เมนู

สุญญตากถา



[1775] สกวาที ความว่าง นับเนื่องในสังขารขันธ์ หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. ธรรมหานิมิตมิได้ก็นับเนื่องในสังขารขันธ์ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. ความว่าง นับเนื่องในสังขารขันธ์ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ธรรมหาที่ตั้งมิได้ก็นับเนื่องในสังขารขันธ์ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. ธรรมหานิมิตได้ ไม่พึงกล่าวว่า นับเนื่องในสังขาร-
ขันธ์ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ความว่างก็ไม่พึงกล่าวว่า นับเนื่องในสังขารขันธ์
หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. ธรรมหาที่ตั้งมิได้ ไม่พึงกล่าวว่า นับเนื่องในสังขาร-
ขันธ์ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ความว่างก็ไม่พึงกล่าวว่านับเนื่องในสังขารขันธ์ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. ความว่างนับเนื่องในสังขารขันธ์ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.

ส. สังขารขันธ์ มิใช่ธรรมไม่เที่ยง มิใช่ธรรมอันปัจจัย
ปรุงแต่งแล้ว มิใช่ธรรมอิงอาศัยเกิดขึ้น มิใช่ธรรมที่มีความสิ้นไปเป็น
ธรรม มิใช่ธรรมที่มีความเสื่อมไปเป็นธรรม มิใช่ธรรมที่มีความคลายไป
เป็นธรรม มิใช่ธรรมที่มีความดับไปเป็นธรรม มิใช่ธรรมที่มีความแปรไป
เป็นธรรม หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. สังขารขันธ์ เป็นธรรมไม่เที่ยง เป็นธรรมอันปัจจัย
ปรุงแต่ง เป็นธรรมอิงอาศัยเกิดขึ้น เป็นธรรมมีความสิ้นไปเป็นธรรม
เป็นธรรมมีความเสื่อมไปเป็นธรรม เป็นธรรมมีความคลายไปเป็นธรรม
เป็นธรรมมีความดับไปเป็นธรรม เป็นธรรมมีความแปรไปเป็นธรรม
มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า สังขารขันธ์ไม่เที่ยง ฯลฯ มีความแปรไป
เป็นธรรม ก็ต้องไม่กล่าวว่า ความว่างนับเนื่องในสังขารขันธ์.
[1776] ส. ความว่างแห่งรูปขันธ์ นับเนื่องในสังขารขันธ์ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ความว่างแห่งสังขารขันธ์ นับเนื่องในรูปขันธ์ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. ความว่างแห่งเวทนาขันธ์ ฯลฯ ความว่างแห่งสัญญา-
ขันธ์ ฯลฯ ความว่างแห่งวิญญาณขันธ์ นับเนื่องในสังขารขันธ์ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ความว่างแห่งสังขารขันธ์ นับเนื่องในวิญญาณขันธ์

หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1777] ส. ความว่างแห่งสังขารขันธ์ ไม่พึงกล่าวว่า นับเนื่อง
ในรูปขันธ์ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ความว่างแห่งรูปขันธ์ ไม่พึงกล่าวว่า นับเนื่องใน
สังขารขันธ์ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. ความว่างแห่งสังขารขันธ์ ไม่พึงกล่าวว่า นับเนื่อง
ในเวทนาขันธ์ ฯลฯ นับเนื่องในสัญญาขันธ์ ฯลฯ นับเนื่องในวิญญาณขันธ์
หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ความว่างแห่งวิญญาณขันธ์ ไม่พึงกล่าวว่า นับเนื่องในสังขารขันธ์ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1778] ป. ไม่พึงกล่าวว่า ความว่างนับเนื่องในสังขารขันธ์ หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
สังขารนี้ว่างจากตน หรือจากความเป็นตน
ดังนี้ เป็นสูตรมีอยู่จริง มิใช่หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. ถ้าอย่างนั้นความว่าง ก็นับเนื่องในสังขารขันธ์ น่ะสิ.
สุญญตากถา จบ

อรรถกถาสุญญตากถา



ว่าด้วย สุญญตา



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องสุญญตา คือความว่าง. ในเรื่องนั้น คำว่า สุญญตา
ได้แก่สุญญตา 2 คือ อนัตตลักขณะของขันธ์ทั้งหลาย และพระนิพพาน.
ในสุญญตาเหล่านั้น อนัตตลักขณะอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนที่นับเนื่องด้วย
สังขารขันธ์ โดยปริยายหนึ่ง พระนิพพานเป็นปริยาปันนะ คือเป็นธรรม
ที่นับเนื่องด้วยสุญญตา โดยปริยายหนึ่ง ก็ชนเหล่าใดไม่ถือเอาวิภาคนี้
มีความเห็นผิดดุจลัทธินิกายอันธกะทั้งหลายว่า สุญญตาเป็นธรรมนับ
เนื่องด้วยสังขาร ดังนี้ คำถามของสกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบ
รับรองเป็นของปรวาที.
คำว่า ธรรมหานิมิตมิได้ ได้แก่ พระนิพพานอันเว้นจากนิมิต
ทั้งปวง แม้คำว่า ธรรมอันหาที่ตั้งมิได้ คืออัปปณิหิตะ ก็เป็นชื่อของ
พระนิพพานนั้นนั่นแหละ. ถามว่า ก็เพราะเหตุไร ท่านจึงนำพระนิพพาน
นี้มากล่าว ตอบว่า เพื่อจะยกโทษของลัทธิอันไม่กล่าวจำแนกธรรม.
ด้วยว่า ลัทธิของผู้ใดว่า สุญญตาเป็นธรรมนับเนื่องด้วยสังขารขันธ์
โดยส่วนเดียว ดังนี้ เพราะไม่จำแนกออกไป ลัทธิแห่งชนนั้นก็ย่อม
ปรากฏว่า แม้แต่พระนิพพานก็เป็นธรรมที่นับเนื่องด้วยสังขารขันธ์ ดังนี้.
เพื่อจะยกขึ้นซึ่งโทษของลัทธินี้ สกวาทีจึงนำคำว่า อนิมิต และอัปปณิหิตะ
มากล่าว. ปรวาทีเมื่อไม่ปรารถนาซึ่งความที่พระนิพพานนั้นเป็นธรรม
นับเนื่องด้วยสังขารนั้น จึงตอบปฏิเสธ. คำว่า สังขารขันธ์มิใช่ธรรม
ไม่เที่ยง
เป็นต้น สกวาทีกล่าวเพื่อแสดงความผิดอันถึงความเป็นของ
ไม่เที่ยงแห่งสุญญตาอันบัณฑิตนับพร้อมแล้วว่าพระนิพพาน. คำว่า