เมนู

อปรินิปผันนกถา


[1893] สกวาที รูปเป็นอปรินิปผันนะ หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. รูปมิใช่ของไม่เที่ยง มิใช่สังขตะ มิใช่ธรรมชาติที่
อิงอาศัยเกิดขึ้น มิใช่ธรรมชาติมีความสิ้นไปเป็นธรรมดา มิใช่ธรรมชาติ
ที่มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา มิใช่ธรรมชาติที่มีความคลายไปเป็น
ธรรมดา มิใช่ธรรมชาติที่มีความดับไปเป็นธรรมดา มิใช่ธรรมชาติที่มี
ความแปรไปเป็นธรรมดา หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. รูปเป็นของไม่เที่ยง เป็นสังขตะ อิงอาศัยเกิดขึ้น มี
ความเสื่อมไปเป็นธรรมดา มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา มีความคลายไป
เป็นธรรมดา มีความดับไปเป็นธรรมดา มีความแปรไปเป็นธรรมดา
มิใช่หรือ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า รูปเป็นของไม่เที่ยง เป็นสังขตะ ฯลฯ มีความ
แปรไปเป็นธรรมดา ก็ต้องไม่กล่าวว่า รูปเป็นอปรินิปผันนะ ดังนี้.
[1894] ส. ทุกข์เท่านั้น เป็นปรินิปผันนะ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
เป็นทุกข์ และ รูปก็ไม่เที่ยง มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้า

ตรัสว่าเป็นทุกข์ และ รูปก็ไม่เที่ยง ก็ต้องไม่กล่าวว่า ทุกข์เท่านั้นเป็น
ปรินิปผันนะ.
[1895] ส. เวทนา ฯลฯ สัญญา สังขาร วิญญาณ ฯลฯ
จักขายตนะ ฯลฯ ธัมมายตนะ ฯลฯ จักขุธาตุ ฯลฯ ธัมมธาตุ ฯลฯ
จักขุนทรีย์ ฯลฯ.
[1896] ส. อัญญาตาวินทรีย์ เป็นอปรินิปผันนะ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. อัญญาตาวินทรีย์ มิใช่ธรรมชาติที่ไม่เที่ยง ฯลฯ มิใช่
ธรรมชาติที่มีความแปรไปเป็นธรรมดา หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. อัญญาตาวินทรีย์ เป็นธรรมชาติไม่เที่ยง เป็นสังขตะ
ฯลฯ มีความแปรไปเป็นธรรมดา มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า อัญญาตาวินทรีย์เป็นธรรมชาติไม่เที่ยง
เป็นสังขตะอิงอาศัยเกิดขึ้น มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา มีความเสื่อมไป
เป็นธรรมดา มีความคลายไปเป็นธรรมดา มีความดับไปเป็นธรรมดา
มีความแปรไปเป็นธรรมดา ก็ต้องไม่กล่าวว่า อัญญาตาวินทรีย์ เป็น
อปรินิปผันนะ.
[1897] ส. ทุกข์เท่านั้น เป็นปรินิปผันนะ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
เป็นทุกข์ และ อัญญาตาวินทรีย์ก็ไม่เที่ยง มิใช่หรือ ?

ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส
ว่าเป็นทุกข์ และ อัญญาตาวินทรีย์ก็ไม่เที่ยง ก็ต้องไม่กล่าวว่า ทุกข์
เท่านั้นเป็นปรินิปผันนะ.
อปรินิปผันนกถา จบ

อรรถกถาอปรินิปผันนกถา


ว่าด้วย อปรินิปผันนะ


บัดนี้ ชื่อว่าเรื่อง อปรินิปผันนะ คือธรรมที่ไม่สำเร็จแล้ว หมายถึง
ธรรมที่ไม่เกิดขึ้นมาเพราะปัจจัยปรุงแต่ง. ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใดมี
ความเห็นผิดดุจลัทธิของนิกายอุตตราปถกะทั้งหลายบางพวก และเหตุวาทะ
ว่า ทุกข์เท่านั้นเป็นปรินิปผันนะ คือเป็นธรรมที่สำเร็จแล้วหรือเกิดขึ้น
แล้ว ส่วนธรรมที่เหลือ คือ ขันธ์ อายตนะ ธาตุ อินทรีย์ เป็นอปรินิปผันนะ
คือไม่สำเร็จแล้ว ไม่เกิดขึ้นแล้ว โดยอาศัยพระพุทธพจน์ว่า ก็ทุกข์เท่านั้น
ย่อมเกิดขึ้น ทุกข์เท่านั้นย่อมตั้งอยู่ด้วย ย่อมดับไปด้วย นอกจากทุกข์
ไม่มีอะไรเกิด นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับ
ดังนี้ คำถามของสกวาทีว่า
รูปเป็นอปรินิปผันนะหรือ หมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็น
ของปรวาที. ลำดับนั้น สกวาทีจึงกล่าวคำว่า รูปมิใช่ของไม่เที่ยง
เป็นต้น เพื่อท้วงว่า ถ้ารูปเป็นอปรินิปผันนะไซร้ รูปนั้นก็พึงมิใช่เป็น
ของไม่เที่ยงเป็นต้น. ปรวาที เมื่อไม่เห็นรูปเช่นนั้น จึงตอบปฏิเสธ.