เมนู

วรรณนานิทเทสแห่งปุเรชาตปัจจัย


ผู้ศึกษาพึงทราบวินิจฉัยใน ปุเรชาตปัจจัยนิทเทส ต่อไป.
ชื่อว่า ปุเรชาตะ ในคำว่า ปุเรชาตปจฺจโย นี้ เป็นปัจจัยแก่
ธรรมใด ต้องเกิดก่อนกว่าธรรมนั้น คือล่วงเลยอุปาทขณะไปถึงฐิติ-
ขณะแล้ว.

คำว่า จกฺขฺวายตนํ เป็นต้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสด้วยอำนาจ
วัตถุปุเรชาตปัจจัย. คำว่า รูปายตนํ เป็นต้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส
ด้วยอำนาจอารัมมณปุเรชาตปัจจัย. คำว่า กิญฺจิ กาลํ ปุเรชาตปจฺจเยน
(บางคราวเป็นปัจจัยด้วยอำนาจของปุเรชาตปัจจัย) พระองค์ตรัสหมายถึง
ปวัตติกาล. คำว่า กิญฺจิ กาลํ น ปุเรชาตปจฺจเยน (บางคราวก็ไม่เป็น
ปัจจัยด้วยอำนาจของปุเรชาตปัจจัย) ตรัสหมายเอาปฏิสนธิกาล. บาลีนี้มา
แล้วด้วยอำนาจวัตถุและอารมณ์ในปัญจทวารทั้งหมด ไม่ได้มาด้วยอำนาจ
วัตถุในมโนทวาร. แต่ในปัญหาวาระ ได้อารัมมณปุเรชาตปัจจัยแม้ใน
มโนทวารด้วย เพราะบาลีมาแล้วว่า พระเสกขะหรือปุถุชน ย่อมเห็น
แจ้งซึ่งจักษุอันเป็นอารมณ์ที่เกิดก่อน โดยความเป็นอนิจจัง ทุกขัง
อนัตตา. ส่วนในที่นี้ ทรงแสดงเทศนาด้วยอำนาจธรรมที่มีส่วนเหลือ.
พรรณนาบาลีในปุเรชาตปัจจัยนิทเทสเพียงเท่านี้.
ก็ปุเรชาตปัจจัยนี้ มีแต่รูปล้วน ๆ. ก็แลรูปนั้น ได้แก่รูปรูป1 18
เท่านั้น
(รูปที่แตกสลายเพราะปัจจัยที่เป็นข้าศึก มีเย็น ร้อน เป็นต้น )
ที่เลยอุปาทขณะแล้วถึงฐิติขณะ. รูปทั้งหมดมี 2 อย่าง คือเป็นวัตถุ-
1. รูปรูป หมายถึง นิปผันนรูป 18.