เมนู

อรรถกถาอาเนญชกถา


ว่าด้วย อาเนญชะ


บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องอาเนญชะ คือความเป็นผู้ไม่หวั่นไหว. ในเรื่องนั้น
ชนเหล่าใดมีความเห็นผิดดุจลัทธิของนิกายอุตตราปถกะบางพวกว่า
พระอรหันต์ตั้งอยู่ในอาเนญชะแล้วจึงปรินิพพาน เพราะกำหนดเอา
พระสูตรว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าดำรงอยู่ในจตุตถฌานแล้วจึงปรินิพพาน
ดังนี้ คำถามของสกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของ
ปรวาที.
คำว่า ในความเป็นผู้มีจิตเป็นปกติ คือปกติจิต ได้แก่ ภวังคจิต.
อธิบายว่า สัตว์ทั้งปวงผู้มีสัญญา ดำรงอยู่ในภวังคจิตแล้วย่อมทำกาละ
ด้วยจุติจิตอันมีภวังค์เป็นที่สุด. สกวาทีจึงกล่าวกะปรวาทีนั้นอย่างนี้
เพื่อจะท้วงด้วยอรรถนี้ด้วยประการฉะนี้. ในปัญหานั้น แม้ปกติจิตอัน
ไม่หวั่นไหวของพระอรหันต์ในจตุโวการภพมีอยู่แม้ก็จริง ถึงอย่างนั้น
ปัญหานี้ท่านก็ยกขึ้นแสดงแล้วด้วยปัญจโวการภพ เพราะฉะนั้น สกวาที
จึงกล่าวคำว่า ...ก็ต้องไม่กล่าวว่า เป็นต้น. คำที่เหลือในที่นี้ มีอรรถตื้น
ทั้งนั้นแล.
อรรถกถาอาเนญชกถา จบ

ธัมมาภิสมยกถา


[1865] สกวาที การตรัสรู้ธรรมมีแก่สัตว์ผู้อยู่ในครรภ์ หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. การแสดงธรรม การฟังธรรม การสนทนาธรรม
การสอบถาม การสมาทานศีล ความสังวรระวังในอินทรีย์ทั้งหลาย ความ
รู้จักประมาณในโภชนะ การประกอบความเพียรเครื่องตื่นอยู่ในปฐมยาม
และปัจฉิมยามแห่งราตรี มีแก่สัตว์อยู่ในครรภ์ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. การแสดงธรรม ฯลฯ การประกอบความเพียรเครื่อง
ตื่นอยู่ในปฐมยามและปัจฉิมยามแห่งราตรี ไม่มีแก่สัตว์ผู้อยู่ในครรภ์ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า การแสดงธรรม การฟังธรรม ฯลฯ การ
ประกอบความเพียรเครื่องตื่นอยู่ในปฐมยามและปัจฉิมยามแห่งราตรี
ไม่มีแก่สัตว์ผู้อยู่ในครรภ์ ก็ต้องไม่กล่าวว่า การตรัสรู้ธรรมมีแก่สัตว์ผู้
อยู่ในครรภ์
[1866] ส. การตรัสรู้ธรรมมีแก่สัตว์ผู้อยู่ในครรภ์ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ปัจจัยเพื่อความบังเกิดขึ้นแห่งสัมมาทิฏฐิ มี 2 อย่าง
คือ เสียงจากผู้อื่น และโยนิโสมนสิการ มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า ปัจจัยเพื่อความเกิดขึ้นแห่งสัมมาทิฏฐิ มี 2