เมนู

โอกาสวาระ


กายสังขารมูล


กายสังขารมูละ ฯ ล ฯ


[1070] กายสังขารไม่ใช่จักเกิดในภูมิใด, ฯ ล ฯ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ

ปุคคโลกาสวาระ


กายสังขารมูล


กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-


[1071] กายสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจี-
สังขารที่ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
ปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่ง
จิตใดก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิ ในอรูปาวจรภูมิก็ดี กายสังขาร
ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารจักเกิดแก่บุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตก็ดี ปัจฉิมจิต
ของบุคคลทีไม่มีวิตกและไม่มีวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใดก็ดี บุคคลที่

กำลังเข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กาย-
สังขารไม่ใช่จักเกิด และวจีสังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กาย-
สังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
บุคคลที่เข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้น, บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตก็ดี ปัจฉิมจิตของบุคคลที่ไม่มี
วิตกและไม่มีวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใดก็ดี บุคคลที่กำลังเข้าจตุตถ-
ฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่จักเกิด
และกายสังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี

กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-


[1072] กายสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตต-
สังขารก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
ปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่ง
จิตใดก็ดี บุคคลที่เข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิก็ดี