เมนู

มัคคกถา


[1826] สกวาที มรรคมีองค์ 5 หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสมรรคมีองค์ 8 คือ สัมมา-
ทิฏฐิ ฯลฯ สัมมาสมาธิไว้ มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสมรรคมีองค์ 8
คือสัมมาทิฏฐิ ฯลฯ สัมมาสมาธิไว้ ก็ต้องไม่กล่าวว่า มรรคมีองค์ 5.
ส. มรรคมีองค์ 5 หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า บรรดาทาง ทาง
มีองค์ 7 ประเสริฐที่สุด บรรดาสัจจะ สัจจะ 4 ประเสริฐที่สุด บรรดา
ธรรม วิราคธรรม ประเสริฐที่สุด บรรดาวิบท พระตถาคตผู้มีจักษุ
ประเสริฐที่สุด
ดังนี้1 เป็นสูตรมีอยู่จริง มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ถ้าอย่างนั้น มรรคก็มีองค์ 8 น่ะสิ.
[1827] ส. สัมมาวาจาเป็นองค์แห่งมรรค แต่สัมมาวาจานั้น
ไม่เป็นมรรค หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. สัมมาทิฏฐิเป็นองค์แห่งมรรค แต่สัมมาทิฏฐินั้นไม่
เป็นมรรค หรือ ?

1. ขุ.ธ. 25/30.

ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯ ล ฯ
ส. สัมมาวาจาเป็นของแห่งมรรค แต่สัมมาวาจานั้น
ไม่เป็นมรรค หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. สัมมาสังกัปปะ ฯลฯ สัมมาวายามะ ฯลฯ สัมมาสติ
ฯลฯ สัมมาสมาธิ เป็นองค์แห่งมรรค แต่สัมมาสมาธินั้นไม่เป็นมรรค หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. สัมมากัมมันตะ ฯ ล ฯ สัมมาอาชีวะ เป็นองค์แห่งมรรค
แต่สัมมาอาชีวะนั้น ไม่เป็นมรรค หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ สัมมาสมาธิเป็นองค์แห่งมรรค แต่
สัมมาสมาธินั้นไม่เป็นมรรค หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1828] ส. สัมมาทิฏฐิเป็นองค์แห่งมรรค และสัมมาทิฏฐินั้น
เป็นมรรค หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. สัมมาวาจาเป็นองค์แห่งมรรค และสัมมาวาจานั้น
เป็นมรรค หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. สัมมาทิฏฐิเป็นองค์แห่งมรรค และสัมมาทิฏฐินั้นเป็น
มรรค หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.

ส. สัมมากัมมันตะ ฯลฯ สัมมาอาชีวะเป็นองค์แห่งมรรค
และสัมมาอาชีวะนั้นเป็นมรรค หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. สัมมาสังกัปปะ ฯลฯ สัมมาวายามะ ฯลฯ สัมมาสติ
ฯลฯ สัมมาสมาธิเป็นองค์แห่งมรรค และสัมมาสมาธินั้นเป็นมรรค หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. สัมมาวาจา ฯลฯ สัมมากัมมันตะ ฯลฯ สัมมาอาชีวะ
เป็นองค์แห่งมรรค และสัมมาอาชีวะนั้นเป็นมรรค หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1829] ป. อริยมรรคมีองค์ 8 หรือ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ก็กายกรรม วจีกรรม
อาชีวะของบุคคลนั้น เป็นอาการบริสุทธิ์ ในกาลก่อนเทียวแล อริยมรรค
มีองค์ 8 นี้ ย่อมถึงความบริบูรณ์ด้วยภาวนา แก่บุคคลนั้น ด้วยประการ
ฉะนี้
ดังนี้1 เป็นสูตรมีอยู่จริง มิใช่หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. ถ้าอย่างนั้นมรรคก็มีองค์ 5 น่ะสิ.
[1830] ส. มรรคมีองค์ 5 หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ดูก่อนสุภัททะ

1. ที.มหา. 10/138.

อริยมรรคมีองค์ 8 หาไม่ได้ในธรรมวินัยใดแล แม้สมณะก็หามิได้ใน
ธรรมวินัย แม้สมณะที่ 2 ก็หาไม่ได้ในธรรมวินัยนั้น แม้สมณะที่ 3
ก็หาไม่ได้ในธรรมวินัยนั้น แม้สมณะที่ 4 ก็หาไม่ได้ในธรรมวินัยนั้น ก็
อริยมรรคมีองค์ 8 หาได้ในธรรมวินัยใดแล แม้สมณะก็หาได้ในธรรม
วินัยนั้น แม้สมณะที่ 2 ฯลฯ แม้สมณะที่ 3 ฯลฯ แม้สมณะที่ 4 ก็หาได้
ในธรรมวินัยนั้น ดูก่อนสุภัททะ อริยมรรคมีองค์ 8 ย่อมหาได้ในธรรม
วินัยนี้แล สมณะย่อมหาได้ในธรรมวินัยนี้แล สมณะที่ 2 สมณะที่ 3
สมณะที่ 4 ย่อมหาได้ในธรรมวินัยนี้ ปรับปวาทโดยเจ้าลัทธิอื่น ๆ ว่าง
จากสมณะทั้งหลาย
ดังนี้1 เป็นสูตรมีอยู่จริง มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ถ้าอย่างนั้น มรรคก็มีองค์ 8 น่ะสิ.
มัคคกถา จบ

อรรถกถามัคคกถา


ว่าด้วย มรรค


บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องมรรค. ในปัญหานั้น ชนเหล่าใดมีความเห็นผิด
ดุจลัทธินิกายมหิสาสกะทั้งหลายว่า ว่าโดยแน่นอน มรรคมีองค์ 5 เท่านั้น
เพราะอาศัยพระสูตรที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า ก็กายกรรม วจีกรรม
อาชีวะของผู้นั้นเป็นอาการหมดจดดีแล้วในกาลก่อนเทียวแล
ฯลฯ ดังนี้
นั่นแหละจึงกล่าวว่า สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ ว่าเป็น
ธรรมไม่ประกอบกับจิต ดังนี้ คำถามของสกวาทีว่า มรรคมีองค์ 5 หรือ

1. ที.มหา.10/138.