เมนู

เหตุข้างหน้าเกี่ยวเนื่องด้วยมรรค เพราะอโมหเหตุเป็นวีมังสาธิปติ และ
เพราะวีมังสาธิปติเป็นตัวสัมมาทิฏฐิ. อนึ่ง แม้วิรยะก็จัดเป็นมรรค เพราะ
เป็นสัมมาวายามะ และมิจฉาวายามะ เพราะฉะนั้น ฆฏนาทั้งหลายพระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสหมุนเวียนไปกับวิริยะนั้นว่า เหมือนกันกับฆฏนา
ที่ตรัสไว้ด้วยอำนาจแห่งเหตุข้างหน้า. วิธีคำนวณแม้ในฆฏนาเหล่านั้น
แจ่มแจ้งแล้วแล.

อนันตร-สมนันตรมูลกนัย


บทว่า สตฺต 7 นฆฏนาที่มี อนันตรปัจจัยและสมนันตรปัจจัย
เป็นมูล
ความว่า มีวิสัชนา 7 วาระอย่างนี้ คือ กุศลเป็นปัจจัยแก่กุศล
และแก่อัพยากตะ, อกุศลเป็นปัจจัยแก่อกุศลและแก่อัพยากตะ, อัพยา-
กตะเป็นปัจจัยแก่กุศลแก่อกุศล และแก่อัพยากตะแม้ทั้ง 3. สองบทว่า
กมฺเม เอกํ ในกัมมปัจจัย มี 1 วาระ คือ กุศลมัคคเจตนา เป็นปัจจัย
แก่วิปากาพยากตะของตน ก็ในปัจจัยเหล่านั้นมีฆฏนา 3 เท่านั้น ฆฏนา
เหล่านั้น ประกอบตามลำดับวิสัชนาที่มีวาระมาก.
พึงทราบวินิจฉัยใน ฆฏนาที่มีสหชาตปัจจัย อัญญมัญญปัจจัย และ
นิสสยปัจจัยเป็นมูล ต่อไป. ปัจจัยใด ๆ ที่ตรัสไว้ในทุมูลกนัย ปัจจัย
นั้นเป็นสภาคะกับปัจจัยที่อยู่ข้างต้น เพราะฉะนั้น ผู้ศึกษาครั้นทราบวิธี
คำนวณในทุมูลกนัยแล้ว พึงทราบวิธีคำนวณในฆฏนาทั้งหลายในที่ทุก
แห่งด้วยอำนาจปัจจัยที่คำนวณได้น้อยกว่าในบรรดาปัจจัย ที่นำมาเชื่อม
ข้างปลาย.

สหชาตมูลกนัย


บรรดาฆฏนาเหล่านั้น ฆฏนาที่มี สหชาตปัจจัยเป็นมูล มี 10
ฆฏนา ในฆฏนา10นั้นที่เป็น อวิปากฆฏนา มี 5 ฆฏนา เป็น สวิปาก-
ฆฏนา
มี 5 ฆฏนา.
ในสองอย่างนั้น ที่เป็น อวิปากฆฏนา ก่อน ใน ฆฏนาที่ 1 มี
วิสัชนา 9 วาระอย่างนี้ คือ กุศลเป็นปัจจัยแก่กุศล. แก่อัพยากตะและ
แก่กุสลาพยากตะ, กุสลาพยากตะเป็นปัจจัยแก่อัพยากตะ รวมเป็น 4
วาระ. อกุศลเป็นปัจจัยแก่อกุศล แก่อัพยากตะ แก่อกุสลาพยากตะ,
อกุสลาพยากตะเป็นปัจจัยแก่อัพยากคะ อัพยากตะเป็นปัจจัยแก่อัพยากตะ
เท่านั้น. บรรดาวิสัชนาเหล่านั้นในวิสัชนา 8 วาระ มีกุศลและอกุศล
เป็นต้น ได้ทั้งอรูป (นาม) และรูปที่มีจิตเป็นสมุฏฐาน ในอัพยากตะ
ได้วัตถุรูป. บรรดารูปทั้งหลาย วัตถุรูปเท่านั้นมีได้ในวิสัชนาฝ่ายอัพยากตะ
ใน ฆฏนาที่ 2.
บรรดาฆฏนาแม้ทั้ง 3 อรูปเท่านั้นมีได้ในฆฏนาที่ 3.
ใน ฆฏนาที่ 4 ได้เฉพาะรูปที่มีจิตเป็นสมุฏฐานเท่านั้น.
ใน ฆฏนาที่ 5 ได้อรูปธรรมกับวัตถุรูปในปฏิสนธิกาล.
ใน สวิปากฆฏนา ใน ฆฏนาที่ 1 ได้วิบากจิต และรูปที่มีวิบาก-
จิตเป็นสมุฏฐาน.
ฆฏนาที่ 2 ได้วิบากและวัตถุรูป.
ฆฏนาที่ 3 ได้วิบากอย่างเดียว.
ฆฏนาที่ 4 ได้รูปที่มีวิบากจิตเป็นสมุฏฐานอย่างเดียว.