เมนู

วรรคที่ 20



อสัญจิจจกถา



[1809] สกวาที บุคคลปลงชีวิตมารดาโดยมิได้แกล้ง โดยไม่ได้
เจตนา เป็นผู้ชื่อว่า ทำอนันตริยกรรม หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. บุคคลฆ่าสัตว์โดยมิได้แกล้ง เป็นผู้ชื่อว่า ทำปาณาติบาต
หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลปลงชีวิตมารดาโดยมิได้แกล้ง เป็นผู้ชื่อว่า ทำ
อนันตริยกรรม หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขามิได้ให้ ฯลฯ กล่าว
คำเท็จโดยมิได้แกล้ง เป็นผู้ชื่อว่า กล่าวมุสาวาท หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1810] ส. บุคคลฆ่าสัตว์โดยมิได้แกล้ง ไม่เป็นผู้ชื่อว่า ทำ
ปาณาติบาต หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลปลงชีวิตมารดาโดยมิได้แกล้ง ไม่เป็นผู้ชื่อว่า
ทำอนันตริยกรรม หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขามิได้ให้ ฯลฯ กล่าว
คำเท็จโดยมิได้แกล้ง ไม่เป็นผู้ชื่อว่า กล่าวมุสาวาท หรือ ?

ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลปลงชีวิตมารดาโดยมิได้แกล้ง ไม่เป็นผู้ชื่อว่า
ทำอนันตริยกรรม หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1811] ส. บุคคลปลงชีวิตมารดาโดยมิได้แกล้ง เป็นผู้ชื่อว่า
ทำอนันตริยกรรม หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. คำว่า บุคคลปลงชีวิตมารดาโดยมิได้แกล้ง เป็นผู้
ชื่อว่า ทำอนันตริยกรรม ดังนี้ เป็นสูตรมีอยู่จริง หรือ ?
ป. ไม่มี.
ส. คำว่า บุคคลแกล้งปลงชีวิตมารดา เป็นผู้ชื่อว่า ทำ
อนันตริยกรรม ดังนี้ เป็นสูตรมีอยู่จริง หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า คำว่า บุคคลแกล้งปลงชีวิตมารดา เป็นผู้
ชื่อว่า ทำอนันตริยกรรม ดังนี้ เป็นสูตรมีอยู่จริง ก็ต้องไม่กล่าวว่า บุคคล
ปลงชีวิตมารดาโดยมิได้แกล้ง เป็นผู้ชื่อว่า ทำอนันตริยกรรม.
[1812] ป. ไม่พึงกล่าวว่า บุคคลผู้ฆ่ามารดา เป็นผู้ชื่อว่า ทำ
อนันตริยกรรม หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. เขาได้ปลงชีวิตมารดาแล้ว มิใช่หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. หากว่า เขาได้ปลงชีวิตมารดาแล้ว ด้วยเหตุนั้นนะ

ท่านจึงต้องกล่าวว่า บุคคลฆ่ามารดา เป็นผู้ชื่อว่า ทำอนันตริยกรรม.
ป. ไม่พึงกล่าวว่า บุคคลผู้ฆ่าบิดา เป็นชื่อว่า ทำอนัน-
ตริยกรรม หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. เขาได้ปลงชีวิตมาดาแล้ว มิใช่หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. หากว่า เขาได้ปลงชีวิตบิดาแล้ว ด้วยเหตุนั้นนะ ท่าน
จึงต้องกล่าวว่า บุคคลผู้ฆ่าบิดา เป็นผู้ชื่อว่า ทำอนันตริยกรรม.
ป. ไม่พึงกล่าวว่า บุคคลผู้ฆ่าพระอรหันต์ เป็นผู้ชื่อว่า
ทำอนันตริยกรรม หรือ.
ส. ถูกแล้ว.
ป. เขาได้ปลงชีวิตพระอรหันต์แล้ว มิใช่หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. หากว่า เขาได้ปลงชีวิตพระอรหันต์แล้ว ด้วยเหตุนั้น
นะท่านจึงต้องกล่าวว่า บุคคลฆ่าพระอรหันต์ เป็นผู้ชื่อว่า ทำอนันตริยกรรม.
ป. ไม่พึงกล่าวว่า บุคคลยังพระโลหิตให้ห้อขึ้น เป็นผู้
ชื่อว่า ทำอนันตริยกรรม หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. เขาได้ยังพระโลหิตของพระตถาคตให้ห้อแล้ว มิใช่
หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. หากว่า เขาได้ยังพระโลหิตของพระตถาคตให้ห้อ

แล้ว ด้วยเหตุนั้นนะ ท่านจึงต้องกล่าวว่า บุคคลผู้ยังพระโลหิตให้ห้อขึ้น
เป็นผู้ชื่อว่า ทำอนันตริยกรรม.
ส. บุคคลทำสังฆเภท เป็นผู้ชื่อว่า ทำอนันตริยกรรม
หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลผู้ทำสังฆเภท เป็นผู้ชื่อว่า ทำอนันตริยกรรม
ทั้งหมด หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลผู้ทำสังฆเภท เป็นผู้ชื่อว่า ทำอนันตริยกรรม
ทั้งหมด หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลเป็นผู้มีความสำคัญว่า ถูกธรรมอันยังสงฆ์ให้
แตกกัน เป็นผู้ชื่อว่า ทำอนันตริยกรรม หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลเป็นผู้มีความสำคัญว่า ถูกธรรมอันยังสงฆ์ให้
แตกกัน เป็นผู้ชื่อว่า ทำอนันตริยกรรม หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ดูก่อนอุบาลี บุคคล
ผู้ทำสังฆเภท ที่จะต้องไปอบาย จะต้องไปนรก ตั้งอยู่ตลอดกัลป์ แก้ไข
ไม่ได้ มีอยู่ บุคคลผู้ทำสังฆเภท ที่ไม่ต้องไปสู่อบาย ไม่ต้องไปนรก ไม่
ตั้งอยู่ตลอดกัลป์ มิใช่ผู้แก้ไขไม่ได้ มีอยู่
ดังนี้1 เป็นสูตรมีอยู่จริง มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.

1. วิ. จุ. 7/411.

ส. ถ้าอย่างนั้น ก็ไม่พึงกล่าวว่า บุคคลเป็นผู้มีความ
สำคัญว่า ถูกธรรมยังสงฆ์ให้แตกกัน เป็นผู้ชื่อว่าทำอนันตริยกรรม.
[1813] ป. ไม่พึงกล่าวว่า บุคคลผู้มีความสำคัญว่า ถูกธรรม
ยังสงฆ์ให้แตกกัน เป็นผู้ชื่อว่า ทำอนันตริยกรรม หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า บุคคลผู้ทำสังฆเภท
เป็นผู้จะต้องไปอบาย จะต้องไปนรก ตั้งอยู่ตลอดกัลป์ เขาเป็นผู้ยินดี
ในการแยก ไม่ตั้งอยู่ในธรรม ย่อมคลาดจากธรรมเป็นแดนเกษมจาก
โยคะ เขาทำลายสงฆ์ผู้พร้อมเพรียงกันแล้ว ย่อมไหม้ในนรกตลอดกัลป์

ดังนี้1 เป็นสูตรมีอยู่จริง มิใช่หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. ถ้าอย่างนั้น บุคคลผู้ทำสังฆเภท ก็เป็นผู้ชื่อว่า ทำ
อนันตริยกรรม น่ะสิ.
อสัญจิจจกถา จบ

อรรถกถาอสัญจิจจกถา



ว่าด้วย อสัญจิจจะ



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องอสัญจิจจะไม่แกล้ง คือไม่เจตนา. ในเรื่องนั้น ชน
เหล่าใดมีความเห็นผิดดุจลัทธิของนิกายอุตตราปถกะทั้งหลายว่า " ขึ้นชื่อ
ว่าอนันตริยวัตถุเป็นของหนักเป็นของใหญ่ เพราะฉะนั้น แม้ในวัตถุ

1. วิ.จุ 7/411.