ ฆนเสลสิลาตเล รุเหยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘กิสฺส ปน, มหาราช, ตญฺเญว พีชํ กลเล รุหติ, กิสฺส ฆนเสเล น รุหตี’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต, ตสฺส พีชสฺส รุหนาย ฆนเสเล เหตุ, อเหตุนา พีชํ น รุหตี’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, เยน เหตุนา ตสฺส ธมฺมาภิสมโย ภเวยฺย, โส ตสฺส เหตุ สมุจฺฉินฺโน, อเหตุนา ธมฺมาภิสมโย น โหติฯ

‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ทณฺฑเลฑฺฑุลคุฬมุคฺครา ปถวิยา ฐานมุปคจฺฉนฺติ, อปิ นุ, มหาราช, เต เยว ทณฺฑเลฑฺฑุลคุฬมุคฺครา คคเน ฐานมุปคจฺฉนฺตี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติฯ ‘‘กิํ ปเนตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน เต เยว ทณฺฑเลฑฺฑุลคุฬมุคฺครา ปถวิยา ฐานมุปคจฺฉนฺติ, เกน การเณน คคเน น ติฏฺฐนฺตี’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต, เตสํ ทณฺฑเลฑฺฑุลคุฬมุคฺครานํ ปติฏฺฐานาย อากาเส เหตุ, อเหตุนา น ติฏฺฐนฺตี’’ติ ฯ ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ตสฺส เตน โทเสน อภิสมยเหตุ สมุจฺฉินฺโน, เหตุสมุคฺฆาเต อเหตุนา อภิสมโย น โหตีติฯ

‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ถเล อคฺคิ ชลติ, อปิ นุ โข, มหาราช, โส เยว อคฺคิ อุทเก ชลตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘กิํ ปเนตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน โส เยว อคฺคิ ถเล ชลติ, เกน การเณน อุทเก น ชลตี’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต, อคฺคิสฺส ชลนาย อุทเก เหตุ, อเหตุนา น ชลตี’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ตสฺส เตน โทเสน อภิสมยเหตุ สมุจฺฉินฺโน, เหตุสมุคฺฆาเต อเหตุนา ธมฺมาภิสมโย น โหตี’’ติฯ

‘‘ภนฺเต นาคเสน, ปุนเปตํ อตฺถํ จินฺเตหิ, น เม ตตฺถ จิตฺตสญฺญตฺติ ภวติ, อชานนฺตสฺส อสติ กุกฺกุจฺเจ อาวรณํ โหตีติ, การเณน มํ สญฺญาเปหี’’ติฯ ‘‘อปิ นุ, มหาราช, วิสํ หลาหลํ อชานนฺเตน ขายิตํ ชีวิตํ หรตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อชานนฺเตนปิ กตํ ปาปํ อภิสมยนฺตรายกรํ โหติฯ

‘‘อปิ นุ, มหาราช, อคฺคิ อชานิตฺวา อกฺกมนฺตํ ฑหตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อชานนฺเตนปิ กตํ ปาปํ อภิสมยนฺตรายกรํ โหติฯ

‘‘อปิ นุ, มหาราช, อชานนฺตํ อาสีวิโส ฑํสิตฺวา ชีวิตํ หรตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อชานนฺเตนปิ กตํ ปาปํ อภิสมยนฺตรายกรํ โหติฯ

‘‘นนุ, มหาราช, กาลิงฺคราชา สมณโกลญฺโญ สตฺตรตนปริกิณฺโณ หตฺถิรตนมภิรุยฺห กุลทสฺสนาย คจฺฉนฺโต อชานนฺโตปิ นาสกฺขิ โพธิมณฺฑสฺส อุปริโต คนฺตุํ, อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน อชานนฺเตนปิ กตํ ปาปํ อภิสมยนฺตรายกรํ โหตี’’ติ? ‘‘ชินภาสิตํ , ภนฺเต นาคเสน, การณํ น สกฺกา ปฏิกฺโกสิตุํ, เอโสเวตสฺส อตฺโถ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติฯ

อภิสมยนฺตรายกรปญฺโห สตฺตโมฯ

8. ทุสฺสีลปญฺโห

[8] ‘‘ภนฺเต นาคเสน, คิหิทุสฺสีลสฺส จ สมณทุสฺสีลสฺส จ โก วิเสโส, กิํ นานากรณํ, อุโภเปเต สมสมคติกา, อุภินฺนมฺปิ สมสโม วิปาโก โหติ, อุทาหุ กิญฺจิ นานาการณํ อตฺถี’’ติ?

‘‘ทส ยิเม, มหาราช, คุณา สมณทุสฺสีลสฺส คิหิทุสฺสีลโต วิเสเสน อติเรกา, ทสหิ จ การเณหิ อุตฺตริํ ทกฺขิณํ วิโสเธติฯ

‘‘กตเม ทส คุณา สมณทุสฺสีลสฺส คิหิทุสฺสีลโต วิเสเสน อติเรกา? อิธ, มหาราช, สมณทุสฺสีโล พุทฺเธ สคารโว โหติ, ธมฺเม สคารโว โหติ, สงฺเฆ สคารโว โหติ, สพฺรหฺมจารีสุ สคารโว โหติ, อุทฺเทสปริปุจฺฉาย วายมติ, สวนพหุโล โหติ, ภินฺนสีโลปิ, มหาราช, ทุสฺสีโล ปริสคโต อากปฺปํ อุปฏฺฐเปติ, ครหภยา กายิกํ วาจสิกํ รกฺขติ, ปธานาภิมุขญฺจสฺส โหติ จิตฺตํ, ภิกฺขุสามญฺญํ อุปคโต โหติฯ กโรนฺโตปิ, มหาราช, สมณทุสฺสีโล ปาปํ ปฏิจฺฉนฺนํ อาจรติฯ