เมนู

ในทุติยฌาน ในตติยฌาน ในจตุตถฌาน จิตตสังขารกำลัง
เกิดในภูมินั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น, ในปฐมฌาน
ในกามาวจรภูมิ ในรูปาวจรภูมิ ในอรูปาวจรภูมิ จิตตสังขารกำลังเกิด
และวจีสังขารก็กำลังเกิดในภูมินั้น.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ

ปุคคโลกาสวาระ


กายสังขารมูล


กายสังขารมูละ ฯ ล ฯ


[1042] กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, ฯลฯ
ปุคคลวาระก็ดี ปุคคโลกาสวาระก็ดี เป็นเช่นเดียวกัน.
กายสังขารมูล จบ
ปุคคโลกาสวาระ จบ
ปัจจุปปันนวาระ อนุโลม จบ

ปัจจุปปันนวาระ ปัจจนิก


ปุคคลวาระ


กายสังขารมูล


กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-


[1043] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขาร
ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?
เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งวิตกและ
วิจาร กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่วจีสังขารกำลัง
เกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด
เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งอวิตักกอวิจารจิต
ก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตต-
ภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และวจีสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่
บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, กายสังขาร
ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?
เว้นวิตกและวิจารเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัส-
สาสะ วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กายสังขารกำลัง
เกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด