เมนู

วรรคที่ 21


สาสนกถา


[1833] สกวาที ศาสนาได้แปลงใหม่ หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. สติปัฏฐานได้แปลงใหม่ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. ศาสนาได้แปลงใหม่ หรือ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. สัมมัปปธาน ฯลฯ อิทธิบาท ฯลฯ อินทรีย์ ฯลฯ พละ
ฯลฯ โพชฌงค์ ได้แปลงใหม่ หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. ศาสนาเป็นอกุศลในกาลก่อน ได้แปลงให้เป็นกุศล
ในภายหลังหรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. ศาสนาเป็นสาสวะ ฯลฯ เป็นสัญโญชนิยะ เป็นคันถ-
นิยะ เป็นโอฆนิยะ เป็นโยคนิยะ เป็นนีวรณิยะ เป็นปรามัฏฐะ เป็น
อุปาทานิยะ ฯลฯ เป็นสังกิเลสิกะในกาลก่อน ได้แปลงให้เป็นอสังกิเลสิกะ
ในภายหลัง หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1834] ส. บุคคลไร ที่แปลงศาสนาของพระตถาคตใหม่ได้ มี
อยู่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.

ส. บุคคลไร ที่แปลงสติปัฏฐานใหม่ได้มีอยู่ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลไร ที่แปลงสัมมัปปธาน ฯลฯ อิทธิบาท ฯลฯ
อินทรีย์ ฯลฯ พละ ฯลฯ โพชฌงค์ใหม่ได้มีอยู่ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลไร ที่แปลงคาสนาอันเป็นอกุศลในกาลก่อน
ให้เป็นกุศลในภายหลังได้มีอยู่ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลไร ที่แปลงศาสนาอันเป็นสาสวะ ฯลฯ อันเป็น
สังกิเลสิกะในกาลก่อน ให้เป็นอสังกิเลสิกะในภายหลังได้ มีอยู่หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1835] ส. ศาสนาของพระตถาคตจะแปลงใหม่อีกได้หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. สติปัฏฐานจะแปลงใหม่อีกได้หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. สัมมัปปธาน อิทธิบาท อินทรีย์ พละ ฯลฯ โพชฌงค์
จะแปลงใหม่อีกได้หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น
ส. ศาสนาอันเป็นอกุศลในกาลก่อน จะแปลงให้เป็นกุศล
ในภายหลังได้หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. ศาสนาอันเป็นสาวะ ฯลฯ อันเป็นสังกิเลสิกะใน

กาลก่อน จะแปลงให้เป็นอสังกิเลสิกะในภายหลังได้หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สาสนากถา จบ

อรรถกถาสาสนกถา


ว่าด้วย ศาสนา


บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องศาสนา คือคำสั่งสอน หรือพระธรรมวินัย. ชน
เหล่าใดมีความเห็นผิดดุจลัทธินิกายอุตตราปถกะบางพวกว่า ศาสนา
แต่งขึ้นใหม่ด้วย ว่าบุคคลบางคนย่อมแปลงศาสนาของพระตถาคตขึ้นใหม่
ด้วย ว่า ศาสนาของพระตถาคตบุคคลสามารถแต่งใหม่ได้ด้วย ทั้งนี้ โดย
หมายเอาการสังคายนาทั้ง 3 ครั้ง ดังนี้ คำถามของสกวาทีในกถาแม้ทั้ง
3 หมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที.
คำว่า สติปัฏฐานได้แปลงใหม่หรือ เป็นต้น สกวาทีกล่าวเพื่อ
ติเตียนปัญหาแม้ทั้ง 3 ด้วยคำว่า อริยธรรมทั้งหลายมีสติปัฏฐานเป็นต้น
ก็ดี เทศนาแห่งกุศลธรรมเป็นต้นก็ดี ชื่อว่าศาสนา ในศาสนานั้น เว้น
ธรรมทั้งหลายมีสติปัฏฐานเป็นต้นที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงแก่ชน
เหล่าใดแล้ว ศาสนาชื่อว่าอันบุคคลนั้นทำขึ้นใหม่โดยการกระทำธรรม
เหล่าอื่นให้เป็นสติปัฏฐานเป็นต้น หรือกระทำอกุศลธรรมเป็นต้นให้เป็น
กุศลธรรมเป็นต้น หรือว่าศาสนาอันใคร ๆ กระทำแล้วอย่างนั้นมีอยู่
หรือพึงอาจเพื่อทำอย่างนั้นได้มีอยู่หรือ ดังนี้. คำที่เหลือในที่ทั้งปวงพึงทราบ
ตามพระบาลีนั่นแล.
อรรถกถาสาสนกถา จบ