เมนู

อาเสวนปัจจยตากถา


[1872] สกวาที ความเป็นอาเสวนปัจจัยอะไร ๆ ไม่มีหรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ปาณาติบาต อันบุคคลซ่องเสพแล้ว อบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็น
ไปพร้อมเพื่อนรก เป็นไปพร้อมเพื่อกำเนิดดิรัจฉาน เป็นไปพร้อมเพื่อ
วิสัยแห่งเปรต วิบากของปาณาติบาตอย่างเบาที่สุดก็เป็นไปพร้อมเพื่อ
ความเป็นผู้มีอายุน้อยเมื่อเกิดเป็นมนุษย์
ดังนี้1 เป็นสูตรมีอยู่จริง มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ถ้าอย่างนั้น ความเป็นอาเสวนปัจจัยบางอย่าง ก็มี
อยู่น่ะสิ.
[1873] ส. ความเป็นอาเสวนปัจจัยอะไร ๆ ไม่มี หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
อทินนานทาน อันบุคคลซ่องเสพแล้ว อบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็น
ไปพร้อมเพื่อนรก เป็นไปพร้อมเพื่อกำเนิดดิรัจฉาน เป็นไปพร้อมเพื่อ
วิสัยแห่งเปรต วิบากของอทินนาทานอย่างเบาที่สุดก็เป็นไปพร้อมเพื่อ
ความฉิบหายแห่งโภคะเมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ฯลฯ วิบากของกาเมสุมิจฉาจาร
อย่างเบาที่สุด ก็เป็นไปพร้อมเพื่อความเป็นผู้มีศัตรู มีเวรเมื่อเกิดเป็น
มนุษย์ ฯลฯ วิบากของมุสาวาทอย่างเบาที่สุด ก็เป็นไปพร้อมเพื่อความ


1. องฺ. อฏฐก. 23/130.

กล่าวตู่ด้วยคำไม่เป็นจริงเมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ฯลฯ วิบากแห่งวาจาส่อเสียด
อย่างเบาที่สุด ก็เป็นไปพร้อมเพื่อความแตกจากมิตร เมื่อเกิดเป็นมนุษย์
ฯลฯ วิบากแห่งวาจาหยาบอย่างเบาที่สุด ก็เป็นไปพร้อมเพื่อเสียงอัน
ไม่เป็นที่พอใจ เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ฯลฯ วิบากแห่งการพูดเพ้อเจ้ออย่าง
เบาที่สุด ก็เป็นไปพร้อมเพื่อความเป็นผู้มีวาจาอันไม่น่าเชื่อถือเมื่อเกิด
เป็นมนุษย์ ฯลฯ การดื่มสุราเมรัย อันบุคคลเสพแล้ว ฯลฯ วิบากแห่งการ
ดื่มสุราเมรัยอย่างเบาที่สุด ก็เป็นไปพร้อมเพื่อความเป็นคนบ้าเมื่อเกิด
เป็นมนุษย์
ดังนี้1 เป็นสูตรมีอยู่จริง มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ถ้าอย่างนั้น ความเป็นอาเสวนปัจจัยบางอย่างก็มีอยู่
น่ะสิ.
[1874] ส. ความเป็นอาเสวนปัจจัยอะไร ๆ ไม่มีหรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ความเห็นผิดอันบุคคลเสพแล้ว อบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไป
เพื่อนรกเป็นที่ไปพร้อมเพื่อกำเนิดดิรัจฉาน เป็นไปพร้อมเพื่อวิสัยแห่ง
เปรต
ดังนี้2 เป็นสูตรมีอยู่จริง มิใช่หรือ ?
ส. ถ้าอย่างนั้น ความเป็นอาเสวนปัจจัยบางอย่าง ก็มีอยู่
น่ะสิ.
[1875] ส. ความเป็นอาเสวนปัจจัยอะไร ๆ ไม่มีหรือ ?

1,2.องฺ. อฏฺฐก. 23/130.

ป. ถูกแล้ว.
ส. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ความดำริผิด ฯลฯ ความตั้งใจผิด อันบุคคลเสพแล้ว อบรมแล้ว ทำให้
มากแล้ว ฯลฯ เป็นไปพร้อมเพื่อวิสัยแห่งเปรต
ดังนี้1 เป็นสูตรมีอยู่จริง
มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ถ้าอย่างนั้น ความเป็นอาเสวนปัจจัยบางอย่าง ก็มีอยู่
น่ะสิ.
[1876] ส. ความเป็นอาเสวนปัจจัยอะไร ๆ ไม่มีหรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ความเห็นชอบอันบุคคลเสพแล้ว อบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมหยั่งลง
สู่อมตะ มีอมตะเป็นที่ไปในเบื้องหน้า มีอมตะเป็นปริโยสาน ดังนี้ เป็น
สูตรมีอยู่จริง มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ถ้าเช่นนั้น ความเป็นอาเสวนปัจจัยบางอย่าง ก็มีอยู่
น่ะสิ.
[1877] ส. ความเป็นอาเสวนปัจจัยอะไร ๆ ไม่มีหรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

1. องฺอฏฺฐก. 23/130.

ความดำริชอบอันบุคคลเสพแล้ว อบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ฯลฯ ความ
ตั้งใจชอบ อันบุคคลเสพแล้วโดยมาก อบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อม
หยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะที่เป็นไปในเบื้องหน้า มีอมตะเป็นปริโยสาน

ดังนี้ เป็นสูตรมีอยู่จริง มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ถ้าอย่างนั้น ความเป็นอาเสวนปัจจัยบางอย่าง ก็มีอยู่
น่ะสิ.
อาเสวนปัจจยตากถา จบ

อรรถกถาอาเสวนปัจจยตากถา


ว่าด้วย ความเป็นอาเสวนปัจจัย


บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องความเป็นอาเสวนปัจจัย คือ ความเป็นปัจจัย
เพราะการซ่องเสพ. ในปัญหานั้น ชนเหล่าใดมีความเห็นผิดดุจลัทธิของ
นิกายอุตตราปถกะบางพวกนั้นนั่นแหละว่า ธรรมทั้งปวงเป็นชั่วขณะ
ธรรมอะไร ๆ ตั้งอยู่แม้ครู่หนึ่งแล้ว ชื่อว่า ซ่องเสพซึ่งอาเสวนปัจจัย
หามีไม่ เพราะฉะนั้นความเป็นอาเสวนปัจจัยไม่มีอยู่โดยแท้ อนึ่ง ธรรม
อะไร ๆ ที่เกิดขึ้นแล้วหาความเป็นอาเสวนปัจจัย ก็ไม่ได้ ดังนี้ คำถาม
ของสกวาที หมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที. ลำดับนั้น
สกวาทีเพื่อจะให้ปรวาทีนั้นรู้ด้วยพระสูตรนั่นแหละ จึงนำพระสูตรมาว่า
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปาณาติบาตอันบุคคล
ซ่องเสพแล้ว
ดังนี้เป็นต้น มิใช่หรือ ? พระสูตรทั้งปวงนั้น มีอรรถตื้น
ทั้งนั้นแล.
อรรถกถาอาเสวนปัจจยตากถา จบ