เมนู

ปัตติกถา



[1781] สกวาที การได้ เป็นอสังขตะ หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. เป็นนิพพาน เป็นที่ต้านทาน เป็นที่เร้น เป็นที่พึ่ง
เป็นที่หมาย เป็นฐานะอันไม่เคลื่อน เป็นอมตะ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. การได้ เป็นอสังขตะ นิพพานก็เป็นอสังขตะ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. อสังขตะเป็น 2 อย่าง หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. อสังขตะเป็น 2 อย่าง หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ที่ต้านทานเป็น 2 อย่าง ที่เร้นก็เป็น 2 อย่าง ที่พึ่ง
ก็เป็น 2 อย่าง ที่หมายก็เป็น 2 อย่าง ฐานะอันไม่เคลื่อนก็เป็น 2 อย่าง
อมตะก็เป็น 2 อย่าง นิพพานก็เป็น 2 อย่าง หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1782] ส. การได้จีวร เป็นอสังขตะ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เป็นนิพพาน ฯลฯ เป็นอมตะ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. การได้จีวร เป็นอสังขตะ นิพพานก็เป็นอสังขตะ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.

ส. อสังขตะเป็น 2 อย่าง หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯ ล ฯ
ส. อสังขตะเป็น 2 อย่าง หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ที่ต้านทานเป็น 2 อย่าง ที่เร้นก็เป็น 2 อย่าง ที่พึ่ง
ก็เป็น 2 อย่าง ที่หมายก็เป็น 2 อย่าง ฐานะอันไม่เคลื่อนก็เป็น 2 อย่าง
อมตะก็เป็น 2 อย่าง นิพพานก็เป็น 2 อย่าง หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. การได้บิณฑบาต ฯลฯ เสนาสนะ คิลานปัจจยเภสัชช-
บริขาร เป็นอสังขตะ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เป็นนิพพาน ฯลฯ เป็นอมตะ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส การได้คิลานปัจจยเภสัชชบริขาร เป็นอสังขตะ นิพพาน
ก็เป็นอสังขตะ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. อสังขตะเป็น 2 อย่าง หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. อสังขตะเป็น 2 อย่าง หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ที่ต้านทานเป็น 2 อย่าง ฯลฯ นิพพานก็เป็น 2 อย่าง
หรือ ?

ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. การได้จีวรเป็นอสังขตะ การได้บิณฑบาต ฯลฯ
เสนาสนะ การได้คิลานปัจจยเภสัชชบริขาร ก็เป็นอสังขตะ นิพพานก็
เป็นอสังขตะ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. อสังขตะเป็น 5 อย่าง หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. อสังขตะเป็น 5 อย่าง หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ที่ต้านทานเป็น 5 อย่าง ฯลฯ นิพพานก็เป็น 5 อย่าง
หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1783] ส. การได้ปฐมฌานเป็นอสังขตะ หรือ พึงให้พิสดาร
เหมือนกันทุกอย่าง
การได้ทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌาน อากาสานัญ-
จายตนฌาน วิญญาณัญจายตนฌาน อากิญจัญญายตนฌาน เนวสัญญา-
นาสัญญายตนฌาน ฯลฯ โสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผล สกทาคามิมรรค
สกทาคามิผล อนาคามิมรรค อนาคามิผล อรหัตมรรค อรหัตผล เป็น
อสังขตะ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เป็นนิพพาน ฯลฯ เป็นฐานะอันไม่เคลื่อน เป็นอมตะ
หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ

ส. การได้อรหัตผล เป็นอสังขตะ นิพพานก็เป็นอสังขตะ
หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. อสังขตะเป็น 2 อย่าง หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. อสังขตะเป็น 2 อย่าง หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ที่ต้านทานเป็น 2 อย่าง ฯลฯ นิพพานก็เป็น 2 อย่าง
หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. การได้โสดาปัตติมรรค เป็นอสังขตะ การได้โสดา-
ปัตติผล เป็นอสังขตะ ฯลฯ การได้อรหัตมรรค เป็นอสังขตะ การได้
อรหัตผลเป็นอสังขตะ นิพพานเป็นอสังขตะ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. อสังขตะเป็น 9 อย่าง หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. อสังขตะเป็น 9 อย่าง หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ที่ต้านทานเป็น 9 อย่าง ฯลฯ นิพพานก็เป็น 9 อย่าง
หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1784] ป. ไม่พึงกล่าวว่า การได้เป็นอสังขตะ หรือ ?

ส. ถูกแล้ว.
ป. การได้ เป็นไป เป็นเวทนา เป็นสัญญา เป็นสังขาร
เป็นวิญญาณ หรือ ?
ส. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ป. ถ้าอย่างนั้น การได้เป็นอสังขตะ น่ะสิ.
ปัตติกถา จบ

อรรถกถาปัตติกถา



ว่าด้วย ปัตติ คือการได้



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องการได้. ในเรื่องนั้น บุคคลย่อมได้ซึ่งสิ่งใด ๆ
การได้ซึ่งสิ่งนั้น ๆ ชื่อว่า ปัตติ. ก็ชนเหล่าใดมีความเห็นผิดว่า การได้
เป็นอสังขตะ ดังนี้ ดุจจลัทธินิกายปุพพเสลิยะทั้งหลายนั่นแหละ คำถาม
ของสกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที. คำที่เหลือ
ในที่นี้ พึงทราบตามพระบาลี เพราะมีนัยดังที่ข้าพเจ้ากล่าวแล้วในหนหลัง
นั่นแหละ.
คำว่า ไม่พึงกล่าว เป็นต้น ปรวาทีกล่าวคำบัญญัติว่า ปัตติคือ
การได้จัดเป็นอสังขตะของลัทธิใดเพื่อประกาศลัทธินั้น. ในปัญหานั้น
สกวาทีปฏิเสธว่า ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น คือไม่รับรองซึ่งความที่การได้
ทั้งสิ้นว่าเป็นสภาวธรรมมีรูปเป็นต้น จริงอยู่ ธรรมอะไร ๆ ชื่อว่า ปัตติ
คือการได้หามีไม่ ทั้งพระผู้มีพระภาคเจ้าก็มิทรงบัญญัติซึ่งความที่การ