เมนู

อตีตานาคตวาระ ปัจจนิก


รูปขันธมูล


รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี :-


บุคคลใดไม่ใช่เคยรู้แจ้งรูปขันธ์, บุคคลเหล่านั้นก็ไม่ใช่จักรู้แจ้ง
เวทนาขันธ์ ใช่ไหม ?
บุคคลเหล่าใดจักได้มรรค บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่เคยรู้แจ้งรูป-
ขันธ์ แต่จักรู้แจ้งเวทนาขันธ์, บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี
ปุถุชนเหล่าใดไม่ใช่จักได้มรรคก็ดี บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่เคยรู้แจ้งรูป-
ขันธ์ และไม่ใช่จักรู้แจ้งเวทนาขันธ์.
ก็หรือว่า บุคคลใดไม่ใช่จักรู้แจ้งเวทนาขันธ์, บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
เคยรู้แจ้งรูปขันธ์ ใช่ไหม ?
พระอรหันต์ ไม่ใช่จักรู้แจ้งเวทนาขันธ์ แต่เคยรู้แจ้งรูปขันธ์,
บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี ปุถุชนเหล่าใดไม่ใช่จักได้มรรคก็ดี
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักรู้แจ้งเวทนาขันธ์ และไม่ใช่เคยรู้แจ้งรูปขันธ์.
จบ รูปขันธมูละ เวทนาขันธมูลี
รูปขันธมูล จบ
อตีตานาคตวาระ ปัจจนิก จบ
ปริญญาวาระ จบ
ขันธยมก จบ

อรรถกถาปริญญาวาระ


แม้ในปริญญาวาระ อันมีในลำดับต่อจากปวัตติมหาวาระนั้น มี
ประเภทแห่งกาล 6 อย่างเท่านั้น มีนัย 2 อย่างโดยอนุโลมและปฏิโลม
แต่ในวาระทั้ง 3 คือ ปุคคลวาระ โอกาสวาระ ปุคคโลกาสวาระ ย่อม
ได้บุคคลวาระเท่านั้น ไม่ได้วาระนอกนี้.
ถามว่า เพราะเหตุไร ?
ตอบว่า เพราะมีคำวิสัชชนาอย่างเดียวกัน.
ก็ถ้าบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ย่อมรอบรู้รูปขันธ์ในที่ใดที่หนึ่งไซร้
ก็ย่อมรอบรู้แม้เวทนาขันธ์ ถ้าว่าย่อมรอบรู้เวทนาขันธ์ไซร้ ก็ย่อมรอบ
รู้แม้รูปขันธ์ ถ้าว่าบุคคลใดไม่รอบรู้รูปขันธ์ไซร้ ก็ย่อมไม่รอบรู้แม้
เวทนาขันธ์ ถ้าว่าไม่รอบรู้ซึ่งเวทนาขันธ์ ก็ย่อมไม่รอบรู้แม้รูปขันธ์
เพราะฉะนั้น ในวาระแม้เหล่านั้น พึงทราบว่า ย่อมไม่ได้วาระ 2
เหล่านั้น ในปริญญาวาระนี้ เพราะมีคำวิสัชชนาเหมือนกันว่า บุคคล
พึงทำการถามด้วยอำนาจคำถามเป็นต้นว่า ยตฺถ รูปกฺขนฺธํ ปริชานาติ
ตตฺถ เวทนากฺขนฺธํ ปริชานาติ
ดังนี้แล้ว พึงกระทำการวิสัชชนาว่า
อามนฺตา -ใช่ นั้นแหละ.
อีกอย่างหนึ่ง ปุคคลวาระ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงแล้ว
ในปริญญาวาระนี้ว่า ชื่อว่า ปริญญากิจ ย่อมมีแก่บุคคลเท่านั้นไม่มี