นั้นเป็นปัจจัยแก่มโนธาตุ มโนวิญญาณธาตุ และแก่ธรรมทั้งหลาย
ที่ประกอบกับมโนธาตุ และมโนวิญญาณธาตุนั้น ด้วยอำนาจของอัตถิ
ปัจจัย.
วรรณนานิทเทสแห่งอัตถิปัจจัย
ผู้ศึกษาพึงทราบวินิจฉัยใน อัตถิปัจจัยนิทเทส ต่อไป.
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงอัตถิปัจจัย ด้วยอำนาจแห่งสหชาตะ
ด้วยคำว่า จตฺตาโร ขนฺธา เป็นต้น. ทรงแสดงอัตถิปัจจัยด้วยอำนาจแห่ง
ปุเรชาตะด้วยคำว่า จกฺขฺวายตนํ เป็นต้น. ในคำว่า ยํ รูปํ นิสฺสาย นี้
ทรงแสดงอัตถิปัจจัยด้วยอำนาจธรรมทั้งที่เป็น สหชาตะและปุเรชาตะ.
บาลีนี้มาแล้วด้วยอำนาจอัตถิปัจจัย แห่งธรรมทั้งที่เป็นสหชาตะและปุเร-
ชาตะทีเดียวด้วยประการฉะนี้.
แต่ใน ปัญหาวาระ ได้อัตถิปัจจัย ด้วยอำนาจแห่งอาหารและ
อินทรีย์ที่เป็นปัจฉาชาตะด้วย เพราะพระบาลีมาแล้วด้วยอำนาจธรรม
เหล่านี้ คือ สหชาตะ ปุเรชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาร อินทรีย์. แต่ใน
ที่มีพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเทศนา ด้วยอำนาจแห่งธรรมที่มีส่วนเหลือ.
พรรณนาบาลีในอธิการนี้เพียงเท่านี้.
ก็ชื่อว่า อัตถิปัจจัยนี้ มี 2 อย่าง คือโดยเป็นอัญญมัญญะ
และไม่ใช่อัญญมัญญะ. ใน 2 อย่างนั้น อัตถิปัจจัยที่เป็นอัญญมัญญะ
มี 3 อย่าง คืออรูปกับอรูป รูปกับรูป รูปและอรูปกับรูปและอรูป.
จริงอยู่ ในคำนี้ว่า ขันธ์ 4 เป็นอัตถิปัจจัยแก่อรูป พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสถึงอรูปเป็นปัจจัยกัน ด้วยอำนาจการเกิดขึ้นแห่งจิตทั้งหมด. ในคำนี้