เมนู

6. คพฺภาวกฺกนฺติปญฺโห

[6] ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘ติณฺณํ โข ปน, ภิกฺขเว, สนฺนิปาตา คพฺภสฺส อวกฺกนฺติ [คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ (ม. นิ. 1.408)] โหติ, อิธ มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺติ, มาตา จ อุตุนี โหติ, คนฺธพฺโพ จ ปจฺจุปฏฺฐิโต โหติ, อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ติณฺณํ สนฺนิปาตา คพฺภสฺส อวกฺกนฺติ โหตี’ติ, อเสสวจนเมตํ, นิสฺเสสวจนเมตํ, นิปฺปริยายวจนเมตํ, อรหสฺสวจนเมตํ, สเทวมนุสฺสานํ มชฺเฌ นิสีทิตฺวา ภณิตํ, อยญฺจ ทฺวินฺนํ สนฺนิปาตา คพฺภสฺส อวกฺกนฺติ ทิสฺสติ, ทุกูเลน ตาปเสน ปาริกาย ตาปสิยา อุตุนิกาเล ทกฺขิเณน หตฺถงฺคุฏฺเฐน นาภิ ปรามฏฺฐา, ตสฺส เตน นาภิปรามสเนน สามกุมาโร นิพฺพตฺโตฯ มาตงฺเคนาปิ อิสินา พฺราหฺมณกญฺญาย อุตุนิกาเล ทกฺขิเณน หตฺถงฺคุฏฺเฐน นาภิ ปรามฏฺฐา, ตสฺส เตน นาภิปรามสเนน มณฺฑพฺโย นาม มาณวโก นิพฺพตฺโตติฯ ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘ติณฺณํ โข ปน, ภิกฺขเว, สนฺนิปาตา คพฺภสฺส อวกฺกนฺติ โหตี’ติฯ เตน หิ สาโม จ กุมาโร มณฺฑพฺโย จ มาณวโก อุโภปิ เต นาภิปรามสเนน นิพฺพตฺตาติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉาฯ ยทิ, ภนฺเต, ตถาคเตน ภณิตํ ‘สาโม จ กุมาโร มณฺฑพฺโย จ มาณวโก นาภิปรามสเนน นิพฺพตฺตา’’ติ, เตน หิ ‘ติณฺณํ โข ปน, ภิกฺขเว, สนฺนิปาตา คพฺภสฺส อวกฺกนฺติ โหตี’ติ ยํ วจนํ, ตมฺปิ มิจฺฉาฯ อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปญฺโห สุคมฺภีโร สุนิปุโณ วิสโย พุทฺธิมนฺตานํ, โส ตวานุปฺปตฺโต, ฉินฺท วิมติปถํ, ธาเรหิ ญาณวรปฺปชฺโชต’’นฺติฯ

‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘ติณฺณํ โข ปน, ภิกฺขเว, สนฺนิปาตา คพฺภสฺส อวกฺกนฺติ โหติ, อิธ มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺติ, มาตา จ อุตุนี โหติ, คนฺธพฺโพ จ ปจฺจุปฏฺฐิโต โหติ, เอวํ ติณฺณํ สนฺนิปาตา คพฺภสฺส อวกฺกนฺติ โหตี’ติฯ ภณิตญฺจ ‘สาโม จ กุมาโร มณฺฑพฺโย จ มาณวโก นาภิปรามสเนน นิพฺพตฺตา’’ติฯ ‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, เยน การเณน ปญฺโห สุวินิจฺฉิโต โหติ, เตน การเณน มํ สญฺญาเปหี’’ติฯ

‘‘สุตปุพฺพํ ปน ตยา, มหาราช, สํกิจฺโจ จ กุมาโร อิสิสิงฺโค จ ตาปโส เถโร จ กุมารกสฺสโป ‘อิมินา นาม เต นิพฺพตฺตา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สุยฺยติ, อพฺภุคฺคตา เตสํ ชาติ, ทฺเว มิคเธนุโย ตาว อุตุนิกาเล ทฺวินฺนํ ตาปสานํ ปสฺสาวฏฺฐานํ อาคนฺตฺวา สสมฺภวํ ปสฺสาวํ ปิวิํสุ, เตน ปสฺสาวสมฺภเวน สํกิจฺโจ จ กุมาโร อิสิสิงฺโค จ ตาปโส นิพฺพตฺตาฯ

เถรสฺส อุทายิสฺส ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปคตสฺส รตฺตจิตฺเตน ภิกฺขุนิยา องฺคชาตํ อุปนิชฺฌายนฺตสฺส สมฺภวํ กาสาเว มุจฺจิฯ อถ โข อายสฺมา อุทายิ ตํ ภิกฺขุนิํ เอตทโวจ ‘คจฺฉ ภคินิ, อุทกํ อาหร อนฺตรวาสกํ โธวิสฺสามี’ติฯ ‘อาหรยฺย อหเมว โธวิสฺสามี’ติฯ ตโต สา ภิกฺขุนี อุตุนิสมเย ตํ สมฺภวํ เอกเทสํ มุเขน อคฺคเหสิ, เอกเทสํ องฺคชาเต ปกฺขิปิ, เตน เถโร กุมารกสฺสโป นิพฺพตฺโตติ เอตํ ชโน อาหา’’ติฯ

‘‘อปิ นุ โข ตฺวํ, มหาราช, สทฺทหสิ ตํ วจน’’นฺติ? ‘‘อาม ภนฺเต, พลวํ ตตฺถ มยํ การณํ อุปลภาม, เยน มยํ การเณน สทฺทหาม ‘อิมินา การเณน นิพฺพตฺตา’’ติฯ ‘‘กิํ ปเนตฺถ, มหาราช, การณ’’นฺติ? ‘‘สุปริกมฺมกเต , ภนฺเต, กลเล พีชํ นิปติตฺวา ขิปฺปํ สํวิรุหตี’’ติ ฯ ‘‘อาม มหาราชา’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข, ภนฺเต, สา ภิกฺขุนี อุตุนี สมานา สณฺฐิเต กลเล รุหิเร ปจฺฉินฺนเวเค ฐิตาย ธาตุยา ตํ สมฺภวํ คเหตฺวา ตสฺมิํ กลเล ปกฺขิปิ, เตน ตสฺสา คพฺโภ สณฺฐาสิ, เอวํ ตตฺถ การณํ ปจฺเจม เตสํ นิพฺพตฺติยา’’ติฯ ‘‘เอวเมตํ, มหาราช, ตถา สมฺปฏิจฺฉามิ, โยนิปฺปเวเสน คพฺโภ สมฺภวตีติฯ สมฺปฏิจฺฉสิ ปน, ตฺวํ มหาราช, เถรสฺส กุมารกสฺสปสฺส คพฺภาวกฺกมน’’นฺติ? ‘‘อาม ภนฺเต’’ติฯ ‘‘สาธุ, มหาราช, ปจฺจาคโตสิ มม วิสยํ, เอกวิเธนปิ คพฺภาวกฺกนฺติํ กถยนฺโต มมานุพลํ ภวิสฺสสิ, อถ ยา ปน ตา ทฺเว มิคเธนุโย ปสฺสาวํ ปิวิตฺวา คพฺภํ ปฏิลภิํสุ, ตาสํ ตฺวํ สทฺทหสิ คพฺภสฺสาวกฺกมน’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ยํ กิญฺจิ ภุตฺตํ ปีตํ ขายิตํ เลหิตํ, สพฺพํ ตํ กลลํ โอสรติ, ฐานคตํ วุฑฺฒิมาปชฺชติฯ ยถา, ภนฺเต นาคเสน, ยา กาจิ สริตา นาม, สพฺพา ตา มหาสมุทฺทํ โอสรนฺติ, ฐานคตา วุฑฺฒิมาปชฺชนฺติฯ เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, ยํ กิญฺจิ ภุตฺตํ ปีตํ ขายิตํ เลหิตํ, สพฺพํ ตํ กลลํ โอสรติ, ฐานคตํ วุฑฺฒิมาปชฺชติ, เตนาหํ การเณน สทฺทหามิ มุขคเตนปิ คพฺภสฺส อวกฺกนฺติ โหตี’’ติฯ ‘‘สาธุ, มหาราช, คาฬฺหตรํ อุปคโตสิ มม วิสยํ, มุขปาเนนปิ ทฺวยสนฺนิปาโต ภวติฯ สํกิจฺจสฺส จ, มหาราช, กุมารสฺส อิสิสิงฺคสฺส จ ตาปสสฺส เถรสฺส จ กุมารกสฺสปสฺส คพฺภาวกฺกมนํ สมฺปฏิจฺฉสี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สนฺนิปาโต โอสรตี’’ติฯ

‘‘สาโมปิ, มหาราช, กุมาโร มณฺฑพฺโยปิ มาณวโก ตีสุ สนฺนิปาเตสุ อนฺโตคธา, เอกรสา เยว ปุริเมน, ตตฺถ การณํ วกฺขามิฯ

ทุกูโล จ, มหาราช, ตาปโส ปาริกา จ ตาปสี อุโภปิ เต อรญฺญวาสา อเหสุํ ปวิเวกาธิมุตฺตา อุตฺตมตฺถคเวสกา, ตปเตเชน ยาว พฺรหฺมโลกํ สนฺตาเปสุํ ฯ เตสํ ตทา สกฺโก เทวานมินฺโท สายํ ปาตํ อุปฏฺฐานํ อาคจฺฉติฯ โส เตสํ ครุกตเมตฺตตาย อุปธาเรนฺโต อทฺทส อนาคตมทฺธาเน ทฺวินฺนมฺปิ เตสํ จกฺขูนํ อนฺตรธานํ, ทิสฺวา เต เอวมาห ‘เอกํ เม, โภนฺโต, วจนํ กโรถ, สาธุ เอกํ ปุตฺตํ ชเนยฺยาถ, โส ตุมฺหากํ อุปฏฺฐาโก ภวิสฺสติ อาลมฺพโน จา’ติฯ ‘อลํ, โกสิย, มา เอวํ ภณี’ติฯ เต ตสฺส ตํ วจนํ น สมฺปฏิจฺฉิํสุฯ อนุกมฺปโก อตฺถกาโม สกฺโก เทวานมินฺโท ทุติยมฺปิ…เป.… ตติยมฺปิ เต เอวมาห ‘เอกํ เม, โภนฺโต, วจนํ กโรถ, สาธุ เอกํ ปุตฺตํ ชเนยฺยาถ, โส ตุมฺหากํ อุปฏฺฐาโก ภวิสฺสติ อาลมฺพโน จา’ติฯ ตติยมฺปิ เต อาหํสุ ‘อลํ, โกสิย, มา ตฺวํ โข อมฺเห อนตฺเถ นิโยเชหิ, กทายํ กาโย น ภิชฺชิสฺสติ, ภิชฺชตุ อยํ กาโย เภทนธมฺโม, ภิชฺชนฺติยาปิ ธรณิยา ปตนฺเตปิ เสลสิขเร ผลนฺเตปิ อากาเส ปตนฺเตปิ จนฺทิมสูริเย เนว มยํ โลกธมฺเมหิ มิสฺสยิสฺสาม, มา ตฺวํ อมฺหากํ สมฺมุขภาวํ อุปคจฺฉ, อุปคตสฺส เต เอโส วิสฺสาโส, อนตฺถจโร ตฺวํ มญฺเญ’ติฯ

ตโต สกฺโก เทวานมินฺโท เตสํ มนํ อลภมาโน ครุกโต ปญฺชลิโก ปุน ยาจิ ‘ยทิ เม วจนํ น อุสฺสหถ กาตุํ, ยทา ตาปสี อุตุนี โหติ ปุปฺผวตี, ตทา ตฺวํ, ภนฺเต, ทกฺขิเณน หตฺถงฺคุฏฺเฐน นาภิํ ปรามเสยฺยาสิ, เตน สา คพฺภํ ลจฺฉติ, สนฺนิปาโต เยเวส คพฺภาวกฺกนฺติยา’ติฯ ‘สกฺโกมหํ, โกสิย, ตํ วจนํ กาตุํ, น ตาวตเกน อมฺหากํ ตโป ภิชฺชติ, โหตู’ติ สมฺปฏิจฺฉิํสุฯ ตาย จ ปน เวลาย เทวภวเน อตฺถิ เทวปุตฺโต อุสฺสนฺนกุสลมูโล ขีณายุโก อายุกฺขยปฺปตฺโต ยทิจฺฉกํ สมตฺโถ โอกฺกมิตุํ อปิ จกฺกวตฺติกุเลปิฯ อถ สกฺโก เทวานมินฺโท ตํ เทวปุตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาห ‘เอหิ โข, มาริส, สุปภาโต เต ทิวโส, อตฺถสิทฺธิ อุปคตา, ยมหํ เต อุปฏฺฐานมาคมิํ, รมณีเย เต โอกาเส วาโส ภวิสฺสติ, ปติรูเป กุเล ปฏิสนฺธิ ภวิสฺสติ, สุนฺทเรหิ มาตาปิตูหิ วฑฺเฒตพฺโพ, เอหิ เม วจนํ กโรหี’ติ ยาจิฯ ทุติยมฺปิ…เป.… ตติยมฺปิ ยาจิ สิรสิ ปญฺชลิกโตฯ

ตโต โส เทวปุตฺโต เอวมาห ‘กตมํ ตํ, มาริส, กุลํ, ยํ ตฺวํ อภิกฺขณํ กิตฺตยสิ ปุนปฺปุน’นฺติฯ ‘ทุกูโล จ ตาปโส ปาริกา จ ตาปสี’ติฯ โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ตุฏฺโฐ สมฺปฏิจฺฉิ ‘สาธุ, มาริส, โย ตว ฉนฺโท, โส โหตุ, อากงฺขมาโน อหํ, มาริส, ปตฺถิเต กุเล อุปฺปชฺเชยฺยํ, กิมฺหิ กุเล อุปฺปชฺชามิ อณฺฑเช วา ชลาพุเช วา สํเสทเช วา โอปปาติเก วา’ติ? ‘ชลาพุชาย, มาริส, โยนิยา อุปฺปชฺชาหี’ติฯ อถ สกฺโก เทวานมินฺโท อุปฺปตฺติทิวสํ วิคเณตฺวา ทุกูลสฺส ตาปสสฺส อาโรเจสิ ‘อสุกสฺมิํ นาม ทิวเส ตาปสี อุตุนี ภวิสฺสติ ปุปฺผวตี, ตทา ตฺวํ, ภนฺเต, ทกฺขิเณน หตฺถงฺคุฏฺเฐน นาภิํ ปรามเสยฺยาสี’ติฯ ตสฺมิํ, มหาราช, ทิวเส ตาปสี จ อุตุนี ปุปฺผวตี อโหสิ, เทวปุตฺโต จ ตตฺถูปโค ปจฺจุปฏฺฐิโต อโหสิ, ตาปโส จ ทกฺขิเณน หตฺถงฺคุฏฺเฐน ตาปสิยา นาภิํ ปรามสิ, อิติ เต ตโย สนฺนิปาตา อเหสุํ, นาภิปรามสเนน ตาปสิยา ราโค อุทปาทิ, โส ปนสฺสา ราโค นาภิปรามสนํ ปฏิจฺจ มา ตฺวํ สนฺนิปาตํ อชฺฌาจารเมว มญฺญิ, อูหสนมฺปิ [หสนมฺปิ (ก.)] สนฺนิปาโต, อุลฺลปนมฺปิ สนฺนิปาโต, อุปนิชฺฌายนมฺปิ สนฺนิปาโต, ปุพฺพภาคภาวโต ราคสฺส อุปฺปาทาย อามสเนน สนฺนิปาโต ชายติ, สนฺนิปาตา โอกฺกมนํ โหตีติฯ

‘‘อนชฺฌาจาเรปิ, มหาราช, ปรามสเนน คพฺภาวกฺกนฺติ โหติฯ ยถา, มหาราช, อคฺคิ ชลมาโน อปรามสโนปิ อุปคตสฺส สีตํ พฺยปหนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, อนชฺฌาจาเรปิ ปรามสเนน คพฺภาวกฺกนฺติ โหติฯ

‘‘จตุนฺนํ, มหาราช, วเสน สตฺตานํ คพฺภาวกฺกนฺติ โหติ กมฺมวเสน โยนิวเสน กุลวเสน อายาจนวเสน, อปิ จ สพฺเพเปเต สตฺตา กมฺมสมฺภวา กมฺมสมุฏฺฐานา

‘‘กถํ, มหาราช, กมฺมวเสน สตฺตานํ คพฺภาวกฺกนฺติ โหติ? อุสฺสนฺนกุสลมูลา, มหาราช, สตฺตา ยทิจฺฉกํ อุปฺปชฺชนฺติ ขตฺติยมหาสาลกุเล วา พฺราหฺมณมหาสาลกุเล วา คหปติมหาสาลกุเล วา เทเวสุ วา อณฺฑชาย วา โยนิยา ชลาพุชาย วา โยนิยา สํเสทชาย วา โยนิยา โอปปาติกาย วา โยนิยาฯ

ยถา, มหาราช, ปุริโส อฑฺโฒ มหทฺธโน มหาโภโค ปหูตชาตรูปรชโต ปหูตวิตฺตูปกรโณ ปหูตธนธญฺโญ ปหูตญาติปกฺโข ทาสิํ วา ทาสํ วา เขตฺตํ วา วตฺถุํ วา คามํ วา นิคมํ วา ชนปทํ วา ยํ กิญฺจิ มนสา อภิปตฺถิตํ, ยทิจฺฉกํ ทฺวิคุณติคุณมฺปิ ธนํ ทตฺวา กิณาติ, เอวเมว โข, มหาราช, อุสฺสนฺนกุสลมูลา สตฺตา ยทิจฺฉกํ อุปฺปชฺชนฺติ ขตฺติยมหาสาลกุเล วา พฺราหฺมณมหาสาลกุเล วา คหปติมหาสาลกุเล วา เทเวสุ วา อณฺฑชาย วา โยนิยา ชลาพุชาย วา โยนิยา สํเสทชย วา โยนิยา โอปปาติกาย วา โยนิยาฯ เอวํ กมฺมวเสน สตฺตานํ คพฺภาวกฺกนฺติ โหติฯ

‘‘กถํ โยนิวเสน สตฺตานํ คพฺภาวกฺกนฺติ โหติ? กุกฺกุฏานํ, มหาราช, วาเตน คพฺภาวกฺกนฺติ โหติฯ พลากานํ เมฆสทฺเทน คพฺภาวกฺกนฺติ โหติฯ สพฺเพปิ เทวา อคพฺภเสยฺยกา สตฺตา เยว, เตสํ นานาวณฺเณน คพฺภาวกฺกนฺติ โหติฯ ยถา, มหาราช, มนุสฺสา นานาวณฺเณน มหิยา จรนฺติ, เกจิ ปุรโต ปฏิจฺฉาเทนฺติ, เกจิ ปจฺฉโต ปฏิจฺฉาเทนฺติ, เกจิ นคฺคา โหนฺติ, เกจิ ภณฺฑู โหนฺติ เสตปฏธรา, เกจิ โมฬิพทฺธา โหนฺติ, เกจิ ภณฺฑู กาสาววสนา โหนฺติ, เกจิ กาสาววสนา โมฬิพทฺธา โหนฺติ, เกจิ ชฏิโน วากจีรธรา [วากจีรา (ก.)] โหนฺติ, เกจิ จมฺมวสนา โหนฺติ, เกจิ รสฺมิโย นิวาเสนฺติ, สพฺเพเปเต มนุสฺสา นานาวณฺเณน มหิยา จรนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, สตฺตา เยว เต สพฺเพ, เตสํ นานาวณฺเณน คพฺภาวกฺกนฺติ โหติฯ เอวํ โยนิวเสน สตฺตานํ คพฺภาวกฺกนฺติ โหติฯ

‘‘กถํ กุลวเสน สตฺตานํ คพฺภาวกฺกนฺติ โหติ? กุลํ นาม, มหาราช, จตฺตาริ กุลานิ อณฺฑชํ ชลาพุชํ สํเสทชํ โอปปาติกํฯ ยทิ ตตฺถ คนฺธพฺโพ ยโต กุโตจิ อาคนฺตฺวา อณฺฑเช กุเล อุปฺปชฺชติ, โส ตตฺถ อณฺฑโช โหติ…เป.… ชลาพุเช กุเล…เป.… สํเสทเช กุเล…เป.… โอปปาติเก กุเล อุปฺปชฺชติ, โส ตตฺถ โอปปาติโก โหติฯ เตสุ เตสุ กุเลสุ ตาทิสา เยว สตฺตา สมฺภวนฺติฯ

ยถา, มหาราช, หิมวติ เนรุปพฺพตํ เย เกจิ มิคปกฺขิโน อุเปนฺติ, สพฺเพ เต สกวณฺณํ วิชหิตฺวา สุวณฺณวณฺณา โหนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ คนฺธพฺโพ ยโต กุโตจิ อาคนฺตฺวา อณฺฑชํ โยนิํ อุปคนฺตฺวา สภาววณฺณํ วิชหิตฺวา อณฺฑโช โหติ…เป.… ชลาพุชํ…เป.… สํเสทชํ…เป.… โอปปาติกํ โยนิํ อุปคนฺตฺวา สภาววณฺณํ วิชหิตฺวา โอปปาติโก โหติ, เอวํ กุลวเสน สตฺตานํ คพฺภาวกฺกนฺติ โหติฯ

‘‘กถํ อายาจนวเสน สตฺตานํ คพฺภาวกฺกนฺติ โหติ? อิธ, มหาราช, กุลํ โหติ อปุตฺตกํ พหุสาปเตยฺยํ สทฺธํ ปสนฺนํ สีลวนฺตํ กลฺยาณธมฺมํ ตปนิสฺสิตํ, เทวปุตฺโต จ อุสฺสนฺนกุสลมูโล จวนธมฺโม โหติฯ อถ สกฺโก เทวานมินฺโท ตสฺส กุลสฺส อนุกมฺปาย ตํ เทวปุตฺตํ อายาจติ ‘ปณิเธหิ, มาริส, อสุกสฺส กุลสฺส มเหสิยา กุจฺฉิ’นฺติฯ โส ตสฺส อายาจนเหตุ ตํ กุลํ ปณิเธติฯ ยถา, มหาราช, มนุสฺสา ปุญฺญกามา สมณํ มโนภาวนียํ อายาจิตฺวา เคหํ อุปเนนฺติ, อยํ อุปคนฺตฺวา สพฺพสฺส กุลสฺส สุขาวโห ภวิสฺสตีติฯ เอวเมว โข, มหาราช, สกฺโก เทวานมินฺโท ตํ เทวปุตฺตํ อายาจิตฺวา ตํ กุลํ อุปเนติฯ เอวํ อายาจนวเสน สตฺตานํ คพฺภาวกฺกนฺติ โหติฯ

‘‘สาโม, มหาราช, กุมาโร สกฺเกน เทวานมินฺเทน อายาจิโต ปาริกาย ตาปสิยา กุจฺฉิํ โอกฺกนฺโตฯ สาโม, มหาราช, กุมาโร กตปุญฺโญ, มาตาปิตโร สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา, อายาจโก สกฺโก, ติณฺณํ เจโตปณิธิยา สาโม กุมาโร นิพฺพตฺโตฯ อิธ, มหาราช, นยกุสโล ปุริโส สุกฏฺเฐ อนูปเขตฺเต พีชํ โรเปยฺย, อปิ นุ ตสฺส พีชสฺส อนฺตรายํ วิวชฺเชนฺตสฺส วุฑฺฒิยา โกจิ อนฺตราโย ภเวยฺยา’’ติ ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, นิรุปฆาตํ พีชํ ขิปฺปํ สํวิรุเหยฺยา’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, สาโม กุมาโร มุตฺโต อุปฺปนฺนนฺตราเยหิ ติณฺณํ เจโตปณิธิยา นิพฺพตฺโตฯ

‘‘อปิ นุ โข, มหาราช, สุตปุพฺพํ ตยา อิสีนํ มโนปโทเสน อิทฺโธ ผีโต มหาชนปโท สชโน สมุจฺฉินฺโน’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สุยฺยติฯ มหิยา ทณฺฑการญฺญํ [ทณฺฑกีรญฺญํ (ม. นิ. 2.65)] มชฺฌารญฺญํ กาลิงฺคารญฺญํ มาตงฺคารญฺญํ, สพฺพํ ตํ อรญฺญํ อรญฺญภูตํ, สพฺเพเปเต ชนปทา อิสีนํ มโนปโทเสน ขยํ คตา’’ติฯ

‘‘ยทิ , มหาราช, เตสํ มโนปโทเสน สุสมิทฺธา ชนปทา อุจฺฉิชฺชนฺติ, อปิ นุ โข เตสํ มโนปสาเทน กิญฺจิ นิพฺพตฺเตยฺยา’’ติ? ‘‘อาม ภนฺเต’’ติฯ ‘‘เตน หิ, มหาราช, สาโม กุมาโร ติณฺณํ พลวนฺตานํ เจโตปสาเทน นิพฺพตฺโต อิสินิมฺมิโต เทวนิมฺมิโต ปุญฺญนิมฺมิโตติฯ เอวเมตํ, มหาราช, ธาเรหิฯ

‘‘ตโยเม, มหาราช, เทวปุตฺตา สกฺเกน เทวานมินฺเทน อายาจิตา กุลํ อุปฺปนฺนาฯ กตเม ตโย? สาโม กุมาโร มหาปนาโท กุสราชา, ตโยเปเต โพธิสตฺตา’’ติฯ ‘‘สุนิทฺทิฏฺฐา, ภนฺเต นาคเสน, คพฺภาวกฺกนฺติ, สุกถิตํ การณํ, อนฺธกาโร อาโลโก กโต, ชฏา วิชฏิตา, นิจฺฉุทฺธา ปรวาทา, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติฯ

คพฺภาวกฺกนฺติปญฺโห ฉฏฺโฐฯ

7. สทฺธมฺมนฺตรธานปญฺโห

[7] ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘ปญฺเจว ทานิ, อานนฺท, วสฺสสตานิ [วสฺสสหสฺสานิ (สี.) ปสฺส อ. นิ. 8.51] สทฺธมฺโม ฐสฺสตี’ติฯ ปุน จ ปรินิพฺพานสมเย สุภทฺเทน ปริพฺพาชเกน ปญฺหํ ปุฏฺเฐน ภควตา ภณิตํ ‘อิเม จ, สุภทฺท [ที. นิ. 2.214 ปสฺสิตพฺพํ], ภิกฺขู สมฺมา วิหเรยฺยุํ, อสุญฺโญ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสา’ติ, อเสสวจนเมตํ, นิสฺเสสวจนเมตํ, นิปฺปริยายวจนเมตํฯ ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคเตน ภณิตํ ‘ปญฺเจว ทานิ, อานนฺท, วสฺสสตานิ สทฺธมฺโม ฐสฺสตี’ติ, เตน หิ ‘อสุญฺโญ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสา’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉาฯ ยทิ ตถาคเตน ภณิตํ ‘อสุญฺโญ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสา’ติ, เตน หิ ‘ปญฺเจว ทานิ, อานนฺท, วสฺสสตานิ สทฺธมฺโม ฐสฺสตี’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉาฯ อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปญฺโห คหนโตปิ คหนตโร พลวโตปิ พลวตโร คณฺฐิโตปิ คณฺฐิตโร, โส ตวานุปฺปตฺโต, ตตฺถ เต ญาณพลวิปฺผารํ ทสฺเสหิ มกโร วิย สาครพฺภนฺตรคโต’’ติฯ

‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘ปญฺเจว ทานิ, อานนฺท, วสฺสสตานิ สทฺธมฺโม ฐสฺสตี’ติฯ