เมนู

บทว่า เอกํ 1 วาระ ในฆฏนาที่ 2 ความว่า อัพยากตะมีจักขุ
เป็นต้น เป็นปัจจัยแก่อกุศล.
ในฆฏนาที่ 3 ได้แก่ วัตถุเป็นปัจจัยแก่อกุศล. 2 ฆฏนาต่อจาก
นั้น ตรัสไว้ด้วยอำนาจอนันตรูปนิสสยปัจจัย. การคำนวณในฆฏนา
เหล่านั้นแจ่มแจ้งแล้ว.
ต่อจากนั้น อีก 2 ฆฏนา ตรัสด้วยอำนาจอนันตรูปนิสสยปัจจัย
และปกตูปนิสสยปัจจัย. ใน 2 ฆฏนานั้นโลกิยกุศลและอกุศลเจตนา ท่าน
ถือเอาโดยความเป็นปัจจัยในฆฏนาที่ 1 ส่วนในฆฏนาที่ 2 ถือเอาแต่
โลกุตตรกุศลอย่างเดียว.

ปุเรชาตมูลกนัย


พึงทราบวินิจฉัย ในฆฏนาที่มีปุเรชาตปัจจัยเป็นมูล ต่อไป. สอง
บทว่า อารมฺมเณ ตีณิ ในอารัมมณปัจจัย มี 3 วาระ คือ อัพยากตะ
เป็นปัจจัยแก่กุศลเป็นต้น. สองบทว่า อธิปติยา เอกํ ในอธิปติปัจจัย
มี 1 วาระ คือ อัพยากตะเป็นปัจจัยแก่อกุศล. ในฆฏนาที่เหลือก็นัยเดียว
กันนี้.
ก็ในนัยนี้มีฆฏนา 7 หมวด ในฆฏนาเหล่านั้น ฆฏนาที่ 1 ตรัส
ไว้ด้วยอำนาจวัตถุและอารมณ์.
ฆฏนาที่ 2 ตรัสไว้ด้วยอำนาจวัตถุ.
ฆฏนาที่ 3 ตรัสด้วยอำนาจอารมณ์.
ฆฏนาที่ 4 ตรัสด้วยอำนาจแห่งเวลาที่วัตถุเป็นอารมณ์.

ฆฏนาที่ 5 ตรัสด้วยอำนาจอารัมมณาธิปติปัจจัย.
ฆฏนาที่ 6 ตรัสด้วยอำนาจแห่งเวลาที่วัตถุเป็นอารัมมณาธิปติ.
ฆฏนาที่ 7 ตรัสด้วยอำนาจจักขุวัตถุเป็นต้น.

ปัจฉาชาตมูลกนัย


พึงทราบวินิจฉัย ในฆฏนาที่มีปัจฉชาตปัจจัยเป็นมูล ต่อไป.ปัจจัย
20 ย่อมประกอบไม่ได้ ประกอบได้เฉพาะ 3 ปัจจัยเท่านั้น ในนัยนี้มี
ฆฏนา 1 เท่านั้นเอง ฆฏนานั้นพึงทราบด้วยอำนาจกุศลเป็นต้นเป็นปัจจัย
แก่กาย. แม้ในนัยที่อาเสวนปัจจัยเป็นมูลก็มีฆฏนา 1 เหมือนกัน.

กัมมมูลกนัย


พึงทราบวินิจฉัย ในฆฏนาที่มีกัมมปัจจัยเป็นมูล ต่อไป. สอง
บทว่า อนนฺตเร เอกํ ในอนันตรปัจจัย มี 1 วาระ ท่านกล่าวไว้ด้วย
อำนาจเจตนาในมรรค. ในคำว่า อญฺญมญฺเญ ตีณิ ในอัญญมัญญปัจจัย
มี 3 วาระ พึงถือเอาแม้วัตถุในปฏิสนธิกาลด้วย. สองบทว่า อุปนิสฺสเย
เทฺว
ในอุปนิสสยปัจจัย มี 2 วาระ คือ วาระ 2 ที่กล่าวไว้ในหนหลัง
ด้วยอำนาจอนันตรูปนิสสยปัจจัยและปกตูปนิสสยปัจจัย. แม้ฆฏนาที่เหลือ
พึงทราบตามนัยที่กล่าวแล้วในหนหลังดังนี้แล. ก็ในนัยนี้มีฆฏนา11
หมวด บรรดาฆฏนาเหล่านั้น 2 ฆฏนาแรกตรัสด้วยอำนาจนานักขณิก-
กัมมปัจจัย โดยแบ่งเป็นปกตูปนิสสัยและอนันตรูปนิสสัย
นอกจาก