เมนู

วิปาโกวิปากธัมมธัมโมติกถา



[1187] สกวาที วิบาก เป็นธรรมที่เป็นเหตุแห่งวิบาก หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. วิบากของวิบากนั้น ก็เป็นธรรมที่เป็นเหตุแห่งวิบาก
หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. วิบากของวิบากนั้น ก็เป็นธรรมที่เป็นเหตุแห่งวิบาก
หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เมื่อเป็นอย่างนั้น วิบากนั้น ๆ ก็ไม่มีการทำที่สุดทุกข์
ไม่มีความขาดตอนแห่งวัฏฏะ ไม่มีอนุปาทาปรินิพพาน หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1188] ส. วิบาก เป็นธรรมที่เป็นเหตุแห่งวิบาก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. คำว่า วิบาก หรือว่าธรรมที่เป็นเหตุแห่งวิบากก็ดี
คำว่าธรรมที่เป็นเหตุแห่งวิบาก หรือว่าวิบากก็ดี คำทั้ง 2 นี้ก็อย่างเดียว
กัน เสมอกัน เท่ากัน เหมือนกัน หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1189] ส. วิบาก เป็นธรรมที่เป็นเหตุแห่งวิบาก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. วิบาก กับธรรมที่เป็นเหตุแห่งวิบาก ธรรมที่เป็นเหตุ
แห่งวิบาก กับวิบาก สหรคตกัน เกิดร่วมกัน ระคนกัน สัมปยุตกัน เกิด-

ด้วยกัน ดับด้วยกัน มีวัตถุอันเดียวกัน มีอารมณ์อันเดียวกัน หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1190] ส. วิบาก เป็นธรรมที่เป็นเหตุแห่งวิบาก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. อกุศลอันนั้น วิบากแห่งอกุศลก็อันนั้นแล กุศลอันนั้น
วิบากแห่งกุศลก็อันนั้นแล หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1191] ส. วิบาก เป็นธรรมที่เป็นเหตุแห่งวิบาก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลฆ่าสัตว์ด้วยจิตใด ก็ไหม้ในนรกด้วยจิตนั้น
แหละ บุคคลให้ทานด้วยจิตใด ก็บันเทิงในสวรรค์โดยจิตนั้นแหละ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1192] ป. ไม่พึงกล่าวว่า วิบาก เป็นธรรมที่เป็นเหตุแห่งวิบาก
ส. ถูกแล้ว.
ป. วิบาก คือ ขันธ์ 4 ส่วนนามธรรม เป็นอัญญมัญญ-
ปัจจัย มิใช่ หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. หากว่า วิบาก คือ ขันธ์ 4 ส่วนนามธรรมเป็นอัญญ-
มัญญปัจจัย ด้วยเหตุนั้นนะท่านจึงต้องกล่าวว่า วิบากเป็นธรรมที่เป็นเหตุ
แห่งวิบาก.
วิปาโกวิปากธัมมธัมโมติกถา จบ

อรรถกถาวิปาโกวิปากธัมมธัมโมติกถา



ว่าด้วย วิปากะเป็นวิปากธัมมธรรม



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องวิบากเป็นวิปากธัมมธรรม คือวิบากเป็นธรรม
ที่เป็นเหตุให้วิปากะเกิดขึ้น. ในปัญหานั้น วิบากเป็นปัจจัยแก่วิบากด้วย
อำนาจแห่งอัญญมัญญปัจจัย เป็นต้นมีอยู่ ชนเหล่าใดมีความเห็นผิดดุจ
ลัทธิของนิกายอันธกะทั้งหลายว่า แม้วิบากก็เป็นวิปากธัมมธรรม คือ
เป็นธรรมที่เป็นเหตุให้วิบากเกิดขึ้น ดังนี้ คำถามของสกวาที หมายถึง
ชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที. คำว่า วิบากของวิบากนั้น
ก็เป็นธรรมที่เป็นเหตุแห่งวิบาก
ความว่า สกวาทีย่อมถามว่า วิบากใด
มีอยู่ วิบากแม้นั้นเป็นวิปากธัมมธรรมแก่วิบากที่เป็นวิปากธัมมธรรม
นั้นหรือ ? ปรวาทีตอบปฏิเสธหมายเอาภาวะแห่งการให้ผลต่อไป. ถูกถาม
ครั้งที่ 2 ตอบปฏิเสธ โดยผิดไปจากลัทธิ แต่ท่านก็ย่อมตอบรับรอง
หมายเอาความเกิดขึ้นแห่งวิบากอื่นเพราะเป็นปัจจัยแก่วิบากแม้นั้น. ก็
ครั้นเมื่อความเป็นเช่นนั้นมีอยู่ การไม่ตัดวัฏฏะย่อมปรากฏว่า วิบาก
แห่งวิบากแม้นั้นก็เป็นวิบากแห่งวิบากแม้นั้นต่อไป ราวกะกุศลและ
อกุศลหรือ ? ปรวาทีถูกถามปัญหานี้ ก็ตอบปฏิเสธเพราะกลัวผิดจากลัทธิ.
ก็ในการพิสูจน์ถ้อยคำว่า คำว่าวิบากหรือว่าธรรมที่เป็นเหตุแห่งวิบาก
ก็ดี
เป็นต้น ปรวาทีตอบปฏิเสธเพราะว่า ถ้าว่า ความที่วิบากเป็นอรรถ
อันเดียวกับธรรมที่เป็นเหตุแห่งวิบากไซร้ คำว่ากุศล อกุศลและอัพยากตะ
ก็จะพึงมีอรรถอันเดียวกันได้.