เมนู

9. อุตฺตริกรณียปญฺโห

[9] ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘ยํ กิญฺจิ กรณียํ ตถาคตสฺส, สพฺพํ ตํ โพธิยา เยว มูเล ปรินิฏฺฐิตํ, นตฺถิ ตถาคตสฺส อุตฺตริํ กรณียํ, กตสฺส วา ปติจโย’ติ, อิทญฺจ เตมาสํ ปฏิสลฺลานํ ทิสฺสติฯ ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ยํ กิญฺจิ กรณียํ ตถาคตสฺส, สพฺพํ ตํ โพธิยา เยว มูเล ปรินิฏฺฐิตํ, นตฺถิ ตถาคตสฺส อุตฺตริํ กรณียํ, กตสฺส วา ปติจโย, เตน หิ ‘เตมาสํ ปฏิสลฺลีโน’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉาฯ ยทิ เตมาสํ ปฏิสลฺลีโน, เตน หิ ‘ยํ กิญฺจิ กรณียํ, ตถาคตสฺส, สพฺพํ ตํ โพธิยา เยว มูเล ปรินิฏฺฐิต’นฺติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา ฯ นตฺถิ กตกรณียสฺส ปฏิสลฺลานํ, สกรณียสฺเสว ปฏิสลฺลานํ ยถา นาม พฺยาธิตสฺเสว เภสชฺเชน กรณียํ โหติ, อพฺยาธิตสฺส กิํ เภสชฺเชนฯ ฉาตสฺเสว โภชเนน กรณียํ โหติ, อฉาตสฺส กิํ โภชเนนฯ เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, นตฺถิ กตกรณียสฺส ปฏิสลฺลานํ, สกรณียสฺเสว ปฏิสลฺลานํฯ อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปญฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติฯ

‘‘ยํ กิญฺจิ, มหาราช, กรณียํ ตถาคตสฺส, สพฺพํ ตํ โพธิยา เยว มูเล ปรินิฏฺฐิตํ, นตฺถิ ตถาคตสฺส อุตฺตริํ กรณียํ, กตสฺส วา ปติจโย, ภควา จ เตมาสํ ปฏิสลฺลีโน, ปฏิสลฺลานํ โข, มหาราช, พหุคุณํ, สพฺเพปิ ตถาคตา ปฏิสลฺลียิตฺวา สพฺพญฺญุตํ ปตฺตา, ตํ เต สุกตคุณมนุสฺสรนฺตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติฯ ยถา, มหาราช, ปุริโส รญฺโญ สนฺติกา ลทฺธวโร ปฏิลทฺธโภโค ตํ สุกตคุณมนุสฺสรนฺโต อปราปรํ รญฺโญ อุปฏฺฐานํ เอติฯ เอวเมว โข, มหาราช, สพฺเพปิ ตถาคตา ปฏิสลฺลียิตฺวา สพฺพญฺญุตํ ปตฺตา, ตํ เต สุกตคุณมนุสฺสรนฺตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติฯ

‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ปุริโส อาตุโร ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน ภิสกฺกมุปเสวิตฺวา โสตฺถิมนุปฺปตฺโต ตํ สุกตคุณมนุสฺสรนฺโต อปราปรํ ภิสกฺกมุปเสวติฯ เอวเมว โข, มหาราช, สพฺเพปิ ตถาคตา ปฏิสลฺลียิตฺวา สพฺพญฺญุตํ ปตฺตา, ตํ เต สุกตคุณมนุสฺสรนฺตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติฯ

‘‘อฏฺฐวีสติ โข ปนิเม, มหาราช, ปฏิสลฺลานคุณา, เย คุเณ สมนุสฺสรนฺตา [สมนุปสฺสนฺตา (สี. ปี.)] ตถาคตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติฯ

กตเม อฏฺฐวีสติ? อิธ, มหาราช, ปฏิสลฺลานํ ปฏิสลฺลียมานํ อตฺตานํ รกฺขติ, อายุํ วฑฺเฒติ, พลํ เทติ, วชฺชํ ปิทหติ, อยสมปเนติ, ยสมุปเนติ, อรติํ วิโนเทติ, รติมุปทหติ, ภยมปเนติ, เวสารชฺชํ กโรติ, โกสชฺชมปเนติ, วีริยมภิชเนติ, ราคมปเนติ, โทสมปเนติ, โมหมปเนติ, มานํ นิหนฺติ, วิตกฺกํ ภญฺชติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ กโรติ, มานสํ สฺเนหยติ [โสภยติ (สี.)], หาสํ ชเนติ, ครุกํ กโรติ, ลาภมุปฺปาทยติ, นมสฺสิยํ กโรติ , ปีติํ ปาเปติ, ปาโมชฺชํ กโรติ, สงฺขารานํ สภาวํ ทสฺสยติ, ภวปฺปฏิสนฺธิํ อุคฺฆาเฏติ, สพฺพสามญฺญํ เทติฯ อิเม โข, มหาราช, อฏฺฐวีสติ ปฏิสลฺลานคุณา, เย คุเณ สมนุสฺสรนฺตา ตถาคตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติฯ

‘‘อปิ จ โข, มหาราช, ตถาคตา สนฺตํ สุขํ สมาปตฺติรติํ อนุภวิตุกามา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติ ปริโยสิตสงฺกปฺปาฯ จตูหิ โข, มหาราช, การเณหิ ตถาคตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติฯ กตเมหิ จตูหิ? วิหารผาสุตายปิ, มหาราช, ตถาคตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติ, อนวชฺชคุณพหุลตายปิ ตถาคตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติ, อเสสอริยวีถิโตปิ ตถาคตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติ, สพฺพพุทฺธานํ ถุตโถมิตวณฺณิตปสตฺถโตปิ ตถาคตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติฯ อิเมหิ โข, มหาราช, จตูหิ การเณหิ ตถาคตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติฯ อิติ โข, มหาราช, ตถาคตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติ น สกรณียตาย, น กตสฺส วา ปติจยาย, อถ โข คุณวิเสสทสฺสาวิตาย ตถาคตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺตี’’ติฯ ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติฯ

อุตฺตริกรณียปญฺโห นวโมฯ

10. อิทฺธิพลทสฺสนปญฺโห

[10] ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺฐิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเฐยฺย กปฺปาวเสสํ วา’ติฯ ปุน จ ภณิตํ ‘อิโต ติณฺณํ มาสานํ อจฺจเยน ตถาคโต ปรินิพฺพายิสฺสตี’ติฯ ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา…เป.… กปฺปาวเสสํ วา’ติ, เตน หิ เตมาสปริจฺเฉโท มิจฺฉาฯ ยทิ, ภนฺเต, ตถาคเตน ภณิตํ ‘อิโต ติณฺณํ มาสานํ อจฺจเยน ตถาคโต ปรินิพฺพายิสฺสตี’ติ, เตน หิ ‘‘ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา…เป.… กปฺปาวเสสํ วา’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉาฯ นตฺถิ ตถาคตานํ อฏฺฐาเน คชฺชิตํฯ อโมฆวจนา พุทฺธา ภควนฺโต ตถวจนา อทฺเวชฺฌวจนาฯ อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปญฺโห คมฺภีโร สุนิปุโณ ทุนฺนิชฺฌาปโย ตวานุปฺปตฺโต, ภินฺเทตํ ทิฏฺฐิชาลํ, เอกํเส ฐปย, ภินฺท ปรวาท’’นฺติฯ

‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา…เป.… กปฺปาวเสสํ วา’ติ, เตมาสปริจฺเฉโท จ ภณิโต, โส จ ปน กปฺโป อายุกปฺโป วุจฺจติฯ น, มหาราช, ภควา อตฺตโน พลํ กิตฺตยมาโน เอวมาห, อิทฺธิพลํ ปน มหาราช, ภควา ปริกิตฺตยมาโน เอวมาห ‘ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา…เป.… กปฺปาวเสสํ วา’ติฯ

‘‘ยถา, มหาราช, รญฺโญ อสฺสาชานีโย ภเวยฺย สีฆคติ อนิลชโว, ตสฺส ราชา ชวพลํ ปริกิตฺตยนฺโต สเนคมชานปทภฏพลพฺราหฺมณคหปติกอมจฺจชนมชฺเฌ เอวํ วเทยฺย ‘อากงฺขมาโน เม, โภ, อยํ หยวโร สาครชลปริยนฺตํ มหิํ อนุวิจริตฺวา ขเณน อิธาคจฺเฉยฺยา’ติ, น จ ตํ ชวคติํ ตสฺสํ ปริสายํ ทสฺเสยฺย, วิชฺชติ จ โส ชโว ตสฺส, สมตฺโถ จ โส ขเณน สาครชลปริยนฺตํ มหิํ อนุวิจริตุํฯ เอวเมว โข, มหาราช, ภควา อตฺตโน อิทฺธิพลํ ปริกิตฺตยมาโน เอวมาห, ตมฺปิ เตวิชฺชานํ ฉฬภิญฺญานํ อรหนฺตานํ วิมลขีณาสวานํ เทวมนุสฺสานญฺจ มชฺเฌ นิสีทิตฺวา ภณิตํ ‘ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺฐิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเฐยฺย กปฺปาวเสสํ วา’ติฯ วิชฺชติ จ ตํ, มหาราช, อิทฺธิพลํ ภควโต, สมตฺโถ จ ภควา อิทฺธิพเลน กปฺปํ วา ฐาตุํ กปฺปาวเสสํ วา, น จ ภควา ตํ อิทฺธิพลํ ตสฺสํ ปริสายํ ทสฺเสติ, อนตฺถิโก, มหาราช, ภควา สพฺพภเวหิ, ครหิตา จ ตถาคตสฺส สพฺพภวาฯ