ใช่.
ก็หรือว่า จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็จักเกิด
แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?
ปัจฉิมจิตของบุคคลที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารจักเกิดในลำดับแห่ง
จิตใด จิตตสังขารจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่จักเกิด
แก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลที่นอกจากนั้น จิตตสังขารจักเกิด และ
วจีสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ
โอกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ ฯ ล ฯ
[1063] กายสังขารจักเกิดในภูมิใด, ฯ ล ฯ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
ปุคคโลกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[1064] กายสังขารจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขารก็จักเกิด
แก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ กายสังขารจักเกิดแก่บุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น,
บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิก็ดี กายสังขาร
จักเกิด และวจีสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขารจักเกิด
แก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
ปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิจักเกิดในลำดับแห่งจิต
ใดก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิ ในรูปาวจรภูมิก็ดี วจีสังขารจักเกิดแก่
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้น, บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่นอกจากนั้นที่เกิดอยู่ใน
กามาวจรภูมิก็ดี วจีสังขารจักเกิด และกายสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี