เมนู

เวทนาขันธ์ กับสัญญาขันธ์ กับสังขารขันธ์ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า วิญญาณขันธ์ เกิดร่วมกับสังขารขันธ์ ด้วย
เหตุนั้นนะท่านจึงต้องกล่าวว่า วิญญาณขันธ์ สัมปยุตด้วยสังขารขันธ์.
ป. น้ำมัน ซับอยู่ ซึมอยู่ ในงา รส ซับอยู่ ซึมอยู่ ในอ้อย
ฉันใด ธรรมเหล่านั้น ก็แทรกอยู่ ซึมอยู่ กับธรรมเหล่านั้น ฉันนั้น หรือ ?
ส. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สัมปยุตตกถา จบ

อรรถกถาสัมปยุตตกถา



ว่าด้วย สัมปยุตธรรม



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องสัมปยุตตธรรม คือประกอบทั่วพร้อมโดยอาการ
4 มี เอกุปปาทตา เป็นต้น. ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใด มีความเห็นผิดดุจลัทธิ
ของนิกายราชคิริกะ และสิทธัตถิกะทั้งหลายว่า ธรรมทั้งหลายมีเวทนา
เป็นต้น ไม่เข้าไปตามแล้ว คือไม่เกิดร่วม ในสัญญาเป็นต้น เหมือนน้ำมัน
ซับอยู่ซึมอยู่ในงา เพราะธรรมไร ๆ ไม่สัมปยุตกับธรรมไร ๆ ครั้นเมื่อ
ความเป็นเช่นนี้มีอยู่ คำว่า สัมปยุตแล้วด้วยญาณเป็นต้นนี้ก็หาประโยชน์
มิได้ ดังนี้ คำถามของสกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้น เพื่อแสดงสัมปยุตตธรรม
ด้วยอรรถอัน 1 ที่สัมปยุตกันได้นั่นแหละ คำตอบรับรองเป็นของปรวาที
ด้วยสามารถแห่งลัทธิของตน. คำที่เหลือในที่นี้มีอรรถง่ายทั้งนั้น เพราะมี
นัยเหมือนกับที่กล่าวไว้แล้วในหนหลังนั่นแหละ.

อนึ่ง อุปมาปัญหาใดว่า น้ำมันซับอยู่ซึมอยู่ในงา เป็นต้น ที่ปรวาที
นำมาแล้ว อุปมาปัญหานั้นไม่มีความกำหนดความต่างกันจากลักษณะ
ของงาและน้ำมัน เหมือนเวทนาและสัญญา จริงอยู่ คำว่า งาจะเป็นเมล็ดงา
หรือเปลือกงาแม้ทั้งปวง สักว่าเป็นโวหาร ด้วยเหตุนั้นนั่นแหละ บุคคล
ทั้งหลายทำให้งาเกิดแล้ว ก็ถือเอาด้วยโวหารนั้นนั่นแหละ. ชื่อว่า งา ย่อม
ไม่ปรากฏโดยสัณฐานตั้งแต่ต้น เหตุใด เพราะเหตุนั้น อุปมาปัญหานี้ก็
เช่นกับไม่นำมานั่นแหละ ดังนี้แล.
อรรถกถาสัมปยุตตกถา จบ

เจตสิกกถา



[1136] สกวาที เจตสิกธรรมไม่มีหรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. ธรรมบางเหล่า ที่สหรคต เกิดร่วม ระคน สัมปยุต
เกิดกับดับพร้อม มีวัตถุเดียวกัน มีอารมณ์อันเดียวกันด้วยจิตมีอยู่ มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า ธรรมบางเหล่า ที่สหรคต เกิดร่วม ระคน
สัมปยุต เกิดกับดับพร้อม มีวัตถุอันเดียวกัน มีอารมณ์อันเดียวกันด้วยจิต
มีอยู่ ก็ต้องไม่กล่าวว่า เจตสิกธรรมไม่มี.
[1137] ส. ผัสสะเกิดร่วมกับจิตหรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า ผัสสะเกิดร่วมกับจิต ด้วยเหตุนั้นนะท่านจึง
ต้องกล่าวว่า ผัสสะเป็นเจตสิก.
ส. เวทนา ฯลฯ สัญญา เจตนา ฯลฯ สัทธา วิริยะ สติ
สมาธิ ปัญญา ราคะ โทสะ โมหะ ฯลฯ อโนตตัปปะ เกิดร่วมกับจิต หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า อโนตตัปปะเกิดร่วมกับจิต ด้วยเหตุนั้นนะ
ท่านจึงต้องกล่าวว่า อโนตตัปปะ เป็นเจตสิก.
ป. เพราะทำวิเคราะห์ว่า เกิดร่วมกับจิต จึงชื่อว่าเจตสิก
หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. เพราะทำวิเคราะห์ว่า เกิดร่วมกับผัสสะ ก็ชื่อว่า